รูเบน ดิอาส คีย์แมนคนสุดท้ายแนวรับ“เรือใบ”

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว รูเบน ดิอาส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติโปรตุเกส จาก เบนฟิก้า มาเสริมแนวรับเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 65 ล้านปอนด์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ แมนฯ ซิตี้ และบรรดาแฟนบอล “เรือใบสีฟ้า” ต่างก็คาดหวังว่า ดิอาส จะเข้ามารับบทบาททายาท แว็งซ็องต์ กอมปานี อดีตปราการหลังกัปตันทีมชาติเบลเยียมที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และอำลาสโมสรไปเมื่อปี 2019

ในฤดูกาลที่ผ่านมาหลังจาก ก็อมปานี อำลาทีมไปนั้น แมนฯ ซิตี้ มีปัญหาเกมรับอย่างชัดเจน โดยพวกเขามีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์มากถึง 18 คะแนน ซึ่งมันเป็นเรื่องผิดวิสัยหากมองถึงขุมกำลังที่เพียบพร้อม และฝีมือของ กวาร์ดิโอล่า

ขณะเดียวกัน ดิอาส ก็สร้างความประทับใจได้อย่างต่อเนื่องให้กับ เบนฟิก้า หลังแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2017 และเจ้าตัวยังมีเคยชื่อติดทีมชาติโปรตุเกสชุดลุยฟุตบอลโลกปี 2018 มาแล้วด้วย ซึ่งเวลานั้น เขามีอายุเพียง 21 ปี

ดิอาส ซึ่งลงสนามให้กับ เบนฟิก้า ไปรวมทุกรายการ 137 เกม ซัดไป 12 ประตู ตลอด 3 ฤดูกาลนั้น ถูกมองว่า จะเข้ามาเป็นตัวหลักในแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ ทันที และดาวเตะวัย 23 ปี จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ “เรือใบสีฟ้า” ที่ กวาร์ดิโอล่า ตามหามานาน

Photo : supersport.com

ทำไม แมนฯ ซิตี้ ถึงยอมจ่ายเงิน 65 ล้านปอนด์

ไม่มีความลับเลยว่า กวาร์ดิโอล่า มองหา นักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งขวามานานแล้วหลัง กอมปานี ย้ายออกไป และมันเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้แนวรับของ แมนฯ ซิตี้ เกิดช่องว่างในแทบทุกเกมที่ลงสนาม

ในฤดูกาลที่ผ่านมา กวาร์ดิโอล่า มักเลือกใช้ แฟร์นันดินโญ่ ห้องเครื่องชาวบราซิล ยืนเป็นกองหลังก่อน นิโกลัส โอตาเมนดี้ ปราการหลังอาร์เจนไตน์ ที่ล่าสุดขายให้กับ เบนฟิฟ้า ไปแล้ว ส่วน 2 แนวรับคนสำคัญอย่าง จอห์น สโตนส์ และ อายเมริค ลาปอร์เต้ ต่างก็มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนแทบตลอดทั้งซีซั่น

 นอกจากนี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ แมนฯ ซิตี้ พ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ คาบ้าน 2-5 เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมานั้น มันเป็นครั้งแรกที่ กวาร์ดิโอล่า พาทีมเสีย 5 ประตูตลอด 686 เกมของเขาในฐานะผู้จัดการทีม และมันเป็นครั้งแรกในรอบ 438 เกมที่ “เรือใบสีฟ้า” เสียประตูในบ้านถึง 5 ลูก

ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งรับบทกูรูให้กับ“บีบีซี” อธิบายหลังเกมที่ แมนฯ ซิตี้ พ่ายให้กับ เลสเตอร์ ว่ามันเป็นเพียงเรื่องการป้องกันขั้นพื้นฐาน แต่ช่องว่างระหว่างผู้เล่นแต่ละคนในแผงแบ็คโฟร์ของพวกเขานั้นนั้นใหญ่เกินไป และก็ขาดการสื่อสารที่ชัดเจน”

“พวกเขาดูเหมือนเป็นแบ็คโฟร์ที่ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน ซึ่งมันเป็นแบบนั้นจริงๆ พวกเขาดูเหมือนผู้เล่นที่ขาดประสบการณ์ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย”

Photo : si.com

ทายาท แว็งซ็องต์ กอมปานี

การเข้ามาแทน กอมปานี ที่เป็นตำนานของ แมนฯ ซิตี้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ ดิอาส ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่มีมานานหลายปีแล้วหลังจากสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติโปรตุเกสชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี ทำศึกฟุตบลอยูโร 2016 และก้าวเข้าสู่สมาชิกทีมชุดใหญ่ของทัพ “ฝองทอง” เมื่อปี 2018 

ในเวลานี้ ดิอาส กลายเป็นกำลังสำคัญในแนวรับของทีมชาติโปรตุเกสอย่างเต็มตัว โดยลงรับชาติไปแล้วทั้งสิ้น 19 เกม และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเนชั่นส์ลีก กับ ฮอลแลนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้วอีกด้วย

คาร์ลอส คาร์วัลฮาล อดีตกุนซือชาวโปรตุเกส ของ สวอนซี ซิตี้ กล่าวว่า “ดิอาส เป็นผู้นำ มีความสมดุล แข็งแกร่ง และมีสมาธิกับเกมอยู่ตลอดเวลา นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาได้เล่นในทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า ในวัย 19 ปี”

“เขาเป็นนักเตะที่บุคลิกแตกต่างจาก บรูโน่ เฟอร์นานเดส กองกลางชาวโปรตุเกสของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดิอาส มีประสิทธิภาพมากกว่าในการพูดคุยกับผู้คนรอบตัวเขา และเข้าใจในสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการ และหลังจบเกมเขามักจะพูดคุยกับสตาฟฟ์โค้ชถึงสิ่งที่เขาสามารถพัฒนาได้อีก”

“ผมคิดว่าเขาจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเรามองถึงศักยภาพ และอายุของ ผมคิดว่า เขาเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็กที่ดีที่สุดในขณะนี้”

Photo : mancity.com

กวาร์ดิโอล่า ได้นักเตะที่ต้องการหรือไม่?

คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังกัปตันทีมเซเนกัลของ นาโปลี เป็นเป้ามหายลำดับแรกของ กวาร์ดิโอล่า แต่ แมนฯ ซิตี้ ไม่พ้อมจ่ายต่าตัว 80 ล้านปอนด์ ที่ นาโปลี ตั้งเอาไว้ ในขณะที่ โฮเซ่ คิเมเนซ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอุรุกวัย ของ แอตเลติโก มาดริด ก็มีค่าฉีกสัญญามหาศาลถึง 78 ล้านปอนด์

ขณะเดียวกัน การเจรจาคว้าตัว ฌูลส์ กูนด์ ปราการหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส เซบีย่า ก็ไม่คืบหน้า ซึ่งท้ายที่สุด แมนฯ ซิตี้ จึงเดินเครื่องคว้าตัว ดิอาส ที่อายุน้อยกว่า คูลิบาลี่ 6 ปี มีค่าตัวถูกกว่า คิเมเนซ และ เบนฟิก้า ก็พร้อมจะขายนักเตะ

โจเซ่ ฟอนเต้ กองหลังเพื่อนร่วมทีมชาติโปรตุเกสของ ดิอาส กล่าวว่า “รูเบน ดิอาส เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คดาวรุ่งที่ผมชื่นชอบ เขาอายุเพียง 23 ปี แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่ยอดเยี่ยม เขามีความมุ่งมั่นในการทำงาน”

“เขาต้องการเรียนรู้ เขาต้องการที่จะปรับปรุงตัวเองเสมอ เขามักจะเฝ้าดูกองหลังที่ยอดเยี่ยมหลายๆคน เขาสนใจที่จะรู้เกม มันเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาได้ตัวผู้เล่นชั้นยอดไปร่วมทีม และ ดิอาส จะทำให้พวกเขาดีขึ้นแน่นอน”

Photo : staddoha.com

จากตัวเลือกรองสู่เป้าหมายอันดับหนึ่ง

ดิอาส เป็นนักเตะคนล่าสุดของ แมนฯ ซิตี้ ที่มาจากอคาเดมี่ของ เบนฟิก้า เช่นเดียวกับ 2 นักเตะเพื่อนร่วมทีมชาติโปรตุเกสอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา กับ ชูเอา คานเซโล่ โดยนับตั้งแต่ก็อมปานี ย้ายออกไป พวกเขาก็ไม่มีกองหลังฝั่งขวาที่แข็งแกร่งอีกเลย

 ดิอาส ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของ แมนฯ ซิตี้ แต่ด้วยค่าตัวมหาศาลของ คูลิบาลี่ และอายุของ ดิอาส ที่น้อยกว่าถึง 6 ปี นั้น เขาจึงเป็นคนที่ “เรือใบสีฟ้า” ไม่ลังเลที่จะคว้าตัวเข้ามายังถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

ในช่วงที่ผ่านมา ฟอร์มการเล่นของ คูลิบาลี่ ตกลงไปเล็กน้อย ในขณะที่ ดิอาส พัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างน่าประทับใจตลอด 3 ปี กับ เบนฟิก้า ซึ่งศักยภาพที่สามารถพัฒนาได้ รวมทั้งความสม่ำเสมอของเจ้าตัวนั้น ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าตัวเข้ามาร่วมทีม

Photo : si.com

ความท้าทายที่ ดิอาส ต้องเผชิญ

อย่างไรก็ตาม คริส ซัตตัน อดีตกองหน้า เชลซี และ กลาสโกว์ เซลติก ซึ่งรับบทกูรูให้กับ “บีบีซี” แสดงความคิดเห็นว่า ดิอาส จะต้องเจอบททดสอบที่กดดันอย่างหนักกับการย้ายมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก

 “เขาต้องพิสูจน์ตัวเอง มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา เพราะเขาจะโดนจับตามองอย่างมาก ทุกคนจะมองว่า เขาจะทำได้ตัวความคาดหวังของ แมนฯ ซิตี้ หรือไม่ แน่นอน ทุกคนคาดหวังอยู่แล้วว่า เขาต้องทำผลงานได้ดีกับการเริ่มต้นที่นี่ แต่ถ้าเขาทำผิดพลาด หลายคนคงจะบอกว่า เขาไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป”

“แมนฯ ซิตี้ กำลังกดดันอย่างหนักหลังจากแพ้ เลสเตอร์ ตอนนี้ผู้คนกำลังจับตามองว่า พวกเขาจะขับเคี่ยวกับ ลิเวอร์พูล ได้หรือไม่ในฤดูกาลนี้ หาก แมนฯ ซิตี้ ต้องการคว้าแชมป์ลีก พวกเขาก็ควรต้องจัดการเกมรับก่อนเป็นอันดับแรก” ซัตตัน กล่าว

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top