8 ดาวรุ่งอเมริกันน่าจับตามอง

หลังจากต้องพักแข้งในเกมระดับชาติไปนานถึง 9 เดือน เนื่องมาจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทีมชาติสหรัฐอเมริกาก็กลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องที่เสมอกับ เวลส์ 0-0 และ ชนะ ปานามา 6-2 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมกับให้โอกาสดาวรุ่งหน้าใหม่ลงสนามหลายราย

พลพรรค “พญาอินทรี” ภายใต้การนำของเทรนเนอร์ เกร็ก เบอร์ฮาลเตอร์ อยู่ในช่วงผลักดันนักเตะอายุน้อยเข้าสู่ทีมชุดใหญ่เพื่อวางแผนสำหรับอนาคตในระยะยาว ซึ่งบรรดาแข้งมากพรสวรรค์เหล่านี้ บางคนก็กลายเป็นตัวหลักของต้นสังกัดตัวเองไปแล้ว ขณะที่บางคนกำลังรอวันแจ้งเกิดในอีกไม่นาน

Photo : goal.com

1. คริสเตียน พูลิซิส (เชลซี)

ตัวรุกวัย 22 ปี เป็นสมาชิกขาประจำของทีมชาติสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน และจะยังเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกของพลพรรค  “พญาอินทรี” ไปอีกหลายปี โดยเมื่อฤดูดาลที่ผ่านมา พูลิซิช ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปเล่นกับ เชลซี ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์ พร้อมทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการซัดไป 11 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ จาก 34 เกมรวมทุกรายการให้กับ “สิงโตน้ำเงินคราม”

ฝีเท้า และศักยภาพของ พูลิซิช ไม่มีอะไรที่ต้องพิสูจน์อีกแล้ว ซึ่งหากเจ้าตัวรักษาฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอไว้ได้ก็ไม่น่าแปลกใจที่ ปีก เชลซี จะกลายเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ สหรัฐฯในอนาคต

Photo : onefootball.com

2. เซอร์จิโน่ เดสท์ (บาร์เซโลน่า)

เดสท์ เกิดในฮอลแลนด์ และเป็นเด็กปั้นของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แต่เขาเลือกจะลงเล่นให้กับทีมชาติสหรัฐฯ โดยแบ็คขวาวัย 20 ปี เพิ่งได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ในฤดูกาลนี้ เดสท์ ปรับตัวกับ บาร์เซโลน่า ได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นแกนหลักของ บาร์ซ่า ภายใต้การนำของ โรนัลด์ คูมัน โค้ชชาวดัตช์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลงเล่นให้กับพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” ไป 10 เกม ซัดไป 1 ประตู

Photo : skysports.com

3. โจวานนี่ เรย์น่า (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

จิโอวานนี่ เป็นลูกชายของ เคลาดิโอ เรย์น่า ตำนานกองกลางกัปตันทีมชาติสหรัฐฯ โดยปัจจุบัน มิดฟิลด์วัย 18 ปี เป็นกำลังสำคัญของต้นสังกัดอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ร่วมกับยอดดาวรุ่งรายอื่นๆ อาทิ จาดอน ซานโช่ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์

เมื่อซีซั่นที่แล้ว จิโอวานนี่ เคยทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกเดเอฟเบ โพคาล และในฤดูกาลนี้ เขายังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องหลังซัดไป 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ ให้กับ ดอร์ทมุนด์

จิโอวานนี่ เป็นมิดฟิลด์สมัยใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์, รวดเร็ว, มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม และสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่กดดันได้อย่างสบาย นอกจากนี้ เขาซัดประตูเปิดตัวกับทีมชาติสหรัฐฯ ไปได้เรียบร้อยแล้วในเกมกระชับมิตรกับ ปานามา เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

Photo : goal.com

4. ไทเลอร์ อดัมส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก)

อดัมส์ เป็นผลผลิตจากอคาเดมี่ของ นิวยอร์ก เร้ด บูลล์ส ก่อนจะย้ายมาแจ้งเกิดกับ แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และพัฒนาตัวเองจนกลายมาเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมจนถึง ณ เวลานี้

ภายใต้การคุมทีมของ ยูเลียน นาเกลส์มัน เทรนเนอร์หนุ่มไฟแรงที่ ไลป์ซิก นั้น อดัมส์ โชว์ฟอร์มโดดเด่นมากในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่สามารถขยับไปยืนเป็นฟูลแบ็คได้อีกด้วย

ในวัย 21 ปี อดัมส์ มีโอกาสรับใช้ทีมชาติสหรัฐฯ ไปแล้ว 12 เกม และหากมองจากจำนานเกมที่เขาเล่นให้กับทัพ “พญาอินทรี” บ่งบอกได้ว่า เจ้าตัวกลายเป็นขาประจำของทีมไปเรียบร้อยแล้ว

Photo : sports.yahoo.com

5. เวสตัน แม็คเคนนี่ (ยูเวนตุส)

ชื่อของ แม็คเคนนี่ กลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมา 2-3 ปีแล้ว หลังแจ้งเกิดกับ ชาลเก้ 04 และในฤดูกาลนี้ เขาย้ายมาเล่นกับ “เจ้าม้าลาย” ยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัวพ่วงอ็อปชันซื้อขาดในราคา 18 ล้านยูโร

ภายใต้การคุมทีมของเทรนเนอร์ อันเดรีย ปิร์โล่ ที่ ยูเวนตุส แม็คเคนนี่ ก็ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ และกับทีมชาติสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโค้ช เกร็ก เบอร์ฮาลเตอร์ กองกลางวัย 22 ปี ถือเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีมเช่นกัน

Photo : goal.com

6. จอช ซาร์เจนท์ (แวร์เดอร์ เบรเมน)

ไม่มีความลับใด ๆ ที่ทีมชาติสหรัฐฯ ต้องการกองหน้าที่ไว้ใจได้หลังหมดยุคของ โจซี่ อัลติดอร์ อดีตดาวยิงฝีเท้าดี และในอนาคต ซาร์เจนท์ ก็น่าจะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างแน่นอน

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หัวหอกวัย 20 ปี โชว์ฟอร์มให้กับ เบรเมน ได้เป็นอย่างดี และแม้จะยิงไปเพียง 4 ประตู แต่เขาก็ถือว่า มีส่วนสำคัญกับเกมรุกของทีม และช่วยให้พลพรรค “เจ้านกนางนวล” อยู่รอดในศึกบุนเดสลีกาได้สำเร็จ

ซาร์เจนท์ เป็นกองหน้าที่แข็งแกร่ง และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ซึ่งตอนนี้ เจ้าตัวติดทีมชาติสหรัฐฯไปแล้ว 12 เกม ซัดไป 5 ประตู และสถิติระเบิดตาข่ายของเขาก็น่าจะเพิ่มอีกไปเรื่อยๆ

Photo : espn.com

7. ทิโมธี เวอาห์ (ลีลล์)

มันอาจไม่ยุติธรรมนักที่แฟนบอลจะลืมชื่อของ เวอาห์ หลังเจ้าตัวบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายจนแทบไม่ได้ลงสนามให้กับต้นสังกัดอย่าง ลีลล์ เลย รวมทั้งทีมทีมชาติสหรัฐฯ ที่เขาลงเล่นเกมล่าสุดต้องย้อนไปถึงเดือนพฤศจิกายนปี 2018 เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม เวอาห์ ซึ่งเป็นลูกชายของ จอร์จ เวอาห์ ตำนานดาวยิงเจ้าของรางวัลบัลลงก์ดอร์ นั้น ยังถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งมากพรสวรรค์ของวงการ โดยทักษะ และฝีเท้าของเขายังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล

ขณะเดียวกัน มันเป็นเรื่องดีที่เวลานี้ หัวหอกวัย 20 ปี กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว และเพิ่งได้ลงเล่นในเกมกระชับมิตรกับ เวลส์ และ ปานามา เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เวอาห์ ใกล้กลับมาทวงตำแหน่งของเขาคืนเต็มทีแล้ว

Photo : planetfootball.com

8. คอนราด เด ลา ฟวนเต้ (บาร์เซโลน่า)

เด ลา ฟวนเต้ เป็นเด็กชาวอเมริกันที่เติบโตในสเปน และเข้าร่วม “ลา มาเซีย” อคาเดมี่ชื่อดังของ บาร์ซ่า ตั้งแต่อายุ 12 ปี ก่อนจะไต่เต้ามาเล่นกับทีมชุด บี และได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ “เจ้าบุญทุ่ม” ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ดินาโม เคียฟ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ดาวเตะวัย 19 ปี เป็นตัวรุกที่มีความหลากหลาย และสามารถเล่นได้ทั้งริ้มเส้น 2 ฝั่ง ซึ่งการเลี้ยงบอล และสปีดต้นที่จัดจ้านของเขานั้น สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับคู่แข่งอยู่เสมอ นอกจากนี้ เด ลา ฟวนเต้ ได้รับโอกาสประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของสหรัฐฯ ไปแล้วในเกมอุ่นเครื่องกับ เวลส์ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top