มู & เบล การจับคู่ที่ลงตัวของ สเปอร์ส

การร่วมงานกันระหว่าง โจเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส กับ แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ ดูเหมือนว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แล้ว โดยก่อนหน้านี้กุนซือเจ้าของฉายา “เดอะ สเปเชี่ยล วัน” พลาดการร่วมงานกับ เบล ทั้งในช่วงที่เขาคุม เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ในปี 2012 มูรินโญ่ เป็นคนวางแผนดึงตัว เบล ไปที่ มาดริด ซึ่งในที่สุด เบล ก็ย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไปร่วมทีม “ราชันชุดขาว” ด้วยค่าตัว 85.3 ล้านปอนด์ ในเดือนสิงหาคมปี 2013 แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ร่วมงานกันเนื่องจาก มูรินโญ่ โดนตะเพิดออกจาถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เสียก่อน

ต่อมาในซัมเมอร์ปี 2016 และ 2017 ช่วงที่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น เขาก็พยายามจะดึงตัว เบล ไปเป็นลูกทีมให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งเจ้าตัวโดนบอร์ดบริหาร “ปีศาจแดง” ปลดออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคมปี 2018

Photo : skysports.com

อย่างไรก็ตาม การรอคอยของ มูรินโญ่ ก็สิ้นสุดลงหลังจากเขาได้ตัว เบล ไปเป็นลูกทีม สเปอร์ส สมใจเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการยืมตัวมาจาก มาดริด เป็นเวลา 1 ฤดูกาล และจากนี้ไปมันน่าสนใจว่า ทั้งคู่จะสร้างผลกระทบอะไรให้กับ “ไก่เดือยทอง” ได้บ้าง

 ในช่วงที่ผ่านมา เบล ต้องเผชิญมรสุมชีวิตอย่างหนักที่ มาดริด หลังจากไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ซีเนอดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส โดยฤดูกาลล่าสุด ปีกชาวเวลส์ มีโอกาสลงเล่นให้กับ “ราชันชุดขาว” รวมทุกรายการไปเพียง 20 เกมเท่านั้น และมันก็ไม่น่าประหลาดใจที่เขาต้องการย้ายทีม

หากพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ สเปอร์ส ถือเป็นสโมสรที่เหมาะสมกับ เบล มากที่สุด เพราะเขาเคยเล่นกับ “ไก่เดือยทอง” มานานถึง 6 ปี ซึ่งทำให้แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย และที่สำคัญมันทำให้ ดาวเตะวัย 31 ปี รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านที่อบอุ่นอีกครั้ง

แม้กับ มาดริด เบล จะเป็นแค่คนนอกสายตา แต่กับทีมชาติเวลส์นั้น ผู้ที่ใกล้ชิดกับเขาหลายคนยืนยันว่า เบล ยังมีความกระหายอยู่เต็มเปี่ยม และทุ่มเทเต็มที่ทุกเกมเมื่อต้องลงสนามรับใช้บ้านเกิด รวมทั้งยังเป็นเมือนผู้นำของทัพ “มังกรแดง” อีกด้วย

Photo : skysports.com

การกลับมายัง สเปอร์ส ครั้งนี้ มันทำให้ เบล กลับมามีความสุขอีกครั้ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ร่วมงานกับ มูรินโญ่ ที่ชืนชมเขามาตลอดก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสินใจของเจ้าตัวแม้จะมีข้อเสนอจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตาม

เบล รู้ดีว่า เขาจะเป็นคนสำคัญของ สเปอร์ส ภายใต้การนำของ มูรินโญ่ อย่างแน่นอน ในขณะที่ข้อเสนอจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มันเป็นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของ “ปีศาจแดง” ที่พลาดตัวเป้าหมายหลักอย่าง จาดอน ซานโช่ ตัวรุกดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวระบุว่า คนภายในสโมสร มาดริด ได้เตือน มูรินโญ่ ว่า ไม่ควรคว้าตัว เบล ไปร่วมทีม เนื่องจาก ตัวรุกชาวเวลส์ สภาพร่างกายไม่เหมือนเดิม และเลยจุดพีคไปแล้ว แต่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีส ยังคงเชื่อมั่นในตัว เบล อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมกับคิดว่า เบล จะมอบประสบการณ์มากมายให้กับเพื่อนร่วมทีม สเปอร์ส ได้

เป้าหมายหลักของ มูรินโญ่ คือ ต้องการให้ เบล เข้ามาช่วยผลิตสกอร์ และสร้างสรรค์เกมรุก แต่สิ่งที่เขาจะได้เข้ามาเพิ่มเติมก็คือ การสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ซึ่ง มูรินโญ่ คิดว่า มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าของ สเปอร์ส

Photo : goal.com

เบล ก็กระตือรือร้นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะคว้าแชมป์รายการแรกกับ สเปอร์ส ให้ได้ หลังจากผิดหวังได้แค่รองแชมป์ศึกฟุตบอลลีก คัพ เมื่อปี 2009 และที่สำคัญการที่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลนี้ก็จะทำให้เจ้าตัวมีสภาพร่างกายสมบูรณ์พร้อมพาทีมชาติเวลส์ไปลุยศึกฟุตบอล ยูโร 2020 ได้ ซึ่งเหตุผลเพียงแค่นี้มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาย้ายออกจาก มาดริด แม้จะเหลือสัญญาอีก 2 ปีก็ตาม

ไรอัน กิ๊กส์ ผู้จัดการทีมเวลส์ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนกับทั้ง เบล และ อารอน แรมซีย์ กองกลาง ยูเวนตุส ที่ได้ลงสนามให้กับ “เจ้าม้าลาย” ไปเพียง 11 เกมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาว่า ทั้งคู่จำเป็นต้องได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลนี้เพื่อรักษาระดับความฟิตเอาไว้ก่อนไปลุยศึกยูโร 2020

มูรินโญ่ มอบโอกาสนั้นให้กับ เบล ได้ และนี่เป็นการย้ายทีมที่ทั้งผู้เล่น และผู้จัดการทีมช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน ซึ่งผลประโยชน์ทั้งหมดมันก็เกิดกับ สเปอร์ส และถึงแม้ มูรินโญ่ กับ เบล จะได้ร่วมงานกันช้าเกินไป แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทั้งคู่

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top