เก่งหลังเกม : ไทยเกือบเฮ!! พลาด 3 แต้มแบบน่าเสียดาย by แฟนบอลโปรไลเซนส์

ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมนัดแรกของอากิระ นิชิโนะ มาด้วยแผนที่แฟนบอลไทยหลายคนไม่คุ้นตา นั่นคือแผน 4-4-2 diamond โดยจับ สุภโชค สารชาติกับฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เล่นเป็นศูนย์หน้าคู่ โดยมี “เมสซี่เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ คอยยืนทำเกมอยู่ทางด้านหลัง ในครึ่งแรก หากพูดถึงรูปเกม ต้องบอกว่าทั้งสองทีมยังคงเน้นปลอดภัยเป็นหลัก ทีมชาติเวียดนามเองเล่นเหมือนกับนัดที่เจอกับทีมชาติไทยเราในรายการ คิงส์ คัพ โดยเน้นการเล่นเกมป้องกันแล้วหาโอกาสโต้กลับเร็ว ในครึ่งแรกเอง เวียดนามมีโอกาสได้ประตูชัดเจนมากกว่า

ในส่วนของทีมชาติไทยในช่วงแรก กองหลังอย่าง มานูเอล ทอม เบียร์ยังมีความน่าเป็นห่วงอยู่บ้าง แต่ได้กองกลางที่เป็นหัวใจของแผนนี้ คอยบีบให้เวียดนามไม่สามารถตั้งบอลจากแนวหลังมาให้กองกลางตั้งเกมบุกได้ เวียดนามทำได้เพียงใช้บอลยาวจากกองหลังโยนไปที่หน้าประตูทีมชาติไทยโดยตรงเท่านั้น ซึ่งก็เข้าทางกับกองหลังของไทยเราที่เล่นลูกกลางอากศได้ดีทั้ง มานูเอล ทอม เบียร์และพรรษา เหมวิบูลย์ ส่วนคนที่โดดเด่นที่สุดในแนวรุกช่วงครึ่งแรกคงหนีไม่พ้น สุภโชค สารชาติ ที่ชนะการดวล 1-1 ได้ตลอด แต่จังหวะจบสกอร์ของทีมชาติไทยทั้งทีมที่เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน ยังเป็นอะไรที่นิชิโนะเองคงต้องเหนื่อยพอสมควร

เริ่มครึ่งหลัง เป็นฝ่ายทีมชาติไทยที่ขยับสูงขึ้น เริ่มมีการครองเกมบุกอย่างต่อเนื่องมากกว่าครึ่งแรก เวียดนามทำได้เพียงแค่ใช้บอลยาวตอบโต้เท่านั้น แต่ในหลายจังหวะก็เกือบจะโดนอยู่หลายจังหวะเหมือนกัน เวียดนามแก้เกมจากในครึ่งแรก โดยการใช้ผู้เล่นซ้อน 2 นักเตะที่มีสกิลลากเลื้อยอย่าง สุภโชคกับชนาธิป เป็นพิเศษ ไม่ปล่อยให้แนวรับต้องดวล 1-1 เพราะเอาไม่อยู่จริงๆ หลายๆจังหวะเราจึงเห็นภาพ 2 คนนี้โดนผู้เล่นเวียดนามล้อมหน้าล้อมหลัง ซึ่งถ้ามองในมุมของเวียดนามก็ต้องยอมรับว่าเค้าแก้เกมมาดีจริงๆ และต้องชมเหงียน วัน ตวน กองหน้าตัวเป้าของเวียดนามในนัดนี้ เพราะสามารถพักบอลให้กับเวียดนาม รวมถึงหาตำแหน่งเอาชนะไลน์กับดักล้ำหน้าได้หลายต่อหลายครั้ง เราจะเห็นว่าหลายจังหวะ มีเค้าคนนี้อยู่คนเดียวในจังหวะที่เวียดนามสวนมา แต่เจ้าตัวก็ยังหาจังหวะจบสกอร์ได้เกือบตลอด

ในช่วงท้ายเกม ทีมชาติไทยมีการเปลี่ยนกองกลางเชิงรับออกแล้วส่งกองกลางเชิงรุกลงไปเพื่อเอาประตูชัยรวมถึงเปลี่ยน ศุภชัย ใจเด็ดลงไปเติมเกมรุกด้วย แต่กลายเป็นกองกลางที่เคยเชื่อมเกมไหลลื่นในช่วงแรกหายไป แถมยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ชัดเจนไม่ได้เลย หนำซ้ำยังเสียบอลในแดนกลางหลายครั้งจนเวียดนามเกือบจะสวนกลับแล้วได้ประตู

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ทีมชาติไทยมีโอกาสได้ประตูแบบใกล้เคียงที่สุด จากจังหวะที่กองหลังเวียดนามสกัดบอลไม่ถึง บอลมาถึงสุภโชค สารชาติ แตะหลบดัง วาน ลัมแต่ตามไปยิงไม่ทัน ต้องล็อคกลับมาหนึ่งจังหวะแต่ก็ยิงไปติดกองหลังเวียดนามที่มายืนรอที่เส้นปากประตู หากลูกนี้เป็นจังหวะต้นเกม หรือกลางเกม น่าจะเป็นประตูไปแล้วจากจังหวะแตะหลบแล้วยิงจังหวะแรก แต่พอมันเป็นช่วงท้ายเกมที่กำลังขาไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่แปลกที่จะไม่สามารถวิ่งตามไปยิงได้ทัน แฟนบอลไทยต้องเข้าใจจุดนี้ไว้ด้วย จบเกมไทยเสมอกับเวียดนามไปแบบอึดอัด 0-0

ในมุมของเวียดนาม การที่เค้าบุกมาได้ 1 คะแนนในบ้านของทีมชาติไทย ถือว่าพวกเขาประสบความสำเร็จตามเป้า ส่วนของทีมไทย ทุกอย่างถือว่าทำได้ดี ยกเว้นการเล่นในพื้นที่สุดท้าย ยังขาดความอันตราย ไม่สามารถคุกคามเวียดนามได้เท่าไหร่ ยังเป็นการบ้านชิ้นใหญ่ให้กับนิชิโนะที่ต้องแก้ไข ส่วนในด้านอื่นๆ ถือว่าในช่วงแรกทีมชาติไทยเราทำได้ดี สามารถแก้เกมปิดจุดแข็งเวียดนามไว้ได้เกือบหมด จนกระทั่งเราปรับแผนเพื่อเอาประตูชัยให้ได้ เวียดนามถึงจะมีโอกาสจะลุ้นประตูมากขึ้น หากเราสามารถทำประตูได้ก่อน แล้วไม่ต้องปรับแผนเพื่อเร่งเอาประตู เวียดนามอาจจะไม่ได้มีโอกาสสวนกลับที่จะแจ้งขนาดนี้ก็ได้ ก็นับว่าทีมชาติไทยภายใต้อากิระ นิชิโนะเอง เหมือนจะมาถูกทาง แต่ก็มีการบ้านชิ้นใหญ่นั่นก็คือการเพิ่มศักยภาพในพื้นที่สุดท้ายที่เป็นปัญหาของฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top