Home บทความฟุตบอล 7 แข้งบิ๊กเนมพร้อมย้ายแต่ไม่มีใครกล้าซื้อ

7 แข้งบิ๊กเนมพร้อมย้ายแต่ไม่มีใครกล้าซื้อ

0
7 แข้งบิ๊กเนมพร้อมย้ายแต่ไม่มีใครกล้าซื้อ

ตลาดนักเตะของบรรดาลีกชั้นนำทั่วของยุโรปในช่วงซัมเมอร์นี้จะเปิดทำการไปถึงวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า และถึงแม้จะมีการขยายเวลาซื้อ-ขายนักเตะออกไป แต่ผู้เล่นบางคนก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนกับต้นสังกัด  

ขณะเดียวกัน หลายสโมสรพยายามที่จะเซฟเงินตัวเองมากที่สุด และวางแผนการทำธุรกิจกันอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ตัวเองสูญเสียรายได้ไปมากกว่านี้ ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบถึงบรรดาเหล่านักเตะชื่อดังหลายๆคนโดยตรงที่ยังมีอนาคตอึมครึม

ผู้เล่นบิ๊กเนม 7 รายต่อไปนี้พร้อมจะย้ายทีม แต่การที่พวกเขามีค่าตัว และค่าเหนื่อยมหาศาล มันก็เป็นเรื่องยากที่จะมีสโมสรใดกล้าแบกรับความเสี่ยงในอนาคต

Photo : skysports.com

1. แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)

ในช่วงซัมเมอร์นี้มันคงเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายสำหรับ เบล และ มาดริด อย่างแน่นอน หลังจากมันชัดเจนแล้วว่า ปีกทีมชาติเวลส์ ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือชาวฝรั่งเศสของ “ราชันชุดขาว” อีกแล้ว

เบล ย้ายจาก ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ มาเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เมื่อปี 2013 ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 85 ล้านปอนด์ แถมฟาดค่าเหนื่อยสุดโหดถึง 600,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ ในขณะที่ มาดริด ก็หวังว่า หาทีมมารับช่วงต่อเพื่อลดภาระค่าเหนื่อยของ ดาวเตะวัย 31 ปี

ฤดูกาลนี้ เบล ลงเล่นให้กับ มาดริด ไปรวมทุกรายการเพียงแค่ 20 เกมเท่านั้น และเหลือสัญญากับ “ราชันชุดขาว” อีก 2 ปี แต่ด้วยค่าเหนื่อยมหาโหด และอายุที่เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพค้าแข้งมันก็ยากที่จะหาสโมสรใดมาคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ยกเว้นแต่ทีมในลีกจีนที่มีเงินทุนมหาศาล

Photo : skysports.com

2. เนย์มาร์ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)

บาร์เซโลน่า ต้องการพา เนย์มาร์ กลับไปยังถิ่นคัมป์ นู อยู่เสมอ แต่ค่าตัวของ ยอดหัวหอกทีมชาติบราซิล เป็นอะไรที่ยากจะเอื้อมถึงหลังจากที่เขาย้ายออกจาก “เจ้าบุญทุ่ม” ไปเล่นกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก 222 ล้านยูโร

ปัจจุบัน เนย์มาร์ รับค่าเหนื่อยจาก เปแอสเช มากถึง 36.8 ล้านยูโรต่อปี และกองหน้าวัย 28 ปี น่าจะต้องค้าแข้งในถิ่น ปาร์ก เด แพร็งส์ ไปอย่างน้อยอีก 1 ฤดูกาล ก่อนจะกลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ในช่วงซัมเมอร์หน้า ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลาที่ บาร์ซ่า และบรรดาสโมสรมหาเศรษฐีทั่วยุโรปคงรอคอย

Photo : skysports.com

3. เมซุต โอซิล (อาร์เซนอล)

มิเคล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซนอล ประกาศไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า โอซิล จะไม่มีอนาคตที่สโมสรอีกต่อไป โดยเพลย์เมคเกอร์ชาวเยอรมัน ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ให้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” ไปเพียงแค่ 18 เกมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ค่าเหนื่อยมหาศาล 300,000 ต่อสัปดาห์ ที่ โอซิล ยังคงรับจาก อาร์เซนอล นั้น มันเป็นปัญหาที่ทำให้ไม่มีสโมสรใดจะกล้าพิจารณายื่นข้อเสนอให้กับเขาพิจารณาอย่างจริงจัง และด้วยวัย 31 ปี บวกกับสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม รวมถึงฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป มันก็เป็นเรื่องยากที่หาทีมใหม่ให้กับเจ้าตัว

สัญญาของ โอซิล กับ อาร์เซนอล จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ดังนั้น ทางออกก็คือ “ไอ้ปืนใหญ่” อาจต้องยกเลิกสัญญากับเขา หรือหาทีมที่จะแชร์ค่าเหนื่อยด้วยการยืมตัวอดีตจอมทัพ “อินทรีเหล็ก” ไปเล่นก่อนจะย้ายออกเป็นการถาวรต่อไป

Photo : skysports.com

4. เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี)

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 เชลซี ทุ่มเงินมหาศาลถึง  71.6 ล้านปอนด์ ในการเซ็นสัญญากับ เกป้า มาจาก แอธเลติก บิลเบา พร้อมกับทำให้นายทวารชาวสเปน กลายเป็นผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในโลกจนถึง ณ ปัจจุบัน

แต่ล่าสุด แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี แสดงออกอย่างชัดเจนว่า เขาหมดความเชื่อมั่นในตัว เกป้า แล้ว หลังจากดร็อปมือกาววัย 25 ปี ในเกมเอฟเ คัพ นัดชิงชนะเลิศที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” พ่ายให้กับ อาร์เซน่อล 1-2 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยให้ วิลลี่ กาบาเยโร่ โกล์ชาวอาร์เจนไตน์ ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน

ขณะเดียวกัน บรรดาสื่อมวลชนในเมืองผู้ดีต่างพากันประโคมข่าวว่า เชลซี พร้อมขาย เกป้า ออกจากทีมทันที หากมีสโมสรใดสามารถจ่ายค่าตัวของ โกล์เลือดกระทิงดุ ได้ใกล้เคียงกับจำนวนที่พวกเขาซื้อมา

Photo : skysports.com

5. แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)

ในวัย 27 ปี มันคงถึงเวลาแล้วที่ เคน ต้องย้ายไปยังสโมสรที่สามารถทำให้เขาประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลได้ แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าตัวแทบจะหมดโอกาสย้ายออกจาก สเปอร์ส ก็คือการที่ ดาเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร “ไก่เดือยทอง” ประกาศไว้ว่า เขามีค่าตัว 200 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส จะไม่ได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้นส์ ลีก ฤดูกาลหน้า และโจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ ชาวโปรตุเกส ก็ต้องการสร้างทีมด้วยผู้เล่นสายเลือดใหม่ มันจึงมีความเป็นไปได้ที่ เคน จะถูกขายออกไปเพื่อระดมทุนเข้าสู่ทีม แต่เชื่อได้ว่า ไม่มีสโมสรใดหน้ามืดพอที่จะทุ่มเงินตามที่ เดวี่ ร้องขอ

Photo : skysports.com

6. ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

เด เคอา เพิ่งจรดปากกาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไปอีก 4 ปี เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน ฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย และมันมีคำถามมากมายกับตำแหน่งมือ 1 ของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด

นายด่านวัย 29 ปี รับค่าเหนื่อยจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จำนวน 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และยังไม่มีทีมใดสนใจในตัวเขาอย่างจริงจัง แต่หาก “ปีศาจแดง” ดึงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน มือกาวดาวรุ่งชาวอังกฤษ กลับมาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มันก็ทำให้ เด เคอา ต้องไตร่ตรองอนาคตของตัวเองอย่างหนักอีกครั้ง

Photo : skysports.com

7. ฟิลิเป้ คูตินโญ่ (บาร์เซโลน่า)

คูตินโญ่ ตัดสินใจผิดพลาดครั้งสำคัญในชีวิตด้วยการเลือกย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล ไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์ ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2018 ซึ่งต่อมา “หงส์แดง” ภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมัน คว้าทั้งถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และพรีเมียร์ลีก

ช่วงเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา จอมทัพชาวบราซิล กลายเป็นส่วนเกินที่ บาร์เซโลน่า และต้องย้ายไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อฤดูกาลล่าสุด แต่ด้วยค่าตัวมหาศาล และค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ อาจทำให้ “เสือใต้” ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากับเขาถาวร

คูตินโญ่ ยังเหลือสัญญากับ บาร์เซโลน่า อีก 3 ปี แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันมันก็ทำให้เจ้าตัวต้องทนอยู่ในถิ่นคัมป์ นู ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ฤดูกาล เว้นเสียแต่ว่า มีสโมสรใดพร้อมจะยืมตัวเขาไปร่วมทีม

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้