ในฤดูกาลนี้ เซอร์คิโอ เรกีลอน แบ็คซ้ายทีมชาติสเปน ตัดสินใจครั้งสำคัญในอาชีพค้าแข้งด้วยการย้ายจาก เรอัล มาดริด ทีมที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่เด็กย้ายมาเล่นกับ ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ สโมรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวราว 20 ล้านปอนด์ และเจ้าตัวก็หวังว่า จะประสบความสำเร็จภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ “ไก่เดือยทอง”
เรกีลอน กำลังคิดย้อนกลับไปในวัยเด็กซึ่งมันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ มูรินโญ่ กำลังเป็นเทรนเนอร์ มาดริด ในช่วงปี 2010-2013 โดยเริ่มเล่าว่า “ตอนที่ โจเซ่ คุม มาดริด ผมยังเด็กมากๆ ผมอยู่ในทีมเยาวชนของสโมสร แต่ผมโชคไม่ดีนักที่ไม่ได้เจอกับเขาเลย แต่ผมมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในช่วงเวลานั้น และครอบครัวของผมเป็นแฟนตัวยงของเขา”
แบ็ควัย 23 ปี ไม่มีโอกาสลงสนามให้ มาดริด มากนัก และในปีที่แล้วเขาต้องย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ เซบีย่า ซึ่งเวลาต่อมา เรกีลอน ก็ตัดสินใจอำลา “ราชันชุดขาว” มาเล่นกับ สเปอร์ส พร้อมระบุว่า มูรินโญ่ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาย้ายมาเล่นยังถิ่น ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม
“เขาเป็นผู้จัดการทีมระดับโลก เขามีความสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจที่จะย้ายมาที่นี่” อดีตเด็กปั้น มาดริด กล่าว
ในระหว่างที่เล่นกับ เซบีย่า ด้วยสัญญายืมตัว เรกีลอน ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการลงสนามไปมากถึง 38 เกมรวมทุกรายการ ซัดไป 3 ประตู พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จ จนในที่สุด มูรินโญ่ ก็เดินเครื่องคว้าตัวเขามายัง สเปอร์ส โดยที่ มาดริด ก็พร้อมขายเขาทันที
เรกีลอน กล่าวต่อว่า “ตอนนั้นตลาดนักเตะมันเปิดกว้างมากๆสำหรับผม แต่ทันทีที่ผมได้ยินถึงความสนใจจาก ท็อตแนม มันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่จะตัดสินใจ มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องย้ายออกจากสเปน และครอบครัวของผมก็ต้องปรับตัว แต่เราก็จัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดี”
“นับตั้งแต่ผมมาถึงที่นี่สโมสรทำให้ผมประหลาดใจมากๆ ทุกอย่างที่นี่ยอดเยี่ยมมากทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อม เพื่อนร่วมทีมของผม สนามเหย้า ผมสนุกกับที่นี่มาก”
เรกีลอน ย้ายมายัง สเปอร์ส ด้วยคำแนะนำจาก แกเร็ธ เบล ปีกชาวเวลส์ อดีตเพื่อนร่วมทีม มาดริด ที่เคยเล่นให้กับ สเปอร์ส ในช่วงปี 2007-2013 และตอนนี้ เบล ก็ย้ายกลับมาเล่นกับ “ไก่เดือยทอง” อีกครั้งด้วยสัญญายืมตัว ซึ่งทำให้ทั้ง 2 คน ได้มีโอกาสผนึกกำลังร่วมกัน
แข้งสแปนิช เล่าต่อว่า “ผมเคยคุยกับ เบล ตอนที่อยู่ มาดริด เขาบอกผมว่าที่ ท็อตแนม เป็นอย่างไรบ้าง การมาที่นี่กับคนที่เป็นเพื่อนร่วมทีม มาดริด อยู่แล้วอย่าง เบล นั้น มันเป็นประโยชน์สำหรับผมมาก ผมสามารถปรึกษาเขาได้ในหลายๆเรื่อง”
“ความจริงก็คือ เขาช่วยผมมาก และก็มีคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่วันแรกเพื่อนในทีมทุกคนให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี พวกเขามักจะมาหาผมถามว่า มีอะไรที่ผมต้องการหรือมีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ และพวกเขาก็ช่วยผมในสนามด้วย”
“ผมเริ่มรู้จักพวกเขามากขึ้นในฐานะบุคคลไม่ใช่แค่ในฐานะนักเตะที่ผมรู้จักจากเกมเพลย์สเตชั่นหรือโทรทัศน์ ตอนนี้พวกเขาติดต่อกับผมอยู่เสมอ และผมก็รู้จักพวกเขาดีขึ้น มันช่วยผมได้จริงๆ”
เรกีลอน ยังคงต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษอีกเล็กน้อย โดยในช่วงแรกเขายังให้สัมภาษณ์เป็นภาษาสเปน แต่ตอนนี้เข้าความเจ้าในภาษาอังกฤษของเขาดีขึ้น โดยเจ้าตัวอธิบายด้วยเสียงหัวเราะว่า “ตราบใดที่ผู้คนพูดกับผมช้าๆ ผมก็จะเข้าใจ”
ณ เวลานี้ เรกีลอน ลงเล่นให้ สเปอร์ส ไปแล้วรวมทุกรายการ 4 เกม คือ ในเกมคาราบาว คัพ ที่ดวลจุดโทษชนะ เชลซี เกมลีกที่บุกไปถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-1 และนัดล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-3 รวมทั้งยูโรป้า ลีก ที่เอาชนะ ลินซ์ 3-0
ขณะเดียวกัน หลังจากโชว์ฟอร์มสุดยอดบุกไปอัด แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทฟฟอร์ด แต่เกมต่อมา สเปอร์ส กลับพลาดท่าเสมอ เวสต์แฮม 3-3 ทั้งที่นำไปก่อน 3 ประตู โดยที่เสียทั้ง 3 ลูกนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลา 8 นาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังพอสมควร
เรกีลอน กล่าวว่า “มันให้ความรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ มันเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ในทีมของเรา มันเป็นข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถยอมรับได้ ผมโกรธมาก ผมไม่อยากคุยกับใครเลย แต่สุดท้ายมันคือฟุตบอล และในฟุตบอลทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ เราหวังว่าเราจะทำได้ดีขึ้นแล้วลืมมันไป”
ดูเหมือนว่า เรกีลอน จะปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้เป็นอย่างดี เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายเมื่อได้ลงสนาม และดาวเตะชาวสเปน ก็ทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์ให้กับ สเปอร์ส ในเกมกับ เชลซี และ เวสต์แฮม
“ผมคิดว่าผมกำลังปรับปรุงตัวเองในทุกๆเกมที่ลงสนาม ผมคุ้นเคยกับการแข่งขันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมต้องการเติบโตขึ้นทั้งในการเล่นโดยส่วนตัว และในแง่ของการเล่นฟุตบอลเป็นทีม ผู้จัดการทีมให้คำแนะนำมากมาย ผมได้รับประสบการณ์จากเขาเยอะมาก สำหรับผมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผลงานของทีม” อดีตเด็กปั้น มาดริด กล่าว
ความสามารถในเกมรุกของ เรกีลอน เป็นส่วนสำคัญที่ มูรินโญ่ อยากได้ตัวเขา แต่ทัศนคติของเจ้าตัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน และถึงแม้จะมีความสูงเพียง 5 ฟุต 8 นิ้ว แต่ แบ็คชาวสเปน ก็เป็นนักเตะที่สู้ไม่ถอยเมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่ง
ในช่วงที่ค้าแข้งกับ มาดริด เรกีลอน ลงซ้อมด้วยความดุเดือดจนถึงขึ้นมีปัญหากับ เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตัน “ราชันชุดขาว” มาแล้ว และในเดือนมีนาคมปี 2019 เขายังเคยเผชิญหน้ากับ 2 แนวรุกระดับพระกาฬของ บาร์เซโลน่า อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ ในศึก “เอลกาซิโก” ด้วยเช่นกัน
เรกีลอน กล่าวว่า “ผมคิดว่านั่นเป็นเตัวตนของผม ผมเป็นผู้เล่นที่แรงขับเคลื่อนสูงมาก ผมชอบการต่อสู้ และอยากเอาชนะทุกๆเกมที่ลงสนาม”
คุณสมบัติในการต่อสู้ของ เรกีลอน ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เขาอยู่ในทีมเยาวชนของ มาดริด แล้ว ซึ่งในแต่ละทีมทุกระดับของ “ราชันชุดขาว” ก็มีการแข่งขันที่ดุเดือดอยู่เสมอ และมีนักเตะเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้
“มันยากมากที่จะก้าวจากทีมเยาวชนไปสู่ทีมชุดใหญ่ของ มาดริด คุณเจอผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกขวางหน้าคุณอยู่แล้ว และระดับการแข่งขันในการเข้าสู่ทีมนั้นสูงมาก คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ต้องรู้จักวิธีต่อสู้ และต้องมีโชคบ้างเล็กน้อย” เรกีลอน กล่าว
โชคดีของ เรกีลอน คือ ช่วงที่ ซานติอาโก้ โซลารี่ ซึ่งเคยคุมทีม มาดริด บี ได้ก้าวขึ้นในมาคุมทีมชุดใหญ่ต่อจาก ซีเนดีน ซีดาน ในปี 2018 และก็เป็นคนให้โอกาส เรกีลอน ก้าวเข้าสู่ทีมชุดแรกของ “ราชันชุดขาว”
เรกีลอน กล่าวต่อว่า “เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่สร้างผมขึ้นมา เป็นสโมสรที่ผมเติบโตมา และผมจะไม่สามารถมีวันนี้ได้เลยถ้าไม่มีพวกเขา การออกมากมันเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งคุณก็ต้องทำ และสำหรับผมคิดว่า มันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว”
“มันยากที่จะต้องเดินออกจากครอบครัว และทุกสิ่งทุกอย่างออกมา แต่สำหรับผมพรีเมียร์ลีกลีกคือ ลีกที่ดีที่สุดในโลก ตอนนี้ผมมีความสุขมากที่นี่ ผมแค่ต้องการมุ่งมั่นที่จะพยายามช่วยให้สโมสรแห่งนี้คว้าถ้วยรางวัลให้ได้”
เรกีลอน กำลังเริ่มต้นได้ดีกับ สเปอร์ส ส่วนเพื่อนเก่าของเขาอย่าง เบล ยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อให้กับมาฟิตเต็มที่อีกครั้ง โดย เรกีลอน เล่าถึง ปีกชาวเวลส์ ว่า “เขาดูมีความสุขมากที่นี่ และดูเหมือนกับเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตาม การเสมอกับ เวสต์แฮม เป็นการย้ำเตือนว่า สเปอร์ส ของ มูรินโญ่ ยังคงต้องพัฒนาต่อไป ซึ่งการที่ เบล จะกลับมาผนึกกำลังในแนวรุกร่วมกับ ซอง เฮือง มิน และ แฮร์รี่ เคน นั้น จะยิ่งทำให้เกมบุกของ “ไก่เดือยทอง” น่ากลัวขึ้นไปอีก
“ผมเชื่อว่าเรามีคุณภาพทีมที่สามารถต่อสู้ได้ในทุกการแข่งขัน มันเป็นเรื่องจริงที่เรามีคิวการแข่งขันเยอะมากในฤดูกาลนี้ เรามีทีมที่พร้อม และผมพยายามมองไปทีละเกม จากนั้น เราจะเริ่มดูว่า เราจะไปได้ถึงจุดไหนเมื่อฤดูกาลจบลง” เรกีลอน กล่าวปิดท้าย