เก่งหลังเกม : ห้าดาวแต่ไม่ใช่ไก่ย่าง!!! คูลิบาลี่ OG ทดเวลาส่งยูเว่เฉือนระทึก 4-3 by แฟนบอลโปรไลเซนส์

รูปเกมโดยรวมสูสีกันมากเลย ไม่มีใครได้เปรียบใครชัดเจน ทั้งสองทีมสามารถครองเกมได้พอๆกัน ด้วยการครองบอลเหนียวแน่นตามสไตล์อิตาลี แต่ต่างกันเพียงยูเวนตุสสามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้ชัดเจนกว่า โดยยูเวนตุสมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับเร็วที่นาโปลีเล่นลูกฟรีคิกได้ไม่ดี เป็นดักลาส คอสต้าเลี้ยงมากว่าครึ่งสนามทำท่าเหมือนจะยิงแต่ล็อคแล้วจ่ายมาให้ดานิโล่ที่เพิ่งลงมาสำรอง ใช้สัมผัสแรกของเกมแปลูกเข้าประตูไปง่ายๆ ยูเวนตุสขึ้นนำนาโปลีไปแล้ว 1 – 0 นาโปลีพยายามฟ้องเอาแฮนด์บอลจากจังหวะก่อนที่ยูเวนตุสจะสวนกลับขึ้นมาได้ประตู

อีก 2 นาทีต่อมา ยูเว่มาหนีห่างเป็น 2-0 จากการขึ้นเกมมาทางกราบซ้ายของโรนัลโด้กับอเล็กซ์ ซานโดร แล้วแทงให้มาตุยดี้จ่ายต่อให้อิกัวอินโชว์สกิลโยกหลอกคูลิบาลี่แล้วยิงยัดหน้าอเล็กซ์ เมเร็ต เข้าประตูไปอย่างสวยงาม

หลังจากถูกขึ้นนำเป็น 2-0 นาโปลีก็เริ่มพยายามบุุกมากขึ้น แต่การเล่นในพื้นที่สุดท้ายยังทำได้ไม่ดีต่างกับยูเวนตุสที่เวลาบุกขึ้นมาสามารถหาจังหวะจบได้ชัดเจนจะแจ้งกว่า จนเกือบได้ประตูที่ 3 หลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะจากซามี่ เคดิร่าที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นมากในแดนกลางเหมือนจุติใหม่ภายใต้การคุมทีมของเมาริซิโอ ซาร์รี นาโปลีนัดนี้ในช่วงแรกเน้นเจาะทางดานิโล่แบ๊คขวาของยูเวนตุส โดยใช้การคอมโบกันระหว่างลอเรนโซ อินซินเญ กับฟาอูซี่ กูลามแบ็คซ้ายของทีม แต่ไม่สามารถเอาชนะแนวรับของยูเวนตุสไปได้เลย ทำให้นาโปลีจบครึ่งแรกไปแบบมีโอกาสยิงประตูตรงกรอบแค่ครั้งเดียว

เริ่มครึ่งหลังมา คาร์โล อันเชลอตติกุนซือนาโปลีแก้เกมโดยส่งเฮอร์วิง โลซาโนกับมาริโอ รุย มาแทนลอเรนโซ อินซินเญ กับฟาอูซี่ กูลาม ดูโอ้ทางฝั่งซ้าย รวมถึงเปิดเกมรุกมากขึ้น นาโปลีเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า มีการบีบสูง ถือว่าแก้เกมมาดีทีเดียวจากครึ่งแรกที่เน้นเจาะทางดานิโล่อย่างเดียว มาในครึ่งหลังมีการสลับสับเปลี่ยนมาทางด้านขวาบ้าง กลางบ้าง ดูหลากหลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการปรับตำแหน่งของเซียลินสกี้มายืนสูงขึ้น สามารถสร้างอิมแพคให้เกมรุกของนาโปลีพอสมควร นาโปลีมีโอกาสได้ประตูตีตื้นหลายครั้ง แต่ต้องยอมรับว่าแนวรุกนาโปลีในเกมนี้ยังไม่สามารถคุกคามในพื้นที่สุดท้ายได้ซักเท่าไหร่ ก็ต้องชมทางแนวรับของยูเวนตุสด้วย

ในนาทีที่ 62 ยูเวนตุสมาได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะที่ทำเกมขึ้นไปทางกราบซ้ายเป็นดักลาส คอสต้ารับบอลแทงทะลุช่องจากมาตุยดี้แล้วคัทแบ็คกลับมาให้คริสเตียโน่ โรนัลโด้วิ่งมาซัดด้วยซ้าย ยูเวนตุสขึ้นนำนาโปลีเป็น 3-0 แต่อีก 4 นาทีต่อมา นาโปลีมาตีไข่แตกได้จากลูกฟรีคิก เป็นมาริโอ รุย เปิดมาให้คอสตาส มาโนลาสโหม่งทำประตูแรกในสีเสื้อนาโปลีให้ทีมไล่ตามยูเวนตุสมาเป็น 1-3 และต่อจากนั้นสองนาที นาโปลีมาได้อีกประตูจากการพาบอลขึ้นมาทางซ้ายของปิโอเตร เซียลินสกี้ ปาดมาให้ เฮอร์วิง โลซาโนตัวสำรองยิงเข้าไปจ่อๆซึ่งเป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับนาโปลีเช่นกัน นาโปลีไล่ยูเวนตุสมาเป็น 2-3 แล้ว ซึ่งดูจากภาพช้า เป็นทางด้านมัทไธจ์ส เด ลิกต์กองหลังป้ายแดงหยุดวิ่งตามไปซะเฉยๆ

นาโปลียังคงครองเกมบุกอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ยูเวนตุสได้มีโอกาสเปิดหมัดสวน และมาตามตีเสมอสำเร็จในนาทีที่ 81 จากลูกฟรีคิกฆเซ่ กาเยฆ่อน เปิดมาให้จิโอวานนี่ ดิ โลเรนโซ่วิ่งเข้ามาชาจที่เสาสอง นาโปลีจากที่โดนนำ 0-3 ตามตีเสมอเป็น 3-3 เรียบร้อย เป็นประตูแรกของจิโอวานนี่ ดิ โลเรนโซ่กับนาโปลีอีกเช่นกัน หลังจากถูกตีเสมอ ยูเวนตุสเหมือนจะได้สติ พยายามครองเกมเพื่อเอาประตูคืน แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะชัดเจนได้ แต่ในช่วงทดเวลา ยูเวนตุสมาได้ฟรีคิกระยะเกือบ 40 หลา มิราเลม ปานิชเลือกที่จะหยอดเข้าไปในเขตโทษ คาลิดู คูลิบาลี่ที่พยายามกระโดดเตะสกัดแต่บอลผิดเหลี่ยมปลิ้นเข้าประตูไป ยูเวนตุสขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ หมดเวลาการแข่งขัน ยูเวนตุสเบียดเอาชนะนาโปลีไปได้สุดมัน 4-3 สมศักดิ์ศรีสองทีมที่ดีที่สุดในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในปัจจุบัน

กลายเป็นว่าทั้งสองทีมที่เสริมผู้เล่นในเกมรับได้อย่างน่าสนใจ กลับมีจังหวะพลาดอย่างเหลือเชื่ออย่างมากมาย ส่วนหนึ่งก็เพราะฟุตบอลอิตาลีเองได้เปลี่ยนไปแล้ว หากใครติดภาพที่เคยมองว่าฟุตบอลอิตาลีน่าเบื่อ เล่นช้า เอาแต่อุด ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ยิ่งโดยเฉพาะทีมหัวตารางได้โชว์ให้เห็นว่าสไตล์ตีหัวเข้าบ้านมันแทบไม่เหลืออยู่แล้ว เกมนี้ต้องชมคาร์โล อันเชลอตติกุนซือนาโปลีที่กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยเปลี่ยนเอา ลอเรนโซ อินซินเญที่เปรียบเสมือนหัวใจในเกมรุกของนาโปลีออก ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเค้าตัดสินใจถูก โดยเกมบุกในครึ่งหลังของนาโปลีวูบวาบกว่าในครั้งแรกแบบเทียบกันไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่มาพลาดในนาทีสุดท้ายทำให้อดได้ 1 คะแนนกลับไป ที่น่าสงสารก็คือคูลิบาลี่ที่เล่นดีมาทั้งเกมแต่มาพลาดเอาจังหวะสุดท้าย ทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะแก้ตัวเอาประตูคืน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top