โตริโน่ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม หวังเก็บชัยชนะเพื่อกุมความได้เปรียบก่อนต้องสลับไปเยือนวูลฟ์สในสัปดาห์หน้า แนวรุกนำโดยอันเดรีย เบล็อตติกัปตันทีมยืนเป็นหัวหอกคู่กับซิโมเน่ ซาซ่า ส่วนวูลฟ์สมีการโรเตชั่นนักเตะหลายตำแหน่งโดยเฉพาะกองหลัง แต่แกนหลังยังอยู่ครบนำโดย คอนเนอร์ โคดี้, เจา มูตินโญ่, ดีเอโก้ โจต้า, ราอูล ฆิเมเนซ ส่วนรูเบน เนเรสนั่งเป็นสำรอง
เนื่องด้วยทั้งสองทีมใช้แผนการเล่นคล้ายๆกัน คือ ใช้เซนเตอร์แบ็ค 3 ตัวพร้อมด้วย 2 วิงแบ็ค ทำให้เกมส่วนใหญ่สู้กันที่กลางสนาม เป็นโตริโน่ที่ครองเกมได้มากกว่า โดยพยายามจะเจาะตรงกลาง แต่ก็ไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้มากนักในช่วงแรก เป็นวูลฟ์สที่หาโอกาสจบสกอร์ได้มากกว่า จากการขึ้นเกมทางด้านข้าง ซึ่งเป็นผลมาจากที่แผนการใช้เซนเตอร์แบ็ค 3 ตัวพร้อมด้วย 2 วิงแบ็ค จะทำให้ วิงแบ็คทั้งสองฝั่งเกิดความโดดเดี่ยวในการเล่นเกมรับ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงของครึ่งแรก โตริโน่ปรับมาบุกทางด้านข้างทำให้มีโอกาสจบสกอร์มากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูขึ้นนำไปได้ ท้ายครึ่งแรกวูลฟ์สมาได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย เป็น เกลยซอน เบรเมอร์ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไปอย่างสวยงาม ทำให้วูลฟ์สกุมความได้เปรียบจากการได้อเวย์โกล
เริ่มครึ่งหลังมาโตริโน่พยายามบุกเอาประตูคืน ทำให้กองหลังเริ่มเปิดพื้นที่ว่าง มาเน้นการเจาะทางด้านข้างอย่างเดิม เจาะจุดอ่อนแผนเซนเตอร์แบ็ค 3 คน แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ และเมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 59 กลายเป็นวูลฟ์สได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากการโจมตีเน้นย้ำทางด้านริมเส้น เป็นอดาม่า ตราโอเร่เปิดลูกคัทแบ็คกลับมาให้ดีเอโก้ โจต้าสอดมาแปรโล่งๆ แต่หลังจากนั้นเพียง 2 นาที โตริโน่ก็มาตีไข่แตกได้จากลูกครอสด้านข้างเช่นกัน เป็นทางด้านลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี แบ็คขวา เติมขึ้นมาโหม่งทำประตูจากลูกเปิดย้อยๆของคริสเตียน อันซัลดี้
เกมเริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองทีมยังเน้นการโจมตีทางด้านข้างเช่นเดิม เพราะเป็นจุดอ่อนของแผน 5-3-2 หรือ 3-5-2 นั่นเอง เหตุผลก็คือวิงแบ็คทั้งสองฝั่งจะถูกปล่อยให้โดดเดี่ยว จึ่งทำให้เกิดสถานการณ์ 1 ต่อ 1 อยู่บ่อยครั้ง และรวมไปถึงการยืนตำแหน่งเพื่อประกบตัวรุกฝ่ายตรงข้ามในเขตโทษทำได้ลำบากยิ่งขึ้น
หลังจากที่โตริโน่พยายามเปิดเกมรุกเพื่อทำประตูตีเสมออยู่นาน วูลฟ์สได้โอกาสสวนกลับเร็ว เป็นทาง ราอูล ฆิเมเนซ โชว์โซโล่เดี่ยวผ่านผู้เล่นในแนวรับของโตริโน่ 3-4 คนเข้าไปแปรด้วยซ้ายหนีมือ ซิริกู เข้าประตูไปอย่างหมดจดงดงาม
ท้ายเกมส์โตริโน่ไล่มาเป็น 2-3 จากลูกจุดโทษของอันเดรีย เบล็อตติ จบเกมไปอย่างสนุก โดยในนัดที่สอง โตริโน่ต้องชนะด้วยสกอร์ 2 ประตูขึ้นไปหากยิงไม่ถึง 3 ลูก จึงจะเพียงพอต่อการเข้ารอบ
