แนะนำ “มาสคอต” ทีมพรีเมียร์ลีก…ทีมไหนชื่ออะไรบ้าง?

Mascot เป็นตัวแทนของสโมสรที่ทำหน้าที่ เอนเตอร์เทน แฟนบอลทั้งในสนาม และ นอกสนามแข่ง…เราๆ ท่านๆ มักจะเห็นตัวสร้างรอยยิ้มนี้เป็นประจำในช่วงที่นักเตะเข้าสู่สนามแข่งขัน เพื่อคอยจูงมือน้องๆ หนูๆ ที่ได้รับคัดเลือกเดินลงสนามไปพร้อมกับเหล่านักเตะขวัญใจที่เป็น ฮีโร่ นอกเหนือจากนั้นกิจกรรมที่เป็นแคมเปญต่างๆ ตามชุมชนเหล่า มาสคอต มักจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างรอยยิ้ม และ ดึงดูด ให้คนมาเข้าร่วมแทบทุกชิ้น นับว่างานของเขาก็สำคัญมากเลยทีเดียว ในวันนี้ทางทีมงาน 168Kick จะพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักว่าแต่ละสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่าเป็นตัวอะไร? มีชื่อเสียงเรียงนามเช่นไร? และ มีหน้าตาเป็นแบบไหนกันบ้าง?

**กันเนอร์เซารัส** กับ **ลูคัส โพดอลสกี้** แอ็คท่าถ่ายรูปโชว์ความซี้อย่างแนบแน่น

อาร์เซน่อล (Arsenal) : กันเนอร์เซารัส (Gunnersaurus)

มาสคอต ประจำทีม ปืนใหญ่ เป็นเจ้าไดโนเสาร์สีเขียว ที่แฟนบอลบางส่วนเชื่อว่าเป็นพันธุ์ T–rex ซึ่งถือว่าเขาเป็นขวัญใจ และ เป็นที่ชื่นชอบของน้องๆ หนูๆ พอสมควร โดยที่เจ้า กันเนอร์เซารัส นั้นได้รับการคัดเลือกมาจาก ผลงานชนะเลิศ ในการแข่งขันที่ให้เด็กๆ วาดรูปส่งเข้ามาประกวด แล้วนำมาใช้แทน “กระบอกปืน” ที่เป็นความคิดแรกของสโมสรที่จะนำมาตั้งเป็น Mascot

**Hercules Lions** มากันแบบแพคเกจครอบครัวตอบสนองความชอบของแฟนบอลทุกเพศทุกวัย

แอสตัน วิลล่า (Aston Villa) : เฮอร์คิวเลส ไลอ้อนส์ (Hercules Lions)

มาสคอต ประจำทีม สิงห์ผงาด เป็นตัว สิงโต ที่มาจากฉายาของสโมสร…โดยในตอนแรกมีแค่ เพศผู้ ที่มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบไปตามยุคสมัยหลายรอบ แต่ในภายหลังได้เพิ่มตัว เพศเมีย และ สิงโตน้อย เข้ามาให้ครบครอบครัว ซึ่งเจ้าสิงโตตัวนี้น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สิงโตนีเมียน ที่อยู่ในนิยายปรับปราที่ถูกปราบลงโดย วีรบุรุษเฮอร์คิวเลส นั่นเอง

เจ้า **หมีเชอร์รี่** ถ่ายรูปหน้าสนาม **วิตาลิตี้ สเตเดี้ยม** ที่เป็นสนามเหย้าของทีม **บอร์นมัธ**

บอร์นมัธ (Bournemouth) : เชอร์รี่ แบร์ (Cherry Bear)

มาสคอต ประจำทีมของ บอร์นมัธ ที่เป็นหมีน้อยน่ารัก ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยให้นักเตะในทีมช่วยกันตั้งชื่อ…สุดท้ายแล้วกลายเป็นว่า เชอร์รี่ ที่เป็นสมญานามของสโมสรถูกนำมาใช้กับเจ้าหมีนี้ด้วยเช่นกัน

เจ้านกนางนวลตัวนี้มีชื่อว่า **กัลลี่ย์** เป็นขวัญใจของชาวเมือง **ไบรท์ตัน** ที่มีชายหาดอยู่ใกล้ๆ เป็นจุดท่องเที่ยวที่สวยงาม

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (Brighton & Hove Albion) : กัลลี่ย์ เดอะ ซีกัลล์ (Gully The Seagull)

มาสคอต ประจำทีมของ ไบรท์ตัน เป็นตัว นกนางนวล ตามฉายาของสโมสรที่มีชื่อว่า กัลลี่ย์ โดยมีที่มาจากการที่เมืองนี้อยู่ใกล้เขตชายทะเลที่เห็นนกจำนวนนี้ได้มากนั่นเอง

ภาพถ่ายของเจ้า **เบอร์ตี้** กับเหล่าแฟนบอลตัวน้อยของ **เบิร์นลี่ย์**

เบิร์นลี่ย์ (Burnley) : เบอร์ตี้ บี (Bertie Bee)

มาสคอต ประจำทีมของ เบิร์นลี่ย์ เป็นตัว ผึ้ง มีชื่อว่า เบอร์ตี้ ซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมจากเหล่าแฟนบอลมากเท่าไหร่นัก…ไม่ใช่เพราะว่า เบิร์นลี่ย์ กับ ผึ้ง นั้นไม่มีจุดเชื่อมโยงที่เข้ากันได้ แต่เนื่องมาจากวีรกรรมที่เจ้า เบอร์ตี้ แท็คเกิ้ลใส่แฟนบอลที่วิ่งลงมาในสนามแข่งขัน และ นำตัวไปขังไว้ที่ห้องกักตัวนั่นเอง

แกนนำเชียร์ประจำสนาม **สแตมฟอร์ด บริดจ์** คือ **บริดเจ็ต** และ **สแตมฟอร์ด** ที่เป็น **สิงโต**

เชลซี (Chelsea) : สแตมฟอร์ด และ บริดเจ็ต เดอะ ไลอ้อน (Stamford & Bridget The Lion)

มาสคอตแบบแพ็คคู่ ประจำทีมของ เชลซี เป็นตัว สิงโต คือ สแตมฟอร์ด (เพศผู้) และ บริดเจ็ต (เพศเมีย) มีที่มาจากตราสโมสรที่เป็น สิงโต เป็นขวัญใจของแฟนบอลประจำสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่คอยนำกองเชียร์ส่งเสียงคำรามยามเล่นเกมเหย้า

คริสตัล พาเลซ (Crystal palace) : พีท และ เคย์ล่า ดิ อีเกิ้ล (Pete & Kayla The Eagle)

มาสคอต ประจำทีม คริสตัล พาเลซ เป็นตัว นกอินทรี ที่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน คือ เคย์ล่า ที่เป็นนกอินทรีจริงๆ มีหน้าที่บินรอบสนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ก่อนเกมจะเริ่มทุกนัด…ส่วนอีกตัวหนึ่งมีชื่อว่า พีท ทำหน้าที่คอยเอนเตอร์เทนเด็กๆ กับแฟนบอลทั้งในและนอกสนามแบบไม่เคยถอดแว่นกันแดดประจำตัวออกเลย ซึ่งทั้งคู่มีที่มาจากตราสัญลักษณ์ของสโมสรนั่นเอง

แคมเปญ “**The Red is now a Blue.**” ที่นำตัวละครจาก **Angry Bird** มาเป็น **มาสคอต** ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนบอล

เอฟเวอร์ตัน (Everton) : ไม่มีการใช้อย่างเป็นทางการ (Not officially used)

ก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน เคยนำเอา ช้าง ที่เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของอดีตสปอนเซอร์มาใช้เป็น มาสคอต ชั่วคราว แล้วตั้งชื่อว่า Mr.Toffee แต่พอหลังจากเปลี่ยนผู้สนับสนุนมาเป็น Angry Bird แล้วนำตัวละครหลักมาเดินพาเหรดรอบสนาม กูดิสัน พาร์ค ด้วยแคมเปญ “The Red is now a Blue.” แต่แฟนบอลกลับไม่ชอบใจเลยเป็นเหตุผลที่สโมสรยังไม่มีตัว มาสคอต อยู่ในตอนนี้

**ฟิลเบิร์ต** กับวันชิลๆ ที่สนาม **คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม** รั่งเหย้าของ **เลสเตอร์ ซิตี้**

เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City) : ฟิลเบิร์ต ฟ็อกซ์ (Filbert Fox)

มาสคอต ประจำทีม เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นตัว สุนัขจิ้งจอก ชื่อว่า ฟิลเบิร์ต ซึ่งแน่นอนว่ามีที่มาจากตราสโมสรนั่นเอง โดยที่เจ้า ฟิลเบิร์ต รับใช้สโมสรแห่งนี้มากว่า 25 ปีเข้าให้แล้ว แถมยังทำหน้าที่เอนเตอร์เทนแฟนบอลในสนามเหย้ามากว่า 1,000 เกมแล้วอีกด้วย

ลิเวอร์พูล (Liverpool) : ไมท์ตี้ เรด (Mighty Red)

มาสคอต ประจำทีม ลิเวอร์พูล นั้นมีที่มาจากตราสโมสรที่เรารู้กันดีอย่าง Liver Bird ซึ่งจัดว่าเป็น นกกาน้ำ (Cormorant) มีชื่อว่า “ไมท์ตี้ เรด” ซึ่งมีแฟนบอลบางกลุ่มถกเถียงถึงการออกแบบ มาสคอต ตัวนี้ว่า “ไม่เหมือนนกเอาซะเลย” อย่างไรก็ตาม นก นั้นเป็นสัญลักษณ์ที่ทางสโมสรหวังว่าจะนำ “ความโชคดี” มายังถิ่น แอนฟิลด์ จึงเลือกนำมาใช้นั่นเอง

**มูนเชสเตอร์** (ซ้าย) และ **มูนบีม** (ขวา) เป็นเหล่า **มาสคอต** ที่แปลกประหลาดของ **แมนเชสเตอร์ ซิตี้** ที่ไม่ทราบว่าเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทใดกันแน่!!!

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) : มูนเชสเตอร์ (Moonchester) และ มูนบีม (Moonbeam)

มาสคอตแพ็คคู่ ประจำทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีชื่อว่า มูนเชสเตอร์ (เพศชาย) กับ มูนบีม (เพศหญิง) ที่มีหน้าตาดูแปลกประหลาด และ ไม่มีใครทราบว่าเป็นตัวอะไรกันแน่!!! แต่ที่มาของชื่อนั้นมาจากเพลงเชียร์ประจำสโมสรที่โด่งดังอย่าง “Blue Moon” แม้ว่าเจ้า คู่หูมูน จะไม่มีสิ่งเชื่อมโยงใดๆ กับตราสัญลักษณ์ของสโมสรของเก่าที่เป็น “นกอินทรี” หรือปัจจุบันที่เป็น “เรือใบ” เชื่อกันว่า พวกเขามีพลังวิเศษหลายอย่างที่สามารถดลบันดาลให้สโมสรประสบความสำเร็จได้ ยกตัวอย่างเช่น “เม็ดเงินมหาศาล” ที่อัดฉีดให้ทีม

เจ้า **เฟรด เดอะ เรด** อาจจะรู้ชะตากรรมของ **โชเซ่ มูรินโญ่** อดีตผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสก็เป็นได้เลยทำการปลอบใจล่วงหน้า!!!

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) : เฟร็ด เดอะ เรด (Fred The Red)

มาสคอต ประจำทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีชื่อว่า เฟร็ด เดอะ เรด ซึ่งเขานับเป็น มาสคอต ตัวที่หกของสโมสรแล้วหากนับตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งสโมสรที่มีชื่อเดิมว่า นิวตัน ฮีธ โดยเจ้า เฟร็ด นั้นถูกใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นยุค 1990 เลยทีเดียว…เฟร็ด นั้นเป็น ปีศาจตัวสีแดง มีที่มาจากตราสัญลักษณ์ และ ฉายาของสโมสรนั่นเอง มักจะปรากฏตัวที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในชุดเหย้าของทีมในฤดูกาลนั้นๆ ที่ปักหมายเลข 55 อยู่ที่ด้านหลัง แล้วสิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่นิยมในเหล่าแฟนบอลก็คือ ลีลาการเต้นแบบเท้าไฟที่ไม่มีใครเหมือน

ลองพิจารณากันดูว่า **มอนตี้ แม็คพาย** นั้นดูเหมือนเจ้า **ไมท์ตี้ เรด** ของสโมสร **ลิเวอร์พูล** ไหม?

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (Newcastle United) : มอนตี้ แม็คพาย (Monty Magpie)

มาสคอต ประจำทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีชื่อว่า มอนตี้ แม็คพาย เป็นตัว นกกางเขนสีดำ ซึ่งทางสโสรได้รับแรงบันดาลใจตัวละครจากนิยายเยาวชนเรื่อง “One For Sorrow, Two For Joy” หรือ “บินสู่ฝัน” (ชื่อฉบับแปลไทย) ที่เป็นนิยายเกี่ยวกับเหล่า นกกางเขน ที่มีหน้าที่ทำภารกิจต่างๆ โดยทาง นิวคาสเซิ่ล หยิบยกเอานกตัวที่สองที่มีชื่อว่า “Maggie” หรือ “แม็คกี้” มาเป็นต้นแบบให้กับเจ้า ฺมอนตี้ นั่นเอง แล้วการใช้ นกกางเขน มาเป็น มาสคอต ก็เชื่อมโยงกับฉายา และ ตราสโมสรที่ใช้ในอดีตอีกด้วย…อย่างไรก็ตามมีหลายคนถกเถียงกันว่าหน้าตาของ มอนตี้ มันคล้ายคลึงกับ ไมท์ตี้ เร้ด แค่เปลี่ยนสีเท่านั้นเอง

**กัปตัน คานารี่ย์** สีหน้าดูเศร้าหมองเหลือเกิน…เหมือนรับอนาคตล่วงหน้าว่าทีมอาจตกชั้นในปีนี้

นอริช ซิตี้ (Norwich City) : กัปตัน คานารี่ย์ (Captain Canary)

มาสคอต ประจำทีม นอริช ซิตี้ มีชื่อว่า กัปตัน คานารี่ย์ เป็นตัว นกขมิ้น ซึ่งมีที่มาจากตราสัญลักษณ์ และ ฉายาของสโมสร…โดยการออกแบบนั้นออกมาเรียบง่ายเลยส่งผลให้ดูไม่ทันสมัยเท่าไหร่ในสายตาของเหล่าแฟนบอล

**กัปตัน เบลด** พาเหล่าน้องๆ หนูๆ เดินลงสนาม **บรามอลล์เลน** ที่เป็นรังเหย้าของ **เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด**

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (Sheffield United) : กัปตัน เบลด (Captain Blade)

มาสคอต ประจำทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มีชื่อว่า กัปตัน เบลด เป็นตัว โจรสลัด ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การพกดาบคู่เหน็บอยู่ที่เอวของเขาอยู่เสมอ และ มีตาเดียว…โดยชื่อของเขา และ การออกแบบ มีความเชื่อมโยงกับฉายาดาบคู่ (The Blades) และ ตราสัญลักษณ์ของสโมสร

**แซมมี่ เซนต์** สุนัขล่าเนื้อที่คอยตามล่าหาดาวรุ่งฝีเท้าดีมาร่วมทีมได้เสมอๆ

เซาแธมป์ตัน (Southampton) : แซมมี่ เซนต์ (Sammy Saint)

มาสคอต ประจำทีม เซาแธมป์ตัน มีชื่อว่า แซมมี่ เซนต์ เป็นตัว สุนัขล่าเนื้อ ซึ่งอยู่ในท้องถิ่น และ มีความจงรักภักดีกับทีม โดยเหตุผลที่ทางสโมสรเลือกใช้ สุนัขล่าเนิ้อ มาจากที่ต้องการสื่อว่า เจ้าแซมมี่ สามารถใช้ความสามารถตามล่าหานักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีราคาถูกเข้ามาร่วมทีมได้มากมายนั่นเอง

**ลิลลี่** (ซ้าย) และ **เชอร์ปี้** (ขวา) สองไก่จอมกวนถ่ายรูปคู่่กับแฟนบอลที่หน้าสนาม **เวมบลีย์**

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (Tottenham Hotspur) : เชอร์ปี้ (Chirpy)และ ลิลลี่ (Lily)

มาสคอตแพ็คคู่ ประจำทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีชื่อว่า เชอร์ปี้ (เพศผู้) และ ลิลลี่ (เพศเมีย) เป็นตัว ไก่ ซึ่งมีจุดเชื่อมโยงกับตราสัญลักษณ์ที่เป็นรูป ไก่ และ ฉายาของสโมสรอย่าง “The Lilywhites” ที่มาจากสีชุดแข่งที่ติดตาของทีมในยุคก่อน

เจ้าแตน “**แฮร์รี่**” น่าสงสารที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก…เพราะว่า **วัตฟอร์ด** มีฐานแฟนบอลที่ไม่ใหญ่นัก และ ไม่มีใครชอบแตน

วัตฟอร์ด (Watford) : แฮร์รี่ เดอะ ฮอร์เน็ต (Harry The Hornet)

มาสคอต ประจำทีม วัตฟอร์ด มีชื่อว่า แฮร์รี่ เดอะ ฮอร์เน็ต เป็นตัว แตน ซึ่งมีที่มาจากฉายาของทีมนั่นเอง แต่น่าน้อยใจที่เขาไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครชอบ แตน เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างอันตราย…

**แฮมเมอร์เฮด** หนึ่งในตัว **มาสคอต** ที่มีเรื่องราวปูมหลังมากที่สุด…

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (Westham United) : แฮมเมอร์เฮด (Hammerhead)

มาสคอต ประจำทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เป็นตัว มนุษย์ค้อน ที่เกิดมาจากการที่สายฟ้าฟาดลงมาโดนงานเหล็กก็กำเนิดเกิดเป็น นักรบที่มีพลังวิเศษ มีความเร็วดั่งสายฟ้า, ร่างกายแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า และ เป็นจอมถล่มประตู โดยที่ปูมหลังของเขายังคงเป็นความลับบางคนว่ากันว่าเป็น ช่างต่อเรือ จากบริษัท Thames Iron Works หรือไม่ก็เป็น อํศวิน จากปราสาท โบลีน…เจ้า แฮมเมอร์เฮด ถูกนำมาใช้ในปี 2011 เพื่อแทนที่เหล่า มาสคอต ชุดเก่าอย่าง เจ้าค้อนเฮอร์บี้, เจ้าหมีบับเบิ้ล และ เจ้าหมาสกูปี้ ซึ่งเชื่อกันว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ลงทุนในการออกแบบ แฮมเมอร์เฮด ไปพอสมควรเพื่อนำมาใช้ในเรื่องของการตลาด…ท่าไม้ตายของเขาที่แฟนบอลชื่นชอบ คือ ท่าเต้นหุ่นยนต์ และ สไลด์เข่าเวลาดีใจ

**วูล์ฟฟี่** และ **เวนดี้** สองคู่รักแห่งสโมสร **วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส**

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส (Wolverhampton Wanderers) : วูล์ฟฟี่ (Wolfie) กับ เวนดี้ (Wendy)

มาสคอตแพ็คคฺู่ ประจำทีม วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส เป็นตัว หมาป่า ที่มีชื่อว่า วูล์ฟฟี่ (เพศผู้) และ เวนดี้ (เพศเมีย) ทั้งคู่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตราสัญลักษณ์ของทีม และ ได้รับความนิยมจากแฟนบอลอย่างน่าพอใจ เพราะมีการทำของที่ระลึกที่มีรูปของทั้งคู่พิมพ์ลงไปออกมาขายหลากหลายชนิดเลยทีเดียว