ย้อนรอย 5 วันเดอร์คิดส์!!! ย้ายมาอนาคตดับกับ “ไก่เดือยทอง”

ไม่มีอะไรจะน่าตื่นตาตื่นใจไปกว่าการเห็นเหล่าดาวรุ่งจากทีมเยาวชน ทะลุขึ้นมามีบทบาทกับทีมชุดใหญ่ท่ามกลางดาวเตะซูเปอร์สตาร์…ซึ่งเป็นเรื่องที่เหล่าแฟนบอลหลายๆ ทีมต่างคาดหวังที่จะเห็นเช่นเดียวกับ “ยิด อาร์มี่” แฟนบอลพันธุ์แท้ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์…ตัวอย่างที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น แฮร์รี่ เคน ดาวยิงเบอร์หนึ่งทีมชาติอังกฤษที่เป็นนักเตะลูกหม้อของสโมสรทำให้ เคน กลายเป็นที่รักขงแฟนบอลอย่างมาก ในทางกลับกันนอกจากนักเตะจะต้องมีฝีเท้าที่โดดเด่นแล้วนั้น ผู้จัดการทีม ต้องมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าที่จะใช้งานเหล่าลูกนกที่เพิ่งหัดบินในสมรภูมิที่ขับเคี่ยวกันอย่างร้อนแรงอย่างศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกด้วย เหมือนกับที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กล้าหยิบยื่นโอกาสนั้นให้กับดาวรุ่งมากหน้าหลายตาตลอด 6 ปีในการคุมทีม…แน่นอนว่ามีเกิดก็ต้องมีดับเป็นธรรมดา…ซึ่งบทความนี้จะนำเสนอรายชื่อ 5 ดาวรุ่งที่เลือกฝากอนาคตกับ ไก่เดือยทอง แต่ผลลัพธ์กลับไม่ลงเอยแบบที่พวกเขาฝันเอาไว้

โจนาธาน บลอนเดล (Jonathan Blondel)

ในเดือนมกราคมปี 2002 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังอย่างยิ่งที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัวดาวรุ่งอนาคตไกลวัย 18 ปีจากสโมสร มุสครง ในลีกเบลเยี่ยม แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นได้แค่ความหวังลมๆ แล้งๆ เท่านั้นเพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นจริง…หกเดือนต่อมา บลอนเดล ตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยค่าตัวราว 2.5 ล้านปอนด์ถือว่าเป็นการลงทุนที่ราคาแพงพอสมควรในเวลานั้น…โดยทาง บลอนเดล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า “มีสโมสรใหญ่อื่นๆ มากมายที่ให้ความสนใจในตัวผม และผมเชื่อว่าการย้ายทีมครั้งนั้นจะช่วยตัวผมพัฒนาได้มากขึ้น…สเปอร์ส เป็นสโมสรใหญ่อย่างที่รู้กันแน่นอนซึ่งผมภูมิใจมากๆ ที่ได้ย้ายมาเล่นกับพวกเขา” ทางด้าน ไก่เดือยทอง ก็ตั้งความหวังกับ บลอนเดล เอาไว้สูงมาก…แต่ดาวเตะรายนี้ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเฉิดฉายได้อย่างที่ตั้งใจไว้เนื่องมาจากรูปร่างที่เสียเปรียบด้วยความสูงแค่ 5 ฟุต 8 นิ้ว ทำให้เขาบอบบางเกินไปในการเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่งผลให้เขาได้ลงเล่นไปเพียงแค่สองนัดเท่านั้น ก่อนถูกขายทิ้งให้กับ คลับ บรูช ในเดือนมกราคมปี 2004 ต่อจากนั้นดาวเตะรายนี้ก็ค้าแข้งอยู่ในประเทศบ้านเกิดจนแขวนสตั๊ดในปี 2016 ที่ผ่านมาด้วยสถิติการลงเล่นไปทั้งหมด 266 นัดเท่านั้น


เอ็มบูเลโล่ มาบิเซล่า (Mbulelo Mabizela)

มาบิเซล่า ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมปรี-ซีซั่นด้วยการช่วยให้ ออร์แลนโด้ ไพเรตส์ เอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากนั้นดาวรุ่งหนุ่มชาวแอฟริกาใต้ก็ถูกเชิญให้ไปทดสอบฝีเท้า และเซ็นสัญญาในเดือนสิงหาคมปี 2003 ตามลำดับ…มาบิเซล่า ออกสตาร์ทกับต้นสังกัดได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการยิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ประเดิมสนามในเกมที่พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ลงสนามไปอีกเพียงแค่ 8 นัดเท่านั้น เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องของการขาดระเบียบวินัยตามข่าวลือที่รายงานมาว่า เขาพลาดการลงซ้อมของทีมบ่อยครั้ง นับจากวันที่เซ็นสัญญามาเกิน 1 ปีเล็กน้อย มาบิเซล่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตกลงยกเลิกสัญญาด้วยความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย…แล้วเขาก็ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งด้วยการไปทดสอบฝีเท้ากับ ฟูแล่ม แต่ถูกปฏิเสธการเซ็นสัญญาเนื่องจากมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน…หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปเล่นให้กับ วาเลเรนก้า ในประเทศนอร์เวย์หนึ่งฤดูกาล และได้เซ็นสัญญากลับมาเล่นในบ้านเกิดกับ มาเมโลดี้ ซันดาว์นส ในเดือนสิงหาคมปี 2006 แต่ในเดือนธันวาคมเขาก็ถูกลงโทษแบนเป็นเวลา 6 เดือนเพราะไม่ผ่านการตรวจหาสารเสพย์ติด…เส้นทางการค้าแข้งของกองหลังรายนี้วนเวียนอยู่ในลีกแอฟริกาใต้หลายต่อหลายทีม…โดยทาง ไมค์ มากาบ เอเย่นต์ส่วนตัวของ มาบิเซล่า เชื่อว่านักเตะในความดูแลของเขามีความสามารถที่ยอดเยี่ยม และสามารถเล่นให้กับทีมไหนก็ได้บนโลกใบนี้ถ้าไม่ติดปัญาหานอกสนามด้วยการให้สัมภาษณ์กับ Kick Off ว่า “อ็มบูเลโล่ มาบิเซล่า เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เขาเคยเห็นด้วยตาของตนเองไม่ใช่แค่ในแถบแอฟริกาใต้เท่านั้น…ผมยังคงรักเขาเหมือนเดิม เป็นที่น่าเสียดายอย่างมากที่เราได้เห็นศักยภาพฝีเท้าของเขาไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์ด้วยซ้ำ…ทั้งๆ ที่เขามีความสามารถเพียงพอที่จะเล่นให้กับสโมสรใดก็ได้


จอห์น บอสต็อค (๋John Bostock)

บอสต็อค เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร คริสตัล พาเลซ ที่ได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียงแค่ 15 ปี 287 วัน แล้วกองกลางรายนี้ก็กลายเป็นที่จับตามองจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปไม่เว้นแม้แต่ อาร์เซน่อล และ บาร์เซโลน่า แต่ท้ายที่สุดแล้วเป็น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ได้ลายเซ็นต์ดาวเตะรายนี้ไปครอง โดยศาลยุติธรรมตัดสินให้ ไก่เดือยทอง ต้องจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวน 700,000 ปอนด์ให้กับ ปราสาทเรือนแก้ว ซึ่งดีลปัญหานี้ทำให้เจ้าของสโมสรอย่าง ไซม่อน จอร์แดน กราดเกรี้ยวเป็นอย่างมากจนถึงขนาดยกเลิกสิทธิ์ตั๋วปี และการคืนเงินกับ บอสต็อค และพ่อบุญธรรมของเขาทั้งคู่ หลังจากนั้นไม่นาน บอสต็อค ก็ได้ประเดิมสนามเป็นตัวสำรองให้กับ สเปอร์ส ในเกม ยูฟ่า คัพ ที่พบกับ ดินาโม ซาเกร็บ และกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี 295 วัน…อย่างไรก็ตามเขาได้ลงสนามไปอีกเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น ก่อนถูกปล่อยให้หลายสโมสรยืมตัว อาทิ เบรนท์ฟอร์ด, ฮัลล์ ซิตี้, เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์, สวินดอน ทาวน์ และ โตรอนโต้ ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา และถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรแบบฟรีๆ ในปี 2013…ต่อมา บอสต็อค หวังที่จะตั้งหลักอนาคตการค้าแข้งครั้งใหม่ที่ประเทศเบลเยี่ยม และก็ทำได้สำเร็จในการค้าแข้งกับ รอยัล อันทเวิร์ป และ โอเอช ลูเวิร์น แล้วถูกทีมในศึก ลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส อย่าง ล็องส์ เซ็นสัญญาไปร่วมทีมในปี 2016 ถัดมาอีกสองฤดูกาลเขาได้ย้ายไปค้าแข้งในซูเปอร์ลีก ตุรกี กับสโมสร บูร์ซาสปอร์ แต่เพียงแค่ 6 เดือน ตูลูส ทีมในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศสก็คว้าตัวเขาไปร่วมทีม…ปัจจุบัน บอสต็อค ย้ายกลับมาเล่นในประเทศอังกฤษอีกครั้งเมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยสัญญายืมตัวระยะยาวกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์


คาเมร่อน แลงแคสเตอร์ (Cameron Lancaster)

แลงแคสเตอร์ เป็นนักเตะเยาวชนรุ่นเดียวกันกับ แฮร์รี่ เคน ที่ก้าวไปเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…เขาย้ายมาร่วมทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตั้งแต่ก่อนฤดูกาล 2010/2011 จะเริ่มต้นขึ้น และถูกส่งให้กับ ดาเกแน่ม แอนด์ เรดบริดจ์ ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาลเพื่อเก็บประสบการณ์ในการลงเล่นเป็นตัวจริง หลังจากนั้นกองหน้ารายนี้ก็กลับมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2012/2013 ด้วยการถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พบกับ วีแกน แอธเลติก แทนที่ของ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในช่วง 12 นาทีสุดท้ายของเกม….ในยุคการคุมทีมของ อังเดร วิลลาสโบอาส ดาวยิงรายนี้ได้รับการขยายสัญญาออกไปอีกสองปีด้วยกัน แต่แล้วพัฒนาการฝีเท้าของเขาก็ต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากประสบปัญหาบาดเจ็บบริเวณขาหนีบ แถมพอหายเจ็บกลับมาได้ไม่นานก็ต้องพักการลงสนามอีกยาวเนื่องจากเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดจนหมดสัญญาในท้ายที่สุด…ต่อมา แลงแคสเตอร์ เซ็นสัญญากับ สตีฟเนจ แต่ต้องประสบปัญหาเรื่องความฟิตไม่ถึงระดับ เพราะร้างลาจากการลงสนามไปอย่างยาวนานจึงย้ายไปร่วมทีม เซนต์ อัลบานส์ ก่อนลงเอยด้วยการย้ายไปเล่นในสหรัฐอเมริกากับสโมสร หลุยส์วิลล์ ซิตี้ ในศึก ยูเอสแอล แชมเปี้ยนชิพ…ปัจจุบัน แลงแคสเตอร์ เป็นนักเตะในสังกัดของ แนชวิลล์ เอสซี ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ แต่ถูกปล่อยให้ย้ายกลับไปเล่นให้ หลุยส์วิลล์ ซิตี้ แบบยืมตัว


มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ (Marcus Edwards)

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เอ็ดเวิร์ดส์ ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีอนาคตสดใสที่สุดในอะคาเดมี่ของ ไก่เดือยทอง นับตั้งแต่ยุคของ เลดลี่ย์ คิง เลยทีเดียว…เขาเป็นนักเตะที่มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมจากการที่มีจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายที่ต่ำมากๆ ทำให้เขาสามารถลากบอลผ่านกองหลังได้อย่างง่ายดายเพื่อเข้าไปทำประตู หรือ สร้างโอกาสจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อนร่วมทีม แล้วจากศักยภาพที่กล่าวมาทำให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ที่ไม่ค่อยพูดอะไรเกินจริงถึงกับเอ่ยปากชมว่า “คุณภาพฝีเท้าของ เอ็ดเวิร์ดส์ น่ะเหรอ…แค่มองดูแปบเดียวก็รู้แล้ว ทั้งร่างกายของเขา และ วิธีการเล่น…มันทำให้ผมแอบนึกถึง เมสซี่ ในตอนเริ่มต้นค้าแข้งเลยล่ะ“…หลังจากถูกเอ่ยปากชมในปี 2016 ไม่นานนัก เอ็ดเวิร์ดส ก็ได้ลงประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เป็นตัวสำรองในเกม ลีก คัพ ที่ทีมเอาชนะ จิลลิ่งแฮม ไปได้แบบไม่ยากเย็นนัก…แล้วนั่นก็เป็นเกมแรก และ เกมสุดท้ายของเขาในชุด ไก่เดือยทอง เนื่องมาจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่พรากการพัฒนาฝีเท้าของเขาไป…อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมในหนังสือ “Brave New World” ของเขาว่า “เอ็ดเวิร์ดส์ นั้นขาดความรับผิดชอบ และ มีปัญหาเรื่องพฤติกรรม” เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเขาตัดสินใจย้ายไปเล่นในประเทศโปรตุเกส ซึ่งเขาได้ปฏิญาณกับตนเองว่าจะสร้างชื่อเสียงจากศักยภาพในเรื่องของฝีเท้าของเขาดังนี้ “ผมมั่นใจในตัวเองอย่างแน่นอนที่สุดว่าทัศนคติของผมนั้นดีขึ้นมากกว่าเดิมแล้วในตอนนี้…ผมรู้ดีว่าผมเป็นผู้เล่นที่ดี ผมรู้ว่าผมสามารถทำอะไรตามที่ผมต้องการได้…มันทำให้ผมมองเห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไรจากโลกฟุตบอล ผมต้องการก้าวไปสู่ระดับสูงสุดของการค้าแข้งเท่าที่ผมสามารถก้าวไปถึงได้” ปัจจุบัน เอ็ดเวิร์ดส เล่นให้กับ วิตอเรีย กิมาไรส์ ทำสถิติได้อย่างน่าสนใจด้วยการทำไป 6 ประตู กับ 7 แอสซิสต์จากการลงเล่นทั้งหมด 27 นัด


ขอขอบคุณข้อมูลบทความจาก : www.football.london

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top