รวมเหล่า “พระรอง” ช่วย “ม้าลาย” ครองบัลลังก์ “เซเรีย อา” 8 สมัยติด

ยูเวนตุส กลายเป็นทีมอันดับหนึ่งในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในยุค 2010s อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เนื่องจากขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์มาแล้ว 8 สมัยติด เรียกว่าครองความยิ่งใหญ่แบบเบ็ดเสร็จไม่แบ่งทีมอื่นเลยทีเดียว แม้กระทั่งฤดูกาลปัจจุบัน 2019/2020 ก็กำลังคั่วแชมป์อยู่อย่างเมามันก่อนที่ต้องหยุดแข่งแบบกะทันหันจากวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรน่า…โดยแต่ละฤดูกาลแฟนบอลต่างๆ มักจะไปโฟกัสอยู่ที่คีย์แมนของทีม และ มักจะลืมไปว่ามีผู้เล่นที่ปิดทองหลังพระพาทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกหลายคน ซึ่งวันนี้ทางทีมงาน 168Kick ผู้อ่านทุกคนย้อนกลับไปดูว่า “พระรอง” ตลอด 8 ซีซั่นที่ผ่านมา มีใครกันบ้าง?


คลาดิโอ มาร์คิซิโอ “Il Principino” นักเตะลูกหม้อของ ยูเวนตุส ที่รับบทพระรองในฤดูกาล 2011/2012

ฤดูกาล 2011/2012 : เคลาดิโอ มาร์คิซิโอฺ (Claudio Marchisio) – อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตฮีโร่ของ ยูเวนตุส ตอนเป็นนักเตะ รับงานหินเป็นฤดูกาลแรก คือ การพา ม้าลาย กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่เมือง ตูริน ต้องตกเป็นรองมหาอำนาจต่อจากสองทีมจาก มิลาน มาถึง 6 ฤดูกาลติดต่อกัน…อย่างที่แฟนบอลต่างทราบกันดีว่าการได้ตัว อันเดรีย ปิร์โล่ มาแบบฟรีๆ นั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในแผงแดนกลาง 3 คน และเขาคือ คีย์แมน ของทีมในการคว้าแชมป์อย่างไม่ต้องสงสัย บวกกับแผงกองหลังสามคนที่ประกอบไปด้วย อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกมรับแข็งแกร่งดังภูผาหิน สร้างสถิติเสียประตูน้อยที่สุดแค่ 20 ประตูเท่านั้น…ส่วนแดนหน้านั้นก็มี อเลสซานโดร มาตรี ก็ทำผลงานได้ตามาตรฐานยิงไป 10 ประตู

ไฮไลท์ผลงานของ มาร์คิซิโอ ในฤดูกาล 2011/2012

แต่อีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญ คือ “มาร์คิซิโอ” นักเตะลูกหม้อที่มีฉายาว่า “IL Principino” หรือ “เจ้าชายน้อย” ทำหน้าที่เป็นตัวฟรีในแผงกองกลางแบบกึ่ง Box to box แต่สอดเติมขึ้นไปยิงประตูในทุกครั้งที่มีโอกาส และ มีหน้าที่เก็บตกยิงไกลจากแถวสอง ส่งผลให้ปีฤดูกาลนั้นเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขากับทีมด้วยการทำไปถึง 9 ประตู กับ 4 แอสซิสต์จากการลงสนามในเกมลีกไปถึง 36 นัด


มีร์โก วูซินิช กองหน้าเลือดเซิร์บของ ยูเวนตุส ที่หลายๆ คน อาจลืมเขาคนนี้ไปแล้ว

ฤดูกาล 2012/2013 : มีร์โก วูซินิช (Mirko Vucinic) – หลายคนอาจลืมชื่อของ มีร์โก วูซินิช ศูนย์หน้าชาวเซอร์เบียออกจากสาระบบไปแล้ว…เขาย้ายมาร่วมทีม ยูเวนตุส ตั้งแต่ซีซั่น 2011/2012 จากสโมสร โรม่า ด้วยค่าตัวราว 15 ล้านยูโร…ฤดูกาลแรกของเขากับทีมถือว่าทำได้ไม่เลวด้วยการทำไป 9 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ แต่คนจะจดจำผลงานของ อเลสซานโดร มาตรี มากกว่าในฐานะตัวจบสกอร์ ภารกิจที่ยากขึ้นของลูกทีม คอนเต้ คือการป้องกันแชมป์ให้ได้ โดยทีมไม่ได้มีการเสริมทัพที่มากมายนักมีผู้เล่นเด่นๆ ที่เข้ามาเป็นตัวริมเส้นเป็นส่วนใหญ่ เช่น เมาริซิโอ อิสล่า และ ควัดโว อซาโมอาห์ ที่เล่นในตำแหน่งวิงแบ็คทั้งคู่รวมเข้ากับแกนหลักของทีมชุดแชมป์ปีก่อน…พลพรรค ม้าลาย ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวาเข้าป้ายคว้าแชมป์ได้ในท้ายที่สุด โดยมีผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุด คือ อาร์ตูโร่ วิดัล ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างมากในแดนกลาง จากการปรับจูนตำแหน่งการเล่นให้มีส่วนร่วมในเกมรุกมากขึ้นจึงก้าวไปเป็นดาวซัลโวของทีมที่ทำไปถึง 15 ประตูรวมทุกถ้วย…

ไฮไลท์การเล่นของ วูซินิช ในฤดูกาล 2012/2013

ส่วนพระรองของทีมต้องยกให้ วูซินิช ที่ยังต่อยอดฟอร์มเมื่อฤดูกาลที่แล้วได้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยการทำไป 10 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในเกมลีกทั้งหมด 31 นัด…เขาเป็นกองหน้าที่มีการจบสกอร์ที่เฉียบคมรุนแรง, หาตำแหน่งได้ดี และ ทักษะการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูที่ยอดเยี่ยม…นอกจากการยิงประตูแล้วการพักบอลในแดนหน้าเพื่อให้เพื่อนเติมขึ้นมาทำประตูก็เป็นอีกจุดที่เขาทำได้อย่างดีเยี่ยม


ย้ายมาเพียงสองฤดูกาล ปอล ป็อกบา ก็กลายสภาพจากนักเตะตัวสำรองเป็นฟันเฟืองสำคัญในการคว้าแชมป์ของ ยูเวนตุส

ฤดูกาล 2013/2014 : ปอล ป็อกบา (Paul Pogba) – พลพรรค ม้าลาย ยังเดินหน้าล่าความสำเร็จอย่างต่อเนื่องภายใต้การคุมทัพของ คอนเต้ เหมือนเดิม…ซีซั่นนี้ทีมมีการเสริมอาวุธหนักในแดนหน้าเข้ามาถึงสองราย คือ เฟร์นานโด ยอเรนเต้่ กองหน้าชาวสเปนจากสโมสร แอธเลติก บิลเบา และ คาร์ลอส เตเบซ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บวกเข้ากับตัวหลักเดิมๆ จากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เรียกได้ว่าเสริมทัพได้อย่างน่ากลัวเลยทีเดียว เพราะว่าแดนกลาง และ แดนหลัง ถือว่ายอดเยี่ยมแทบจะไร้ที่ติอยู่แล้ว…ฤดูกาลนี้ ยูเวนตุส มีเกมรุกที่น่ากลัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดสองกองหน้าตัวใหม่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรง เตเบซ ทำไป 19 ประตู และ ยอเรนเต้ ทำไป 16 ประตูเฉพาะในเกมลีก ส่วนแดนกลาง วิดัล ยังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงบวกเพิ่มอีก 11 ประตู…

ไฮไลท์การเล่นสวยๆ ของ ป็อกบา ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นเกินวัย

แต่มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัยแค่ 20 ปีเศษที่ย้ายมาแบบฟรีๆ ในฤดูกาลที่แล้วอย่าง ปอล ป็อกบา ที่เป็นแค่อะไหล่ก่อนหน้านี้ ก้าวขึ้นมาเป็นอาวุธที่น่ากลัวของทีมอย่างเต็มตัวด้วยการทำไปถึง 7 ประตู กับ 11 แอสซิสต์เฉพาะในเกมลีก และถ้านับทุกรายการเขาเป็นกองกลางที่ลงสนามให้ทีมสูงสุดถึง 51 นัด…ป็อกบา มีจุดเด่นอยู่ที่ร่างกายที่แข็งแกร่ง, ทักษะที่เหลือล้น, การยิงกับการจ่ายที่แม่นยำ และ การเล่นบอลแบบเอนเตอร์เทนแฟนบอลให้ตื่นตาตื่นใจเกินอายุ…ท้ายที่สุดแล้ว ยูเวนตุส เข้าป้ายด้วยการคว้าแชมป์อีกครั้ง แถมยังทำแต้มสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 102 คะแนน แต่น่าเสียดายที่ คอนเต้ ตัดสินใจลาออกเมื่อจบฤดูกาล เนื่องจากไม่สามารถพาทีมทำผลงานในถ้วยยุโรปได้เป็นที่น่าพอใจของบอร์ดบริหาร


อัลบาโร่ โมราต้า ทำผลงานได้อย่างน่าพอใจในฤดูกาลแรกที่ลงเล่นในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

ฤดูกาล 2014/2015 : อัลบาโร่ โมราต้า (Alvaro Morata) – มักซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เข้ามารับไม้ต่อจาก คอนเต้ ที่ก้าวขึ้นไปรับบทเทรนเนอร์ ทีมชาติอิตาลี โดยมาพร้อมดีกรีที่ไม่ธรรมดาเพราะเคยพา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ในฤดูกาล 2010/2011 มาแล้ว…ขุมกำลังตัวหลักของ ม้าลาย ยังอยู่กันครบครัน และ มีการเสริมทัพที่สำคัญในแดนหน้า คือ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ย้ายมาด้วยค่าตัวราว 20 ล้านยูโร ซึ่งทาง โมราต้า เป็นศูนย์หน้าสไตล์โบราณมีจุดเด่นอยู่ที่การจบสกอร์ และ เล่นลูกกลางอากาศได้อย่างแข็งแกร่งรวมไปถึงอายุยังน้อย แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดีนักในศึก ซูเปอร์ โคปา อิตาเลียน่า ด้วยการแพ้ให้กับ นาโปลี ในการดวลจุดโทษ แต่หลังจากนั้นในเกมลีกพลพรรค ม้าลาย ก็ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา คิเอลลินี่, วิดัล, ปิร์โล่ และ ป็อกบา ยังคงเล่นได้ตามมาตรฐาน ยิ่งไปกว่านั้น คาร์ลอส เตเบซ ยังคงเป็นเครื่องจักรสังหารประตูในแดนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำไปถึง 20 ประตู จากการลงเล่นในเกมลีกทั้งหมด 32 นัดเป็นดาวซัลโวของทีมในปีนั้น…

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้ คือ โมราต้า ที่แม้จะเพิ่งย้ายมาเล่นในศึก กัลโช่ เซเรีย อา เป็นฤดูกาลแรกกลับทำไปได้ถึง 8 ประตู บวกกับอีก 5 แอสซิสต์เฉพาะในเกมลีกเท่านั้น จากการลงสนามทั้งหมด 29 นัด (สำรอง 18 นัด) ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และ ฉลาดเลือกของ ยูเวนตุส อีกหนึ่งครั้ง


ฤดูกาล 2015/2016 : มาริโอ มานด์ซูคิช (Mario Mandzukic) – ม้าลาย ภายใต้การคุมทัพของ อัลเลกรี ต้องเผชิญกับการสร้างทีมใหม่จากการต้องเสีย เตเบซ, ปิร์โล่, โกม็อง และ ยอเรนเต้ ที่เป็นกำลังหลักของทีมในการครองแชมป์ฤดูกาลก่อน…อย่างไรก็ตามบอร์ดบริหารของทีมก็ไม่รอช้าจัดการคว้าตัว เปาโล ดีบาล่า, มาริโอ มานด์ซูคิช, อเล็กซ์ ซานโดร, ซามี่ เคดิร่า และ ซิโมเน่ ซาซ่า เพื่อหวังนำเข้ามาแทนที่ และ ต่อยอดความสำเร็จ…โดยที่คนที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในปีนั้นเป็น ดีบาล่า ที่ทำผลงานได้อย่างคุ้มค่าตัว 40 ล้านยูโร ด้วยการทำไปถึง 19 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 34 นัดในเกมลีก

แต่อีกคนที่มองข้ามไปไม่ได้เลย คือ มาริโอ มานด์ซูคิช ศูนย์หน้าชาวโครเอเชียที่เข้ามาเพิ่มมิติในเกมรุกในเรื่องของลูกกลางอากาศ จุดเด่นของเขาอยู่ที่ความสูงใหญ่, ทุ่มเทดุดัน และ ครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งฤดูกาลแรกของเขาในลีกอิตาลีนั้นทำไปได้ 10 ประตู จากการลงเล่นในเกมลีกทั้งหมด 27 นัด ถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจเลยทีเดียว…แล้วท้ายที่สุด ยูเวนตุส ก็สามารถครองแชมป์ได้ในฤดูกาลนั้นเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน


มิราเล็ม ปานิช ย้ายมาร่วมทีม ยูเวนตุส พร้อมเปลี่ยนบทบาทมารับตำแหน่งคล้าย อันเดรีย ปิร์โล่

ฤดูกาล 2016/2017 : มิราเล็ม ปานิช (Miralem Pjanic) – ฤดูกาลที่สามในการคุมทีมของ อัลเลกรี ซึ่งเป็นปีที่ ยูเวนตุส ทุ่มทุนในการเสริมทัพไปเกือบถึง 150 ล้านยูโรเลยทีเดียว โดยดีลใหญ่ที่สุด และ ฮือฮา เป็นอย่างมากในเวลานั้นหนีไม่พ้นการคว้าตัว กอนซาโล่ ฮิกวาอิน ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์มาเสริมทัพจาก นาโปลี ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 90 ล้านยูโร แล้วกลายเป็นการย้ายทีมที่มีมูลค่าสูงสุดในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในเวลานั้น…การทุ่มทุนครั้งนั้นถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว เพราะว่า ฮิกวาอิน ประสานงานในแนวรุกกับ เปาโล ดีบาล่า ได้อย่างยอดเยี่ยม แถมกดไปถึง 24 ประตูจากการลงเล่นในเกมลีกไปทั้งหมด 38 นัด…แทบทำให้แฟนบอลลืมการย้ายออกไปของ อัลบาโร่ โมราต้า เลยทีเดียว

ไฮไลท์ผลงานของ ปานิช ภายใต้สีเสื้อของ ยูเวนตุส ในฤดูกาลแรก

แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ มิราเล็ม ปานิช ที่ย้ายมาจาก โรม่า ด้วยค่าตัวถึง 32 ล้านยูโร เขาเป็นนักเตะที่เข้ามาเติมเต็มแผงแดนกลางของ ม้าลาย ได้อย่างยอดเยี่ยม มีจุดเด่นอยู่ที่การควบคุมบอลได้ดี, ดึงจังหวะช้า-เร็วแบบมีประสิทธิภาพ และ การเติมขึ้นไปยิงประตูในบางจังหวะ…ตำแหน่งหน้าที่ของ ปานิช เปลี่ยนไปจากตอนอยู่ทีมเดิมพอสมควรด้วยการต้องลงต่ำลงมาล้วงบอล เพื่อเป็นตัวสร้างจังหวะเริ่มต้นของการตั้งเกมตั้งแต่แดนตัวเอง ซึ่งหากมองเผินๆ แล้วการเล่นของเขาคล้ายๆ กับสมัยที่ทำใช้งาน อันเดรีย ปิร์โล่ แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เนื่องจาก ปานิช จะมีการเคลื่อนที่เยอะกว่า…ถือว่าเขาเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้ามาเติมเต็มทีมช่วยให้ครองแชมป์ในฤดูกาลดังกล่าวในบั้นปลาย


เคดิร่า เป็นหนึ่งในการเซ็นฟรีที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ ม้าลาย

ฤดูกาล 2017/2018 : ซามี่ เคดิร่า (Sami Khedira) – ซีซั่นนี้ ยุเวนตุส ยังคงไว้วางใจให้ อัลเลกรี เป็นเทรนเนอร์อยู่เช่นเดิม แถมยังเสริมทัพด้วยอาวุธที่หลากหลายมากมาย อาทิ เช่น ดั๊กลาส คอสต้า ปีกชาวบราซิลตัวจี๊ดจาก บาเยิร์น มิวนิค, แบลส มาตุยดี้ กองกลางไดนาโมจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เฟเดริโก้ แบร์นาเดสคี่ แนวรุกทักษะสูงจาก ฟิออเรนติน่า แต่ก็ต้องเสียปราการหลังคนสำคัญอย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ไปให้กับ เอซี มิลาน อย่างไรก็ตามแกนหลักคนอื่นๆ อย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ยังคุมแดนหลังได้อย่างยอดเยี่ยม และ เปาโล ดีบาล่า ก็ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการทำไปถึง 22 ประตู จากการลงเล่นในเกมลีก 33 นัด

เคดิร่า โชว์ฟอร์มได้อย่างจัดจ้านให้กับ ยูเวนตุส ในฤดูกาลนี้

ส่วนปัจจัย X ในแดนกลางที่เป็นฟันเฟืองที่หลายๆ คนมองข้ามไปก็คือ ซามี่ เคดิร่า กองกลางจอมขยันที่อยู่กับทีมเป็นฤดูกาลที่สามแล้ว…สองปีแรกของเขากับทีม เคดิร่า ทำผลงานได้เสมอตัวแต่มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บคอยรบกวนอยู่บ่อยๆ ทำให้ฟอร์มไม่ต่อเนื่องมากนัก…ต่างกับฤดูกาลนี้ที่ เคดิร่า กลายเป็นตัวปิดทองหลังพระของ ม้าลาย ในสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่นัก เคดิร่า ลงเล่นในเกมลีกไปทั้งหมด 26 นัดเท่านั้น แต่กลับทำไปได้ถึง 9 ประตูเลยทีเดียว ซึ่งถือว่ามากพอสมควรกับตำแหน่งกองกลาง Box to box ที่หน้าที่หลักมักจะเป็นการตัดบอล และ คอยเชื่อมบอลง่ายๆ ถือว่าการได้ตัวเขามาแบบฟรีๆ เป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ยูเวนตุส เลยทีเดียว


ฤดูกาล 2018/2019 : แบลส มาตุยดี้ (Blaise matuidi) – ฤดูกาลนี้ ยูเวนตุส ทุ่มทุนมหาศาลอีกครั้งจัดการคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนึ่งในตัวรุกที่ฉกาจฉกรรจ์ที่สุดคนหนึ่งบนโลกใบนี้มาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 100 ล้านยูโร และกลายเป็นสถิติใหม่ในการซื้อตัวที่แพงที่สุดในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นอกจากนี้ยังดึงตัว เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กลับมาคุมแดนหลังจาก เอซี มิลาน อีกครั้ง…แน่นอนว่าการมาของ โรนัลโด้ ทำให้ทีมเปลี่ยนจุดศูนย์กลางไปที่เขาทันที หน้าที่ของเขาคือ “ทำประตู” เหมือนสมัยที่เล่นให้กับ ราชันชุดขาว แล้วเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลแรกที่ย้ายมาด้วยการยิงไปถึง 28 ประตู จากการลงสนามทุกรายการรวม 42 นัด แยกเป็นการยิงในลีก 21 ประตู…

ภาพรวมในการเล่นของ มาตุยดี้ ในสีเสื้อของ ยูเวนตุส

แต่นักเตะที่ทำหน้าที่ “Dirty Job” อยู่ในแผงแดนกลางของ ยูเวนตุส ที่หลายๆ คน มักจะมองข้าม คือ แบลส มาตุยดี้ หน้าที่ของเขามักไม่โดดเด่นแต่สำคัญอย่างมาก คือ แย่งบอลกลับมา และ คอยเชื่อมเกมด้วยการจ่ายบอลสั้นๆ ง่ายๆ บางครั้งแฟนบอลมักจะมองว่าเขาเป็นนักเตะที่ออกลูกเฟอะฟะบ่อยครั้ง ไม่เป็นที่น่าประทับใจในสายตาเลยแม้แต่น้อย…อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่า มาตุยดี้ เป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับ อัลเลกรี ในการเลือกมิดฟิลด์ลงสนาม มาตุยดี้ ลงเป็นตัวจริงมากที่สุดในตำแหน่งกองกลางให้กับ ม้าลาย ในฤดูกาลนั้นถึง 28 นัด…แล้วเขาก็เป็นฟันเฟืองที่พาต้นสังกัดช่วยคว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ ได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน


แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top