แพทริค แบมฟอร์ด จากแข้งจอมฝืดสู่ยอดดาวยิง ลีดส์

ในต้นฤดูกาลนี้มันเป็นช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อของ แพทริค แบมฟอร์ด กองหน้าชาวอังกฤษของ ลีดส์ ยูไนเต็ด สโมสรน้องใหม่หน้าเก่าแห่งศึกพรีเมียร์ลีกเลยก็ว่าได้ หลังจากที่เขาระเบิดผลงานสุดยอดภายใต้การคุมทัพของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ด้วยการซัดในเกมลีกไป 6 ประตู จาก 7 เกมที่ลงสนาม

ช่วงที่ผ่านมา แบมฟอร์ด เคยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 27 เกมกับทั้ง คริสตัล พาเลซ, นอริช ซิตี้, เบิร์นลีย์ และ มิดเดิ้ลสโบรช์ และยิงไปเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น แต่ในปีนี้ ดาวยิงวัย 27 ปี พา ลีดส์ เลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้สำสำเร็จก่อนจะพัฒนาฟอร์มจนกลายเป็นกำลังสำคัญในเกมรุกของพลพรรค “ยูงทอง”

ก่อนจะเปิดซีซั่นนี้หลายคนมองว่า ลีดส์ คงไม่สามารถพึ่งพา แบมฟอร์ด ได้หากหวังอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก และ แบมฟอร์ด ก็ถูกวิจารณ์ว่า เป็นกองหน้าฝีเท้าระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม อดีตเด็กปั้น เชลซี แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขามีศักยภาพเพียงใด 

อย่างไรก็ตาม แบมฟอร์ด ยืนยันว่า แม้เวลานี้เขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็รู้ดีว่า จะต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปกับเสียงวิจารณ์ที่มีมาก่อนหน้านี้ และเขาก็พร้อมแล้วที่จะรับมือกับบททดสอบครั้งใหญ่ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

Photo : skysports.com

หัวหอกชาวอังกฤษ เริ่มกล่าวว่า “แน่นอนว่า ผมมีจุดสำคัญที่ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป ผมเพิ่งเริ่มต้นในพรีเมียร์ลีกกับ ลีดส์ ได้ไม่กี่เกมเอง โดยก่อนหน้านี้ผมเคยเล่นในพรีเมียร์ลีกมาแล้วกับกับหลายสโมสร แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาสที่เหมาะสมเลย”

“อาจมีหลายคนที่สงสัยในตัวผม แต่เหนือสิ่งอื่นใดการพิสูจน์ตัวเองสำคัญที่สุด ผมรู้เสมอว่า ตัวเองสามารถเล่นในระดับนี้ได้ ดังนั้น ผมจึงต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า ผมทำได้ดีกว่าที่ผ่านๆมา”

“ในเกมล่าสุดกับ แอสตัน วิลล่า ที่ผมทำแฮตทริคได้ ผมมีความสุขมากๆ ประตูที่ 2 มันเป็นการยิงที่ยอดเยี่ยม ส่วนประตูที่ 3 มันพิเศษมากๆเพราะเราเริ่มสร้างเกมมาจากผู้รักษาประตูจนกระทั่งจบสกอร์ได้ เราทำได้ดีจริงๆ”

“ผมเป็นการทำงานที่ยอดเยี่ยมของเราในฐานะทีม และผมก็จบสกอร์ได้ มันพิเศษมากขึ้นไปอีกเพราะผมทำแฮตทริคได้ ในช่วงที่ผ่านมาผมมีความรู้สึกกดดันนิดหน่อย แต่ตอนนี้ผมผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว บางครั้งการเล่นในตำแหน่งกองหน้ามันช่วยให้คุณสงบมากขึ้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน”

แน่นอนว่า ในช่วงเวลาที่กองหลังคู่แข่งกำลังสับสนนั้น ความเยือกเย็นหน้าปากประตูมันเป็นสัญชาตญาณที่กองหน้าระดับท็อปทุกคนควรมี และสำหรับ แบมฟอร์ด เขาก็มีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวแล้ว นอกจากนี้ เขายังต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อพัฒนาตัวเองไปอีกระดับ

Photo : punditarena.com

แบมฟอร์ด อธิบายว่า “ไม่ได้มีความลับอะไรเลย ผมแค่ทำงานอย่างหนัก ผมทำในสิ่งที่ทำมาตลอดเช่นการวิ่งหาพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม และมันก็จ่ายผลตอบแทนให้กับผมจนถึงตอนนี้ ผมมีงานต้องทำเพื่อทีมด้วย ผมไม่สามารถทำเพื่อตัวเองได้เพียงอย่างเดียว และผมต้องทำงานหนักต่อไป”  

“ผมต้องใช้ความคิดมากขึ้นในการจบสกอร์แต่ละครั้ง เช่น การมองหาช่องว่างระหว่างเสาประตูกับนายทวารเพราะมันจะทำให้มีโอกาสเป็นประตูมากขึ้นไปอีก และที่สำคัญถ้าคุณมองว่าตัวเองเป็นนักเตะชั้นยอดแล้ว คุณก็จะไม่มีการพัฒนา”

“หากคุณตั้งความท้าทายเล็กๆน้อยๆ และพยายามผลักดันตัวเองอยู่เสมอเพื่อที่คุณจะพยายามทำบางสิ่งให้สำเร็จนั้น ในใจของคุณก็จะคิดว่า ตัวเองยังไม่ไปถึงจุดสูงสุด และมันจะยิ่งทำให้คุณอยากพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผมในการผลักดันตัวเอง”

“แม้ว่าผมจะยิงได้ 3 ประตูในเกมกับ วิลล่า แต่ในหัวของผมคิดว่า ผมควรจะยิงได้ 5 ประตู ยกตัวอย่าง จากลูกโหม่งที่ผมควรจะทำได้ และการยิงด้วยเท้าขวาแต่มันยังไม่เข้ามุมพอ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของเทคนิค และสิ่งที่สามารถนำไปใช้ในการฝึกซ้อม

“มันผิดหวังเล็กน้อยที่ผมยิงได้ 3 ประตู เพราะมีส่วนหนึ่งการเป็นกองหน้าคุณต้องคิดว่า คุณสามารถทำประตูได้มากกว่านี้ และผมเดาว่านั่นคือความคิดของกองหน้าทุกๆคน”

Photo : footballleagueworld.co.uk

ขณะเดียวกัน การแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดหย่อนของ แบมฟอร์ด นั้น มันเป็นความกระหายที่ได้มากจาก บิเอลซ่า ซึ่งเทรนเนอร์วัย 65 ปี มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ แบมฟอร์ด งัดฟอร์มเก่งออกมากได้

แบมฟอร์ด กล่าวต่อว่า “ระดับของพรีเมียร์ลีกสูงขึ้นทุกปี  และหลายปีที่ผ่านมาฟุตบอลทั่วโลกยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาการของผู้เล่นจะเร็วขึ้น ฉลาดขึ้น คุณต้องเติบโตไปพร้อมกับมันตลอดเวลาไม่เช่นนั้นคุณจะกลายเป็นนักเตะที่ล้าหลัง”

“โดยส่วนตัวแล้วผมเปลี่ยนไปมากทั้งร่างกาย และจิตใจ ผมมีผู้จัดการที่เชื่อมั่นในตัวผม เขาศรัทธาในตัวผม มันเป็นเรื่องใหญ่มาก เขาพาผมพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดด้วยวิธีการฝึกซ้อม และความเชื่อใจที่เขามีให้กับผมอยู่เสมอ”

“มาร์เซโล่ สมควรได้รับเครดิตอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่กับการเขาพัฒนาผมเพียงคนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิธีการทำทีมของเขาด้วย ผู้เล่นของเราเป็นนักเตะชุดเดิมๆก่อนที่เขาจะมาคุมทีม ซึ่งตอนนั้น เราเป็นแค่ทีมกลางตารางในระดับแชมเปี้ยนชิพ”

Photo : theafricanstand.com

สำหรับเป้าหมายในฤดูกาลนี้การพา ลีดส์ จนอันดับสูงสุดในพรีเมียร์ลีก พร้อมกับตัวเองคว้าตำแหน่งดาวซัลโวคือความฝันของ แบมฟอร์ด แต่เขาก็รู้ดีว่า เป้าหมายที่แท้จริงของพลพรรค “ยูงทอง” นั้น คือการรอดตกชั้น

“ มันเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่ถ้าผมคว้าตำแหน่งดาวซัลโว พร้อมกับพา ลีดส์ จบด้วยอันดับสูงๆ ผมคงมีความสุขมาก ผมจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนั้น เมื่อเราเลื่อนขั้นขึ้นมาทุกคนต่างก็สงสัยว่า พวกเราจะอยู่รอดในลีกได้หรือไม่ เรามารอดูกัน”

“ผมจะยิงได้กี่ประตูเมื่อจบฤดูกาลเหรอ? เรามารอดูกันตอนจบฤดูกาล แต่เป้าหมายหลักคือ ถ้าเราสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมไว้ได้นั้นก็จะได้เห็นกันว่า เราจะไปไกลแค่ไหน” แบมฟอร์ด กล่าวปิดท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top