เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือผู้ปั้นดินสู่ดาว

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงรู้สึกว่า ตัวเองอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังมีความท้าทายมหาศาลแม้เพิ่งพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสำเร็จในรอบ 30 ปีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม

คล็อปป์ เริ่มอธิบายว่า “พวกคุณคงจินตนาการไม่ออกเลยว่า การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกของเรามันผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ทั้งๆที่มันเพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่เดือนเอง”

 ในฤดูกาลนี้ คล็อปป์ ต้องเผชิญปัญหาอย่างหนักเนื่องจากนักเตะหลัก ลิเวอร์พูล พากันบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องไล่ตั้งแต่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังชาวดัตช์, โจ โกเมซ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ, เจมส์ มิลเนอร์ มิดฟิลด์จอมเก๋า, ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลางทีมชาติสเปน, นาบี เกอิต้า ห้องเครื่องชาวมาลี และล่าสุด ดิโอโก้ โชต้า ตัวรุกชาวโปรตุเกสที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

บรรดาผู้เล่นคนสำคัญอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิล ก็เพิ่งหายเจ็บจากแฮมสตริง, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ปีกทีมชาติอิยิปต์ ก็เพิ่งฟื้นตัวจากโควิด-19 ส่วน โจเอล มาติป ปราการหลังชาวแคเมอรูน ก็ร่างกายไม่สมบูรณ์ที่จะลงเล่นติดต่อกันหลายๆนัด ซึ่งทำให้ คล็อปป์ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแทบทุกเกมเลยก็ว่าได้

Photo : skysports.com

อย่างไรก็ตาม การที่แข้งหลักพากันไม่สมบูรณ์นั้น มันเป็นโอกาสดีที่ทำให้นักเตะอายุน้อยอย่าง เคอร์ติส โจนส์ กองกลางวัย 19 ปี, ควิวีน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูวัย 22 ปี, แนท ฟิลลิปส์ กองหลังวัย 22 ปี , ริส วิลเลียมส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 19 ปี รวมถึง เนโก วิลเลียมส์ แบ็คขวาวัย 19 ปี ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล เต็มตัว โดยที่ คล็อปป์ เป็นคนผลักดัน

ขณะเดียวกัน บิลลี่ คูเมติโอ กองหลังชาวฝรั่งเศสวัย 18 ปี และ เลห์จตัน คลาร์กสัน มิดฟิลด์วัย 19 ปี ก็ได้ประเดิมสนามในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มกับ มิดทิลแลนด์ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้จะมีปัญหากับสภาพทีมมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล แต่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ คล็อปป์ ยังคงรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกหลังผ่านไป 12 เกม ร่วมกับ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ และยังสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่ม ดี อีกด้วย

คล็อปป์ กล่าวต่อว่า “ถ้าเราอยู่ในโลกแห่งความฝัน แน่นอนว่า ผมอยากให้ลูกทีมทุกคนฟิตสมบูรณ์ และผมก็ยังจะให้โอกาสเด็กๆดาวรุ่งควบคู่ไปด้วย นั่นคงเป็นสถานการณ์ที่เจ๋งมาก แต่ตอนนี้ สถานการณ์ของเราคือ นักเตะบาดเจ็บเยอะมาก แต่มันก็ทำให้นักเตะอายุน้อยได้ลงสนามมากขึ้น”

“ริส วิลเลียมส์ ตั้งแต่ตอนที่เขามาฝึกซ้อมกับเรา ผมเห็นว่า เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ บิลลี่ คูเมติโอ ก็น่าเหลือเชื่อ ส่วน ควิวีน เคลเลเฮอร์ ก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก เรามั่นใจเสมอว่า เขาเป็นเด็กที่มีความสามารถ แต่ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่า ควิวีน จะตอบสนองในเกมที่เหมาะสมได้ แต่เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้ว เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม”

“มันเป็นเพียงการเริ่มต้นมันเกี่ยวกับอาชีพของคุณ มันไม่ใช่มีความหมายแค่เกมแรกของคุณที่ได้ลงสนาม แต่สำหรับผู้เล่นในทีมเยาวชนของเราได้เห็นเพื่อนของพวกเขาหลายคนก้าวไปสู่ทีมชุดแรกมันจะทำให้พวกเขามีกำลังใจเต็มเปี่ยม 100 เปอร์เซ็นต์”

Photo : independent.co.uk

ลิเวอร์พูล ได้สร้าง เคิร์กบี้ สนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ของพวกเขาที่มีมูลค่าถึง 50 ล้านปอนด์ ซึ่งแสดงถึงแผนการในอนาคต และความตั้งใจในการพัฒนาสโมสรหลังจากที่ใช้ เมลวู้ด สนามซ้อมเก่าแก่อันขึ้นชื่อมานานถึง 70 ปี

ในเวลานี้ นักเตะ ลิเวอร์พูล ย้ายมาซ้อมที่ เคิร์กบี้ ทั้งหมดแล้ว โดยที่สนามซ้อมแห่งใหม่นี้ทันสมัยครบวงจร และที่สำคัญทีม “หงส์แดง” ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ก็ได้มาฝึกซ้อมในบริเวณเดียวกับทีมชุดใหญ่ด้วย ซึ่งทำให้ คล็อปป์ สามารถมองเห็นนักเตะทุกชุดจากห้องทำงานใหม่ของเขา

โค้ชชาวเยอรมัน กล่าวว่า “เมื่อคุณย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ มันก็ทำให้เรารู้สึกดี มันทำให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก มันจะยกระดับทุกคนหรือไม่เหรอ ? ผมคิดว่าเป็นแบบนั้นนะ เราจะเห็นว่า การใช้ เคิร์กบี้ อย่างถูกวิธีเป็นโครงการระยะยาวมากกว่าที่ผมคิด

“เรามาที่นี่เพื่อใกล้ชิดกันมากขึ้นในการทำงานแต่ละวัน และตอนนี้เรามีนักเตะจากทีมเยาวชนก้าวมาสู่ทีมชุดใหญ่เยอะมาก ผมหวังว่า ในอนาคตเราจะมีมากกว่านี้อีก”

ความคิดของ คล็อปป์ คือ ให้นักเตะในทีมชุดใหญ่ที่มีความเป็นมืออาชีพสูงอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม และ มิลเนอร์ เป็นแบบอย่างให้กับนักเตะเยาวชน แต่คนที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้งานจุดนี้ราบรื่นคือ วิตอร์ มาโตส โค้ชชาวโปรตุเกส

Photo : skysports.com

มาโตส ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ มาเข้าร่วมทีมงานของ คล็อปป์ เมื่อปีที่แล้ว และเป็นคนเสนอชื่อ ริส วิลเลียมส์ เข้าสู่ทีมชุดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาแนวรับบาดเจ็บ นอกจากนี้ มาโตส ยังได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการทำงานระหว่างทีมชุดเล็กกับชุดแรกอีกด้วย 

คล็อปป์ อธิบายว่า “เราจ้าง วิตอร์ ไม่ใช่เพราะทีมเยาวชนของเราไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราต้องการคนที่เป็นจุดเชื่อมต่อ เปปิน ลินเดอร์ส ผู้ช่วยของผมก็ทำแบบนั้นเช่นกัน แต่โค้ชทีมชุดใหญ่เป็นงานที่หนักมากๆ ดังนั้น เราจึงต้องการใครสักคนที่ประสานระหว่างทีมเยาวชนและทีมชุดใหญ่เข้าด้วยกัน”

“วิตอร์ ก็ทำงานได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อเรามีปัญหาในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เขาเป็นคนเสนอชื่อ ริส วิลเลียมส์ ให้เรา เขาเป็นคนมีสายตาเฉียบแหลมมาก และรู้ว่า เราต้องการอะไรในช่วงวิกฤต ใช่ เราต้องการผู้เล่น แต่ผู้เล่นประเภทไหนกันล่ะ”

“เขาทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมทุกชุดตั้งแต่ U16 ขึ้นไป เราสนิทกันมาก แต่เราไม่สามารถทำงานใกล้ชิดกับทีมชุด U14 หรือ U12 ได้ โค้ชของเรารู้ดีว่า เราคาดหวังให้พวกเขาทำอะไร ซึ่งไม่ใช่แค่เกี่ยวกับแนวทางการเล่นเสมอไป”

“เราต้องการให้เด็ก ๆ ได้รับการศึกษาที่กว้างขวาง เราต้องการทราบว่า พวกเขาจะสามารถตอบสนองต่ออาชีพของพวกเขาในสถานการณ์ต่างๆได้หรือไม่ วิตอร์ มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะความสัมพันธ์แบบส่วนตัวกับนักเตะ แน่นอน ในทีมแรกผมคิดว่า เราเปิดกว้างมาก แต่มันอาจต้องใช้เวลาที่นักเตะสักจะแสดงตัวตนออกมา”

“ผมไม่สามารถพูดคุยนาน ๆกับเด็กทุกคนได้ในแต่ละวัน แต่มันจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมันเป็นงานของ วิตอร์ ที่ต้องทำให้แน่ใจว่า เด็กเหล่านั้นรู้ว่า เราจะคาดหวังอะไร พวกเขารู้ว่า เราคิดว่าพวกเขาดี เพียงพอที่พวกเขาจะเข้าใจโอกาสโดยไม่รู้สึกกดดันมากเกินไป”

Photo : talksport.com

มันเป็นเครดิตที่ชัดเจนของ มาโตส ในการดันดาวรุ่งไปสู่มือ คล็อปป์ และจนถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็สามารถใช้นักเตะในอคาเดมี่จนเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งไม่ได้ทำให้รูปเกม หรือระบบทีมที่วางเอาไว้หลายปีกระทบแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน คล็อปป์ อธิบายว่า ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล อาจเป็นสโมสรที่แตกต่างออกไป เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการลงทุนของทีมอื่นอาทิ เชลซี ที่จ่ายไปมากถึง 200 ล้านปอนด์เพื่อคว้านักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดอาจทำให้ คล็อปป์ ต้องหันหน้าเข้าสู่ตลาดนักเตะในเดือนมกราคมหน้าอีกครั้ง หลังจากที่ ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ต้องกลายเป็นกองหลังจำเป็นไปโดยปริยาย แต่นายใหญ่ “หงส์แดง” ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามความเหมาะสม

“เราเปลี่ยนแนวทางการซื้อ-ขายตามสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่ ณ เวลานี้ หากคุณต้องการผู้เล่นระดับโลกคุณก็ต้องไปหาผู้เล่นระดับโลกในตำแหน่งเฉพาะของพวกเขาเช่น เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หรือ อลิสซอน อย่างที่เราเคยทำมา”

“แต่ประตูสำหรับเด็กๆของเรานั้น มักจะเปิดกว่างอยู่เสมอ พวกเขายิ่งเล่นดีเท่าไหร่มันก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในทีมชุดแรกได้เร็วขึ้นสำหรับพวกเขามากเท่านั้น แต่เราไม่ต้องการให้พวกเขารู้สึกว่า ตอนนี้พวกเขายังไม่พร้อม หรือเราจะไม่เชื่อมั่นในตัวพวกเขา”

“เพื่อให้แนวทางการเติบโตของเด็ก ๆ เปล่งประกาย คุณต้องมีฐานที่มั่นคงให้กับพวกเขา ยกตัวอย่างเกมกับ มิดทิลแลนด์ เป็นตัวอย่างที่ดี ฟาบินโญ่ เล่นในครึ่งแรก และไม่ต้องพูดอะไรมากเลย เขาจัดระเบียบเด็กๆได้อย่างยอดเยี่ยม”

“ทุกคนวางใจในการเล่นของเด็กๆเหล่านั้น บิลลี่ คิมูเตโอ มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง แต่เมื่อ ฟาบินโญ่ ถูกเปลี่ยนออกไป ความรับผิดชอบของคนอื่นก็ต้องเปลี่ยนไปเล็กน้อย อาทิ ริส วิลเลี่ยมส์ ที่มีอายุมากกว่าก็ต้องทำหน้าที่ช่วยเหลือ คุณต้องการแกนหลักในทีมเสมอ จากนั้น คุณจึงสามารถพาเด็ก ๆ ขึ้นมาอยู่ในทีมได้” คล็อปป์ กล่าว

Photo : skysports.com

ถึงแม้จะตกอยู่กับสภาวะวิกฤตในปัจจุบัน แต่ คล็อปป์ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงอนาคตโดยระบุว่า “ความรับผิดชอบของเราคือ การให้ความรู้แก่ผู้เล่นในอคาเดมี่ของเราเพื่อให้พวกเขามีอาชีพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันอาจจะเป็นที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งนั่นจะดีมาก”

“แต่บางทีมันอาจจะเป็นสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีก อาจจะเป็นเดอะ แชมเปี้ยน ชิพ หรือลีก วัน เราต้องเสนอการฝึกซ้อมที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และเสนอโอกาสให้พวกเขา จากนั้น พวกเขาจะใช้โอกาสเหล่านั้นได้หรือไม่ พวกเขาต้องทำมันด้วยตัวเอง” คล็อปป์ กล่าวปิดท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top