เส้นทางของ อเล็กซิส ซานเชซ ปีกทีมชาติชิลี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางมาถึงจุดจบแล้วหลังจากที่เขาตัดสินใจยกเลิกสัญญาที่เหลืออีก 2 ปี กับ “ปีศาจแดง” และเซ็นสัญญา 3 ปี ย้ายไปร่วมทีม อินเตอร์ มิลาน ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

หลังย้ายจาก อาร์เซน่อล มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 อเล็กซิส ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย และไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ได้ ก่อนจะถูกปล่อยให้ อินเตอร์ ยืมตัวไปใช้งานเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเซ็นสัญญาถาวรในที่สุด

แกร์รี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขวา แมนฯ ยูไนเต็ด อธิบายว่า “ผมคิดว่าเขาเล่นได้ทั้งกองหน้า และตัวรุกริมเส้น เขาทำประตู และครองบอลได้ยอดเยี่ยม แต่เขากลายเป็นความล้มเหลวของ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ อเล็กซิส ซานเชซ เขาไม่เหมือนคนเก่าที่เคยเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า หรือ อาร์เซน่อล เลย ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด”

อเล็กซิส เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ผลงานของเขาสวนทางกับเงินเดือนอย่างสิ้นเชิง โดยนับตั้งแต่ย้ายมายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 2018 ดาวเตะวัย 31 ปี ยิงในลีกให้กับ “ปีศาจแดง” ไปเพียง 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งหลายคนสงสัยว่า ทำไมเขาถึงล้มเหลว

ในสมัยค้าแข้งกับ อาร์เซนอล อเล็กซิส เคยได้รับการยกย่องว่า เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีม แต่หลังย้ายมา แมนฯ ยูไนเต็ด เขาต้องดิ้นรนกับฟอร์มการเล่นของตัวเองอย่างหนักจนถูกมองว่า จากหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในลีกกลายเป็นผู้เล่นที่น่าผิดหวังที่สุดในเวลาเพียงไม่กี่ปี

บางทีความล้มเหลวของ อเล็กซิส หลายคนมองว่า มันเกิดจากเรื่องภายนอกสนามอาทิ ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนักเตะคนอื่น หรือปัญหาเรื่องภาษีของเขาที่ติดพันมาจากสเปน แต่เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ในสนามมันอาจมีคำอธิบายที่น่าสนใจมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด

อเล็กซิส เป็นนักเตะที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก โดยเริ่มตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในยุโรปกับ อูดิเนเซ่ เขาเริ่มเล่นทางปีกขวา ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า และยังคงเล่นในตำแหน่งเดิม จากนั้น เจ้าตัวย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล และโดนขยับไปเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้าย รวมถึงเป็นกองหน้าตัวต่ำในบางเกม

ตลอดเส้นทางอาชีพของ อเล็กซิส เขามักถูกกำหนดบทบาทให้เป็นตัวจบสกอร์มากกว่าตัวสร้างสรรค์เกม แต่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ดเขาถูกขอให้ทำหน้าที่ทั้ง 2 อย่างในแบบที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศส เล่นอยู่ในปัจจุบัน 

แม้จะถูกจับไปเล่นทางริมเส้นในช่วงที่ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล แต่ อเล็กซิส มี โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยืนค้ำเป็นหัวหอกตัวเป้า และมี เมซูต โอซิล เป็นเพลย์เมคเกอร์ช่วยสร้างสรรค์เกม แต่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาเจอกับเพื่อนร่วมทีมที่สไตล์แตกต่างออกไป อย่าง ฆวน มาต้า ที่มักยืนติดริมเส้น และ โรเมลู ลูกากู ที่ฟอร์มตกยืนค้ำด้านหน้า ซึ่งทำให้ อเล็กซิส ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

ขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เคยอยากได้ตัว อเล็กซิส เช่นกัน โดย กวาร์ดิโอล่า เคยชื่นชม อาร์แซน เวงเกอร์ อดีตโค้ช อาร์เซนอล ที่หาตำแหน่งให้กับ อเล็กซิส อย่างเหมาะสม ซึ่งหลายคนมองว่าหาก ปีกชิลี ได้ทำงานร่วมกับ กวาร์ดิโอล่า เขาคงไม่มีจุดจบแบบนี้

ในฤดูกาลสุดท้ายกับ อาร์เซนอล อเล็กซิส กระหน่ำในลีกไปถึง 24 ประตู และมีค่าเฉลี่ยการสับไกอย่างน้อย 3.6 ครั้งต่อ 1 เกม แต่ทันทีที่ย้ายไป แมนฯ ยูไนเต็ด ค่าเฉลี่ยต่างๆของเขาลดลงไป และกลายเป็นนักเตะฟอร์มตกไปโดยปริยาย

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อดีตดาวยิง อาร์เซน่อล ที่ย้ายไปเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อธิบายว่า อเล็กซิส ต้องย้ายจากทีมที่เล่นเกมรุกอย่าง “ไอ้ปืนใหญ่” มาสู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่ ที่เน้นเกมรับเป็นหลัก ซึ่งทำให้เขาไม่มีอิสระในการเล่นมากนัก

หลายคนคิดว่า อเล็กซิส เล่นบอลประมาทจนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียการครอบครองบอล แต่มันเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องคอยสร้างสรรค์เกม โดยช่วงที่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล เขามีอิสระเยอะมากในสนาม และสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นประตูได้

ในแต่ละซีซั่นกับ อาร์เซน่อล อเล็กซิส มีสถิติทำประตูได้มากกว่าแอสซิสต์ แต่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับกลายเป็นว่า เขาแอสซิสต์ได้มากกว่าทำประตู ซึ่งมันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจเช่นกันที่แนวทางการเล่นของเขาแตกต่างออกไปจากเดิม

ฤดูกาลสุดท้ายกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อเล็กซิส สูญเสียการครอบครองบอลน้อยกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่กล้าเสี่ยงที่จะเลี้ยงบอลเหมือนเดิม และสำหรับ อเล็กซิส นั้น คงบอกได้ว่า เวงเกอร์ เป็นโค้ชที่เชื่อใจเขามากที่สุด

เวงเกอร์ กล่าวว่า “ ผมเชื่อว่าเขาสูญเสียความมั่นใจ จุดแข็งของ อเล็กซิส ซานเชซ คือ การตัดสินใจด้วยตัวเองในการเลี้ยงบอล ผู้เล่นแบบนี้กล้าที่จะเสี่ยง แต่เมื่อพวกเขาไม่มีความมั่นใจมันจึงเป็นปัญหาใหญ่ เพราะการเล่นของพวกเขามีพื้นฐานอยู่บนความรู้สึกอิสระที่จะริเริ่มทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาเป็นนักเตะที่มีร่างกายยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว”

คำพูดสุดท้ายของ เวงเกอร์ นั้น อาจเป็นคำอธิบายที่บอกได้มากที่สุดว่า อเล็กซิส ในวัย 31 ปี ถึงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว โดยลักษณะการเล่นเลี้ยงทะลุทะลวงพร้อมการจบสกอร์ที่เฉียบคมได้หายไปแล้ว และแม้ฤดูกาลล่าสุดกับ อินเตอร์ เขาจะโชว์ฟอร์มได้ดี และยิงไป 4 ประตู แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยินดีที่จะปล่อยเขาออกไปเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

อเล็กซิส เดินออกจากโอลด์ แทรฟอร์ด ด้วยความผิดหวัง และมันเขาเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการซื้อตัวที่ผิดพลาดของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังหมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสก็อตแลนด์ และไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เส้นทางของ อเล็กซิส กับ อินเตอร์ หลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป