Home บทความฟุตบอล อเล็กซานเดอร์ อิซาค “นิว อิบรา” แห่งวงการลูกหนังยุโรป

อเล็กซานเดอร์ อิซาค “นิว อิบรา” แห่งวงการลูกหนังยุโรป

0
อเล็กซานเดอร์ อิซาค “นิว อิบรา” แห่งวงการลูกหนังยุโรป

นี่อาจเป็นนักเตะวัย 17 ปี ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเลยก็ว่าได้ ย้อนกลับไปในเกมสตอกโฮล์มดาร์บี้แมตช์ระหว่าง เยอร์การ์เด้น กับ เอไอเค เมื่อวันที่ 21 กันยายน ปี 2016 และ อเล็กซานเดอร์ อิซาค หัวหอกดาวรุ่งชาวสวีเดน ของ เอไอเค คงจดจำอย่างไม่ลืมเลือน

ในเกมครึ่งแรก อิซาค โชว์เทคนิคอันสุดยอดด้วยการสัมผัสบอลที่นุ่มนวล ก่อนซัดประตูเสียบเสาไกลให้กับ เอไอเค ขึ้นนำ 1-0 เขาไม่เกรงกลัวที่จะแสดงอาการเฉลิมฉลองอย่างสุดเหวี่ยงต่อหน้าแฟนบอล เยอร์การ์เด้น เจ้าถิ่น

อิซาค ยังคงสร้างความเดือดดาลให้กับสาวก เยอร์การ์เด้น อย่างต่อเนื่องด้วยการโขกประตูให้ เอไอเค บุกไปนำ 2-0 ก่อนที่ ชิเนดู โอบาซี่ กองหน้าชาวไนจีเรีย จะเป็นคนซัดประตูปิดกล่องให้ เอไอเค บุกมาอัดเจ้าถิ่นถึง 3-0

โอบาซี่ เล่าว่า “อเล็กซานเดอร์ อิซาค มีศักยภาพอย่างมหาศาล และหากทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้ เขาอาจกลายเป็น สลาตัน อิบราฮิโมวิช ใหม่ของสวีเดน”

Photo : lalasport.com

“นิว สลาตัน”

ฝีเท้าอันยอดเยี่ยม และพรสวรรค์ของ อิซาค นั้น ทำให้เขาได้รับการจับตามองจากบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ซึ่งสื่อมวลชนในสเปนต่างพากันประโคมข่าวว่า ดาวรุ่งสวีดิช เตรียมย้ายจาก เอไอเค ไปร่วมทีม เรอัล มาดริด มหาอำนาจวงการลูกหนังแดนกระทิงดุในเดือนตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2017

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวดังกล่าวของสื่อสเปนก็ต้องเงียบหายไปเนื่องจาก อิซาค ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ในปี 2017 แต่ในที่สุดเขาก็ได้ย้ายมาเล่นในแดนกระทิงดุจนได้ แต่มันไม่ใช่กับ มาดริด เพราะปัจจุบัน อิซาค กำลังล่าตาข่ายให้กับ เรอัล โซเซียดาด  

อิซาค กำลังสร้างผลกระทบครั้งใหญ่ให้กับ โซเซียดาด และหนึ่งในเกมที่โชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจที่สุดของเขาในฤดูกาลนี้ก็คือ การพา โซเซียดาด บุกไปอัด มาดริด ถึงถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว 4-3 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ ซึ่งหัวหอกชาวสวีเดน ซัดไปคนเดียว 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์

อีก 3 วันต่อมา อิซาค ระเบิดฟอร์มสุดยอดอีกครั้งหลังถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของ วิลเลี่ยน โจเซ่ กองหน้าชาวบราซิล ก่อนซัดไป 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ โซเซียดาด เปิดรัง เรอาเล่ อารีน่า พลิกกับมาชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-1

ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ อดีตเด็กปั้น เอไอเค ทำให้เขาถูกมองว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งระดับท็อปได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อิซาค เป็นนักเตะรูปร่างสูง, แข็งแกร่ง, มีทักษะ และความสามารถทางเทคนิคที่ดี มันจึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ชาติเดียวกันอย่าง สลาตัน อิบราฮิโมวิช

นาโยม กิห์ดี้ โค้ชของ เอไอเค ที่เคยฝึกสอน อิซาค ในช่วงอายุ 10-13 ปี เล่าว่า “เราทั้งคู่มีความผูกพันกันเป็นพิเศษ แม้จะเติบโตในฐานะคนสวีเดน แต่เราก็เกิดในเอริเทรียเหมือนกัน พ่อ-แม่ของ อเล็กซานเดอร์ ย้ายมาที่สตอกโฮล์มในช่วงปี 1980 เนื่องจากสงครามกลางเมืองที่ยาวนานในบ้านเกิด และเขาก็เติบโตขึ้นมาในฐานะชาวสวีเดน”

“ชาวเอริเทรียเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเอง จิตใจแข็งแกร่ง รักชาติ ซึ่ง อเล็กซานเดอร์ ได้อิทธิพลหลายอย่างมาจากคุณพ่อของเขาที่เป็นครู เขาได้รับความรัก และการสนับสนุนจากครอบครัวของเขาอยู่เสมอ ผมมั่นใจว่า เขามีส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมสวีเดน และเอริเทรียน และเขาจะเป็นนักฟุตบอลที่พิเศษ”

ภูมิหลัง และการได้รับอบรมที่ดีของ อิซาค มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างตัวตนของเขา และในวัยเด็กเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตของ อิบราฮิโมวิช ที่เติบโตในย่านมัลโม่  และต้องใช้ชีวิตด้วยความยำลำบกก หลังจากพ่อ-แม่หย่ากันก่อนที่เขาจะ 2 ขวบ

อิบราฮิโมวิช เป็นคนที่ใช้ชีวิตโลดโผน น่าตื่นเต้น ค้นหา และติดตาม แต่ อิซาค เป็นคนเงียบสงบ เรียบง่าย และใช้ชีวิตติดิน เขาเป็นคนพูดน้อย และพยายามหลีกเลี่ยงสื่อ เขาสนใจที่จะเล่นบอลอย่างมีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

นีลส์ อิริค โยฮันสัน อดีตกัปตันทีม เอไอเค ซึ่งเคยเล่นร่วมกับ อิซาค กล่าวว่า “สิ่งที่โดดเด่นเกี่ยวกับ อเล็กซานเดอร์ คือ ความเป็นผู้ใหญ่ของเขา มีผู้เล่นเยาวชนที่มีความสามารถเป็นจำนวนมาก แต่พวกเขามักจะต้องใช้เวลาเพื่อที่จะเรียนรู้ในการทำงานเป็นทีม

“ในตอนนั้น อิซาค อายุแค่ 16 ปี แต่เขาเล่นฟุตบอลเหมือนคนอายุ 26 มันน่าทึ่งมาก สำหรับ สลาตัน เขาต้องการโชว์ฝีเท้าให้ทุกคนได้เห็น แต่ อเล็กซานเดอร์ ไม่ใช่แบบนั้นลย เขาทั้งคู่อาจเหมือนกันทั้งใน และนอกสนามในบางเวลา”

คริสโตเฟอร์ เบิร์กสตอร์ม นักข่าวชาวสวีเดีน ซึ่งติดตามฟอร์มของ อิซาค ตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่ง เล่าว่า “ทัศนคติ และสไตล์การเล่นของ อิซาค โดดเด่นมาก เขาไม่ได้เร็วนัก และสไตล์การยิงของเขาก็ไม่ได้รุนแรง แต่เขาอ่านเกมได้ดีกว่าคนอื่นๆ เขาไม่เคยเลี้ยงลูกบอลพร่ำเพื่อโชว์อะไรมากมาย แต่ทุกอย่างที่เขาทำมีประโยชน์อย่างมหาศาล เขามีประสิทธิภาพมาก”

Photo : en.as.co

ย้ายสู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ความสามารถของ อิซาค นั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมองข้าม เขาต้องย้ายไปค้าแข้งในต่างเดือนเพียงแค่ 11 เดือน หลังจากได้เปิดตัวให้กับทีมชุดแรกของ เอไอเค และบางทีอาจเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่า ทำไมเขาจึงเซ็นสัญญากับ ดอร์ทมุนด์ แทนที่จะะเป็น มาดริด อย่างที่เป็นข่าว

เส้นทางของ มาร์ติน โอเดการ์ด กองกลางดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ ที่ย้ายไป มาดริด เมื่อปี 2015 ด้วยวัยเพียง 16 ปี และล้มเหลว นั้น อาจเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ อิซาค ต้องพิจารณาทางเลือกของเขาอย่างหนัก และทุกวันนี้ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมทีมกันที่ โซเซียดาด

 อิซาค ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังย้ายมาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ว่า “ผมมีข้อเสนอบางอย่างบนโต๊ะ แต่คิดว่า ดอร์ทมุนด์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับผมในการพัฒนาฝีเท้าตัวเอง ผมต้องการก้าวหน้าในอาชีพ ได้โอกาสลงสนาม และหวังว่า จะช่วยทีมได้บ้าง”

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของ ดาวรุ่งชาวสวีเดน ไม่เป็นไปอย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้ อิซาค ใช้เวลา 2 ปี กับ ดอร์ทมุนด์ ในช่วงเวลาที่ “เสือเหลือง” ใช้กุนซือถึง 4 ราย และมันน่าแปลกใจว่า ไม่มีโค้ชคนใดเชื่อมั่นในตัวเขาเลย

โธมัส ทูเคิ่ล, ปีเตอร์ บอสซ์, ปีเตอร์ สโตเกอร์ และ ลูเซียง ฟาฟร์ ต่างไม่มีใครเลือกใข้งาน อิซาค เลยแม้แต่คนเดียว นั่นทำให้ อดีตเด็กปั้น เอไอเค ได้ลงสนามในศึกบุนเดสลีกาไปเพียง 5 เกมเท่านั้นในช่วงเวลา 2 ซีซั่น ก่อนที่เขาจะถูกส่งไปฝึกซ้อมกับทีมสำรองของ “เสือเหลือง”

โยเช่น ทิตท์มาร์ นักข่าวฟุตบอลชาวเยอรมัน เล่าว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจซึ่งไม่เคยมีคำอธิบายมาก่อน ไม่มีใครรู้ว่าทำไม อิซาค ไม่ได้รับโอกาสในสโมสรที่มีชื่อเสียงในการปั้นนักเตะเยาวชนอย่าง ดอร์ทมุน์ ในเวลานั้น ทูเคิ่ล กำลังคุมทีมช่วงที่ อิซาค ย้ายมา”

“แต่ ทูเคิ่ล ยอมรับว่า เขาไม่ได้เกี่ยวข้องในการเซ็นสัญญากับ อิซาค เลย และไม่รู้จักผู้เล่นมากนัก ดังนั้น มันเป็นเรื่องแปลกตั้งแต่เริ่มต้น และมันยากที่จะคิดถึงเรื่องแบบนี้ของผู้เล่นคนอื่นๆที่ถูก ดอร์ทมุนด์ ปล่อยตัวออกไป แต่ส่วนใหญ่พวกเขาก็ไปมีอนาคตกับทีมอื่น”

ลองนึกภาพหาก อิบราฮิโมวิช เจอสถานการณ์แบบนี้ มันอาจมีพาดหัวข่าวใหญ่โต และคำพูดที่เกรี้ยวกราดออกมาแน่นอน แต่ อิซาค เลือกที่จะเงียบ และแม้แต่ตอนนี้ เขาก็ยังไม่มีคำพูดที่ให้ร้ายทีมเก่าอย่าง ดอร์ทมุนด์ เลยแม้แต้น้อย

อาโมส พีเพอร์ อดีตกองหลังทีมสำรอง ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเคยเล่นกับ อิซาค และปัจจุบันกำลังค้าแข้งกับ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ทีมในบุนเดสลีกา 2 ของเยอรมัน เล่าว่า “ทุกคนเห็นว่า อเล็กซานเดอร์ เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เขาเล่นได้ทั้ง 2 เท้า มีเทคนิคที่น่าทึ่ง แข็งแกร่ง และรวดเร็ว เราคาดหวังว่า เขาจะได้รับโอกาสกับทีมชุดแรก”

“เขาโชคไม่ดีที่พลาดโอกาสในการทำประตูในเกมบุนเดสลีกานัดแรกของตัวเอง ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2017-18 มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสโมสร และมันยากสำหรับผู้เล่นเยาวชนเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ราบรื่น เขาไม่มีความสุขกับสถานการณ์ของตัวเอง แต่เขาไม่เคยพูดเกี่ยวกับมันเลย เขาทำงานหนักมาก และมักจะอยู่ซ้อมต่อเพื่อพัฒนาตัวเอง เขามุ่งมั่น และจริงจังมาก”

Photo : the18.com

ยืมตัวกับ วิลเล่ม ทเว

ในที่สุดความอดทนดังของ อิซาค ได้รับการตอบแทน เมื่อ ดอร์ทมุนด์ ปล่อยเขาให้ วิลเล่ม ทเว ในศึกเอริวิซี่ลีก ฮอลแลนด์ ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2018-2019 และดาวยิงสวีดิช ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการซัดไป 13 ประตู จาก 16 เกมที่ลงสนาม

ดอล์ฟ ฟาน เอิร์ธ นักข่าวชาวดัตช์ เล่าว่า “มันเป็นฤดูกาลแห่งประวัติศาสตร์ของ วิลเล่ม ทเว และ อิซาค เขาไม่ได้เย่อหยิ่ง หรือใช้ชีวิตโลดโผนเลย เขาบอกผมว่า เขามักถูกเปรียบเทียบกับ สลาตัน แต่เขาไม่เคยสนใจเรื่องนั้นเลย”

จอร์เดนส์ ปีเดอต์ส กัปตันทีม วิลเล่ม ทเว กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่า เขาจะส่งผลกระทบเชิงบวกกับทีม เราเพิ่งขายกองหน้าอย่าง ฟราน ซอล ให้กับ ดินาโม เคียฟ และ อิซาค ต้องเข้ามาสานงานต่อ และมันชัดเจนเลยว่า เขาช่วยเราได้มาก”

“เขาสามารถปรับตัวเข้ากับระบบเขาเราได้เป็นอย่างดี เมื่อคุณครองบอลได้ มันก็เป็นโอกาสดีที่จะโต้กลับไวได้ เพราะเขาสามารถยิงประตูได้ทั้ง 2 เท้า ซึ่งการยิงของเขาส่วนมากจะเข้ากรอบอยู่เสมอ และเห็นได้ชัดว่าเขามีสัญชาตญาณนักล่า ดูเหมือนว่า เขาจะไม่รู้สึกกดดันเลยเมื่อลงสนาม เขาเป็นคนเงียบ ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของพวกเราในห้องแต่งตัว เขายังชอบเล่นมุกตลกกับคนอื่นๆ”

photo : mundodeportivo.com

ชีวีตปัจจุบันกับ เรอัล โซเซียดาด

แม้ อิซาค จะโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดกับ วิลเล่ม ทเว แต่เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของ ดอร์ทมุนด์ ได้ โดยพลพรรค “เสือเหลือง” ไม่มีแผนการจะใช้งานเขา จึงทำให้ ดาวรุ่งสวีดิช ถูกขายให้กับ โซเซียดาด ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

อิซาค เซ็นสัญญากับ โซเซียดาด เป็นเวลา 5 ปี พร้อมมีเงื่อนไขค่าฉีกสัญญา 70 ล้านยูโร โดยที่ ดอร์ทมุนด์ พ่วงเงื่อนไขซื้อเขากลับไปร่วมทีมได้ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนปี 2021 เป็นต้นไป

อิซาค กล่าวกับ “มุนโด้ เดปอร์ติโว่” สื่อกีฬาชั้นนำแดนกระทิงดุเมื่อเร็วๆนี้ ว่า “กับ ดอร์ทมุนด์ ผมไม่ได้มีเวลามากในสนาม แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น และ ดอร์ทมุนด์ เป็นอดีตของผมไปแล้ว พวกเขาไม่ใช่อนาคตของผม ลีกสเปนเหมาะกับผม และสไตล์การเล่นของผมมาก”

สำหรับ อิซาค นั้น ชีวิตนักฟุตบอลเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น จากเด็กปั้นของทีมเล็กๆอย่าง เอไอเค ย้ายไปเจอความยากลำบากกับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนจะกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกของ โซเซียดาด และทีมชาติสวีเดน ตอนนี้ เขายังเป็นเด็กวัย 20 ปี ที่น่ารักเหมือนเดิม แม้จะถูกจับจ้อง และถูกกล่าวถึงอย่างมากในวงการลูกหนังยุโรปก็ตาม

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้