นัดแรกของอินเตอร์ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้อย่างเป็นทางการ ลงสนามด้วยแผน 3-5-2 ตามถนัดของคอนเต้ มีดานิโล่ ดัมโบรซิโอ, อันเดรส ราน็อคเคีย, มิลาน สคริเนียร์ ยืนเป็น 3 แผงหลัง ควัดโว่ อซาโมอาห์กับอันโตนิโอ คันเดรว่าเป็นวิงแบ็คซ้าย-ขวา มาติอัส เวชิโน่, มาร์เซโล โบรโซวิชและสเตฟาโน่ เซนซี่ เป็น 3 กองกลาง ส่วนคู่กองหน้าโรเมลู ลูกากูกับเลาตาโร่ มาร์ติเนซจับคู่กัน
เริ่มเกมอินเตอร์ มิลานเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ เน้นจากโจมตีจากวิงแบ็คทั้งสองฝั่งแบบชัดเจน แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งไม่ได้ ส่วนทางด้านทีมเยือนมีโอกาสตอบโต้อยู่บ้างจากโต้กลับตรงกลางสนาม ดูกองกลางของอินเตอร์มีปัญหากับการเล่นเกมรับพอสมควร เลชเช่พยายามตั้งเกมสู้ โดยเน้นการโจมตีทางด้านขวา มีโอกาสจบหลายครั้งแต่ทำไม่ได้ เจ้าถิ่นมาได้ประตูจากการยิงนอกกรอบเขตโทษจากมาร์เซโล โบรโซวิช ปั้นด้วยขวาเสียบเสาเข้าไปอย่างสุดสวยในนาทีที่ 21 นับเป็นประตูแรกในการกุมบังเหียนของคอนเต้ที่อินเตอร์ มิลานด้วย
ทีมเยือนหลังจากโดนขึ้นนำ เริ่มเปิดเกมบุกสู้มากขึ้น เน้นการโจมตีทางด้านควัดโว่ อซาโมอาห์ ที่เติมสูงอยู่ตลอดเวลา อินเตอร์เองก็เปลี่ยนมาบุกทางด้านขวาเหมือนกัน อันโตนิโอ คันเดรว่า มีโอกาสครอสบอลเข้าเขตโทษหลายครั้ง แต่เพื่อนยังจบไม่ลง จนมาได้ประตูที่ 2 จากการยิงไกลของสเตฟาโน่ เซนซี่ไปติดบล็อคแต่บอลยังกลับมาเข้าเท้าเซนซี่ เจ้าตัวเลยโชว์เลื้อยเข้าไปยิงที่บริเวณเส้นกรอบเขตโทษในนาทีที่ 24 อินเตอร์ มิลานขึ้นนำเลชเช่แล้ว 2-0 แนวรับของเลชเช่ค่อนข้างมีปัญหา แผงกองกลาง กับ กองหลัง ไม่ได้มีการ cover กันเท่าที่ควร ทำให้แนวรุกอินเตอร์เล่นกันง่ายมาก ถ้าโดนเลี้ยงผ่านแล้วคือผ่านเลย
กองกลางของอินเตอร์ในนัดนี้ทำหน้าที่ในการสร้างสรรเกม คุมเกม รวมถึงทำหน้าที่ในเกมรุกได้เป็นอย่างดี แต่ในเกมรับกลับมีปัญหา ไม่สามารถหยุดการโต้กลับ ไม่สามารถแย่งบอล ไม่สามารถชะลอเกมให้กับแผงกองหลังได้เลย ทุกครั้งที่เลชเช่ขึ้นบอลมาตรงกลางสามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้หลายครั้ง โดยหลังจากโดนนำ 0-2 เลชเช่เริ่มเปลี่ยนมายืนกดดันสูงขึ้น ทำให้ส่วนใหญ่เลชเช่ได้ครองเกมบุกและหาจังหวะจบอยู่หลายครั้งแต่ลูกยิงยังสร้างปัญหาให้กับฮันดาโนวิชไม่ได้ แต่อินเตอร์ก็ยังตั้งเกมขึ้นมาไม่ได้เช่นเดียวกัน โดนเลชเช่บีบสูงทำให้ต้องถ่ายบอลไปมาหน้าเขตโทษ ต้องใช้ลูกวางยาวในการตั้งเกมสวนกลับแทน ครบ 45.00 นาที กรรมการเป่าหมดครึ่งแรกแบบไม่ทดเวลาแม้แต่วินาทีเดียว อินเตอร์นำเลชเช่ในครึ่งแรก 2-0
เริ่มมาครึ่งหลังเหมือนหนังม้วนเดิมจากท้ายครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือนครองเกมเพื่อทำประตูแต่ก็หาจังหวะจบไม่ได้ อินเตอร์เองก็เริ่มมีโอกาสตั้งเกมสู้กลับมากขึ้น โดยเน้นขึ้นบอลทางด้านขวาโดยใช้ลูกากูกับคันเดรว่าเป็นหลัก ทางด้านเลชเช่ก็เน้นโจมตีทางด้านขวาอย่างเดิม มีโอกาสเอาบอลเข้าเขตโทษอินเตอร์หลายครั้ง แต่เหล่ากองหลังก็ช่วยกันเคลียทิ้งได้เป็นอย่างดี แต่ในนาทีที่ 60 อินเตอร์มาขึ้นนำเป็น 3-0 จากการซ้ำลูกยิงไกลของลาตาโร่ มาร์ติเนซโดยลูกากู นี้คือความต่างในการเล่นจังหวะสุดท้ายของทีมเล็กกับทีมใหญ่จริงๆ
เพราะหากพูดถึงจังหวะการต่อบอล การตั้งโซนเกมรับ การวิ่งกดดัน รวมถึงการหาโอกาสพาบอลเข้าเขตโทษ เลชเช่ทำได้ดีกว่าอินเตอร์ด้วยซ้ำ แต่การเล่นในจังหวะสุดท้าย อินเตอร์ทำได้ดีกว่าในทุกมิติ เลชเช่ทำได้เพียงพยายามยิงไกลนอกเขตโทษเท่านั้น หนำซ้ำในนาทีที่ 76 เลชเช่มาเหลือ 10 คนจากการที่ดิเอโก้ ฟาริอาสไปเข้าบอลอันตรายใส่นิโคโล่ บาเรลล่า เท่ากับว่าฟาริอาสโดนใบแดงในนัดเปิดตัวของตัวเองด้วย
อินเตอร์เกือบมาได้ประตูที่ 4 จากการยิงไกลของมัตเตโอ โปลิตาโน่ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแทน แต่กรรมการที่ดู VAR เห็นลูกากูยืนล้ำหน้าแล้วยกขาหลบ สกอร์เลยยังเป็น 3-0 เหมือนเดิม แต่แล้วในนาทีที่ 84 อินเตอร์ก็มาได้ประตูที่ 4 จากลูกยิงไกลของอันโตนิโอ คันเดรว่า ดูนัดนี้เลชเช่มีปัญหากับการถูกยิงไกลซะเหลือเกิน ไม่มีการบีบ ไม่มีการพยายามวิ่งไปบล็อคจากผู้เล่นที่ยืนอยู่ใกล้ๆเลย เรียกได้ว่าทั้ง 4 ประตูที่เสียรวมกับลูกที่ถูกเป่าล้ำหน้า เป็นการเริ่มต้นจากลูกยิงไกลนอกกรอบทั้งหมด ภาพช้าจับไปที่กาเบรียลผู้รักษาประตูของเลชเช่โวยเพื่อนใหญ่ว่าทำไมไม่บีบเข้าไปเลย ไม่กดดันคนจะยิงเลย ครบ 90.04 นาที กรรมการเป่าจบเกมเรียกได้ว่า 2 ครึ่งเวลาทดเวลาไป 4วิ อินเตอร์ภายในการนำของอันโตนิโอ คอนเต้ประเดิมสวย ชนะ เลชเช่ ไป 4-0 จากการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษเกือบทั้งหมด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงจากลูกได้เสียที่มากที่สุด