บทวิเคราะห์บอลฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 คู่บิ๊กแมตช์เปิดหัววันเสาร์ เป็นการโคจรมาเจอกันของทีมอันดับที่ 4 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม ช้าง อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ “ราชันย์มังกร” ราชบุรี มิตรผล ทีมอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนในปัจจุบัน โดยทั้งสองทีมจะลงปะทะกันในช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. ณ จังหวัดบุรีรัมย์
เจ้าบ้าน “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอดโค้ชอย่าง อเล็กซองเดร กาม่า มีการปรับเปลี่ยนขุนพลในเลกที่สองพอสมควรทั้งขาเข้าและขาออกโละตัวต่างชาติ อาทิ จิดี้ คานยุค, เรนาโต้ เคลิช และ มาร์โก เชโปวิช และ อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ ออกไปหมด แล้วไปดึงแข้งที่น่าสนใจมาเสริมทัพอย่าง ฺฮาวาร์ ดาห์ล, ไมคอน มาร์เกวส, แบรนดอน โอนีลล์ และ ซามูเอล โรซา เพื่อทดแทนขุมกำลังที่ขาดหายไป ด้านการลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการนัดล่าสุดนั้นเป็นเกมเอฟเอ คัพที่บุกเชือด “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ด้วยการดวลจุดโทษ 9-8 หลังจากเสมอกันในเวลา 0-0 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะขาด ศุภณัฎ เหมือนตา ที่ยังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เพียงรายเดียว ที่เหลือคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์พร้อมเป็นตัวเลือกในการลงล่าสามแต้มในเกมนี้ได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย สุภโชค สารชาติ ปีกตัวพริ้วที่พร้อมปั่นป่วนคู่แข่งด้วยทักษะอันเหลือร้าย
ฝั่งทีมเยือน “ราชันย์มังกร” ราชบุรี มิตรผล เลกสองนี้คุมทัพโดย “โค้ชเจี๊ยบ” สมชาย ไม้วิลัย ตลาดรอบนี้มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตานักเตะในทีมพอสมควร ดีลที่สำคัญที่สุดในขาออกหนีไม่พ้นการเสีย ยานนิค โบลี แนวรุกตัวแบกออกไปให้ การท่าเรือ เอฟซี แต่ตัวที่เข้ามาทดแทนอย่าง โฆเซ ปอร์เตเรีย และ ซิมง เดีย ก็น่าจับตามองอยู่เช่นเดียวกันว่าจะเข้ามาเติมส่วนที่หายไปได้ลงตัวหรือไม่? ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นโปรแกรมบอลถ้วยที่บุกชนะ สงขลา เอฟซี 2-1 สภาพความพร้อมของทีมในนัดนี้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไร้ปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมลงรับใช้ทีมในเกมนี้ได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย สตีเว่น ล็องจิล แนวรุกสาระพัดประโยชน์ที่กดไปแล้ว 3 ประตูในฤดูกาลนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นเจ้าถิ่นที่ทำได้ดีกว่าพอสมควรด้วยผลงานชนะ 4 นัด และแพ้เพียง 1 นัด นับว่าเป็นบอลที่แพ้ทางกันแบบปฏิเสธได้ยาก อย่างไรก็ตามการพักเบรคไปเดือนกว่าย่อมส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่อแต่ละทีมไม่น้อยเนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นแล้วยังไม่มีใครได้ลองเล่นเกมอย่างเป็นทางการว่านักเตะใหม่ที่เข้ามาทดแทน จะสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปได้ดีมากแค่ไหน ปราสาทสายฟ้า ที่ได้เฝ้ารังในเกมนี้แน่นอนว่าคงยึดแนวทางเดิมคือเป็นบอลเน้นเกมรุกค่อยๆ นวดคู่แข่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเปิดแผลแรกได้ ส่วนทางผู้มาเยือนเกมนี้คงต้องเน้นความแน่นอนในเกมรับไว้ก่อนเป็นอันดับแรก แล้วอาศัยจังหวะโจมตีด้วยเกมสวนกลับอันรวดเร็วจากแนวรุกที่มีสปีดจัด เมื่อเทียบองค์ประกอบโดยรวมแล้วยังเชื่อว่าเจ้าถิ่นยังดูเหนือกว่าอยู่เล็กน้อย และน่าจะอาศัยความแยบยลในการวางแท็คติกของเทรนเนอร์ที่เก๋าเกมกว่าเก็บสามแต้มในรังไปได้แบบเฉียดฉิว
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-4-1-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ดิเกา, พรรษา เหมวิบูลย์ – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, จักรพันธ์ แก้วพรหม, รัตนากร ใหม่คามิ, ศศลักษณ์ ไหประโคน – แบรนดอน โอนีลล์ – ซามูเอล โรซา, ศุภโชค สารชาติ
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (4-2-3-1) : อุกฤษณ์ วงศ์มีมา (GK) – ฟิลิป โรลเลอร์, อี แจ-ซุง, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, เอกลักษณ์ ทองกริต – กฤษณนน ศรีสุวรรณ, จิตปัญญา ทิสุด – สตีเว่น ล็องจิล, ลอสเซมี คาราบูเอ, สิทธิโชค กันหนู – ฮาเบียร์ ปาตินโญ่
ผลสกอร์ที่คาด : บุรีรัมย์ 2 – 1 ราชบุรี มิตรผล