เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ทำเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการประกาศปลด เมาริซิโอ ซาร์รี่ ออกจากตำแหน่งกุนซือ พร้อมกับแต่งตั้ง อันเดรีย ปิร์โล่ ตำนานกองกลางของทีมที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการคุมทัพเลยแม้แต่เกมเดียวเข้ามากุมบังเหียนแทน

ปิร์โล่ ซึ่งเป็นสุดยอดผู้เล่นระดับตำนานของทีมชาติอิตาลี, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส นั้นถูกมองว่า เป็นคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเป็นกุนซือชั้นยอดในอนาคตทั้งที่เขายังเรียนโค้ชไม่จบเลยด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ ปิร์โล่ เคยเขียนในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่า “ผมจะไม่พนันแม้แต่บาทเดียวที่ผมจะได้เป็นผู้จัดการทีมในอนาคต มันอาจไม่ใช่งานที่ผมชื่นชอบมากนัก เพราะมันเป็นงานที่ค่อนข้างเครียด”

อดีตเพลย์เมคเกอร์ “อัซซูรี่” เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีม ยูเวนตุส ชุดยู-23 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นงานที่ไม่กดดันมากนัก แต่ในอีก 10 วันต่อมาเจ้าตัวถูกดันขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่แทน ซาร์รี่ และเซ็นสัญญาคุมทัพไปจนถึงปี 2022

ในสมัยเป็นผู้เล่น ปิร์โล่ ถือเป็นจอมทัพสุดคลาดสิคที่คอยสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นในเรื่องสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยมันสมอง, ความอัจฉริยะ, ไหวพริบ, ความนิ่ง, เทคนิค และการผ่านบอลที่เฉียบขาด และมันน่าสนใจว่า เขาจะทำหน้าที่กุนซือได้ดีเหมือนกับตอนเป็นนักเตะหรือไม่

ทำไมต้องเป็น ปิร์โล่ ?

นับตั้งแต่ ยูเวนตุส พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด 1-4 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2017 มันเหมือนกับว่า นักเตะ “เจ้าม้าลาย” หลายคนเริ่มถึงจุดอิ่มตัวกับความสำเร็จ และดูจะตื้อตันกับแนวทางการเล่นรูปแบบเดิมภายใต้การคุมทีมของ มัสซีมีเลียโน อัลเลกรี

บอร์ดบริหาร ยูเวนตุส จึงตัดสินใจทุ่มเงินมหาศาลถึง 100 ล้านยูโร คว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซุเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส มาจาก มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2018 เพื่อเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอล และส่งเสริมแบรนด์ของ “เจ้าม้าลาย” ให้ดังระดับโลก

อย่างไรก็ตาม ยูเวนตุส ในฤดูกาล 2018-2019 ภายใต้การคุมทัพของ อัลเลกรี ที่มี โรนัลโด้ ก็ยังเล่นได้น่าเบื่อเหมือนเดิม และดูขาดความกระตือรือร้น มันจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาดึงตัว ซาร์รี่ ที่มีสไตล์ชอบเล่นเกมรุกเข้ามาคุมทีมแทนในซัมเมอร์ปี 2019  

อันเดรีย อัญเญลลี่ ประธานสโมสร ยูเวนตุส รู้ดีว่า เขาต้องเดิมพันครั้งสำคัญในการให้ ปิร์โล่ เข้ามาเป็นกุนซือ แต่เขาก็เคยทำได้ผลมาแล้วในการแต่งตั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ และดึงตัว อัลเลกรี มาจาก มิลาน ซึ่งทั้ง 2 คนทำให้ “เจ้าม้าลาย” คว้าแชมป์เซเรีย อา ติดต่อกันได้ถึง 8 สมัย

ดังนั้น ปิร์โล่ ที่เป็นอดีตนักเตะระดับตำนานของทั้ง มิลาน และ ยูเวนตุส ได้รับการคาดหมายว่า จะนำจิตวิญญาณของ “เจ้าม้าลาย” กลับมาให้เป็นทีมที่เล่นได้อย่างน่าตื่นเต้นอีกครั้งมากกว่าในยุคของ อัลเลกรี และ ซาร์รี่

ยูเวนตุส แสดงออกอย่างอย่างชัดเจนว่า พวกเขาต้องการที่จะส่งเสริมแบรนด์ของตัวเองในรูปแบบที่ทันสมัยมากกว่าเดิม พร้อมกับการสร้างรายได้ที่มั่นคง และพวกเขาต้องการคนที่มีความชาญฉลาดเรื่องกีฬาโดยที่ไม่ต้องปรับตัวมากนัก ซึ่งรูปลักษณ์และบุคลิกของ ปิร์โล่ ก็ตอบสนองจุดนั้นได้เป็นอย่างดี

ปิร์โล่ จะล้มเหลวหรือไม่ ?

แน่นอน มันเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาว่า ปิร์โล่ จะประสบความสำเร็จในฐานะโค้ชเหมือนกับที่เคยเป็นนักเตะหรือไม่ โดย จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลัง ยูเวนตุส เคยยกย่องว่า ปิร์โล่ เป็นเหมือนมนุษย์ต่างดาวในสนาม แต่การบริหารจัดการทีมมันจะเป็นอะไรที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

ปิร์โล่ จะได้ทำงานกับลูกทีมอย่างใกล้ชิดในสนามซ้อม และนั่นถือเป็นข้อดีที่นักเตะ ยูเวนตุส จะได้เห็นความยอดเยี่ยมของเขา แต่มันก็เป็นความเสี่ยงเช่นกันที่จะให้ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาตอิตาลี ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆรับผิดชอบทุกอย่างในทีม 

ซาร์รี่ เป็นโค้ชที่ทำให้ นาโปลี เล่นบอลได้อย่างสวยงาม และน่าตื่นเต้น รวมถึงเคยคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ร่วมกับ เชลซี มาแล้ว แต่เขาเป็นเทรนเนอร์สมัยเก่าที่ยึดมั่นในแนวทางของตัวเองเป็นใหญ่ จึงทำให้เดินต่อไปกับ ยูเวนตุส ไม่ได้

รายงานข่าวระบุว่า บรรดาแข้งซีเนียร์ของ ยูเวนตุส อย่าง โรนัลโด้ และ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ต่างไม่พอใจแนวทางการทำทีมของ ซาร์รี่ อย่างมาก และในสถานการณ์เช่นนี้มันก็ไม่มีอะไรเสียหายหากจะเสี่ยงกับ ปิร์โล่ ซึ่งคุ้นเคยกับนักเตะหลายๆคนเป็นอย่างดี

ปิร์โล่ จะนำอะไรมาสู่ ยูเวนตุส ?

ปิร์โล่ อาจไม่มีประสบการณ์ในการคุมทีม และนั่นจะเป็นหนึ่งในปัญหาของเขา แต่อดีตจอมทัพชาวอิตาเลี่ยน ก็มีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ อัญเญลลี่ คิดว่า จะนำมาพัฒนาทีมได้ในอนาคต และสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้

ปิร์โล่ รู้จักกัลโช่ เซเรีย อา เป็นอย่างดี เขาเคยเล่นให้กับ 3 สโมสรชั้นนำในแดนมะกะโรนี และรู้จุดแข็ง-จุดอ่อนแทบทั้งหมด รวมถึงเข้าใจวัฒนธรรม และประเพณีของสโมสร

โรนัลโด้ อาจดูสับสนเมื่อฟังแท็คติคจาก ซาร์รี่ แต่เมื่อเป็น ปิร์โล่ นั้น ดาวเตะชาวโปรตุกีส อาจเข้าใจได้มากกว่า เหมือนกับที่เขาเคยทำงานร่วมกับ ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานจอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสที่ มาดริด ซึ่งทั้ง ปิร์โล่ และ ซีดาน ได้รับการยกย่อง และนับถืออย่างมากในสมัยเป็นนักเตะ

แน่นอนว่า ปิร์โล่ สามารถสื่อสารกับผู้เล่น ยูเวนตุส ได้ดีกว่าที่ ซาร์รี่ เคยทำ เพราะเขารู้จักนักเตะอย่าง จานลุยจิ บุฟฟอน, โบนุชชี่ และ คิเอลลินี เป็นอย่างดี และเขาเชื่อมั่นอยู่เสมอว่า “เจ้าม้าลาย” ต้องชนะในทุกเกมที่ลงสนาม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่แตกต่างจาก ซาร์รี่ ที่มีแต่ความกังวล

ในแง่ของการเล่นสิ่งที่เราคาดเดาได้คือ ปิร์โล่ ต้องการให้ทีมของเขาครองเกม และเก็บบอลไว้ที่เท้าให้มากที่สุดเหมือนกับโค้ชสมัยใหม่ส่วนใหญ่ แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับเกมรับเช่นกัน โดยอธิบายว่า “ความสำเร็จต้องเริ่มต้นจากแนวรับ พูดง่ายๆก็คือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ”

ปิร์โล่ ต้องเผชิญกับปัญหาอะไรบ้าง ?

ยูเวนตุส มีปัญหามากมายที่ต้องแก้ไขตั้งแต่การลดอายุเฉลี่ยของทีมไปจนถึงการมองหามิดฟิลด์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยช่วงที่ผานมา นักเตะ “เจ้าม้าลาย” มักจะส่งบอลไปให้แต่ โรนัลโด้ เป็นหลัก ซึ่งมันเป็นการเพิ่มภาระให้กับ ปีกวัย 35 ปี มากจนเกินไป

ในแดนหน้า ยูเวนตุส ไม่มีอะไรน่าห่วง พวกเขามี โรนัลโด้ และ เปาโล ดีบาล่า เป็นตัวหลัก ส่วนแนวรับก็แข็งแกร่งด้วยการนำของ 2 กองหลังจอมเก๋าอย่าง โบนุชชี และ คิเอลลินี และมีสุดยอดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งอย่าง มัทไธส์ เดอ ลิกท์

จุดที่เกิดปัญหาอยู่ในตำแหน่งฟูลแบ็ค และที่สำคัญที่สุดคือ ตำแหน่งกองกลางที่คอยบัญชาเกม และเล่นในลักษณะเดียวกับ ปิร์โล่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ ปิร์โล่ ต้องทำคือ ทำให้นักเตะ ยูเวนตุส กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความสุขอีกครั้ง