เก่งหลังเกม : เลี่ยนเป่าปาก กดท้ายเกมสองลูก แซงชนะ 3-1 by แฟนบอลโปรไลเซนส์

อิตาลีขนผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม เพื่อหวังเก็บ 3 คะแนนและจำเป็นจ่าฝูงต่อไป ในครึ่งแรก อิตาลีเป็นฝ่ายคุมเกมได้เป็นส่วนใหญ่ โดยมีคีย์แมนขับเคลื่อนในแดนกลาอย่างจอร์จินโญ่ ร่วมกับมาร์โก แวร์รัตติและนิโคโล่ บาเรลล่า ในแดนกลาง แต่เจ้าบ้านอาร์เมเนียก็สามารถใช้เกมสวนกลับตอบโต้ได้ดีเหมือนกัน มีจังหวะจบชัดเจนอยู่หลายครั้งในครึ่งแรก รวมถึงประตูขึ้นนำจากอเล็กซานเดอร์ คาราเพเทียนยิงแบบไม่ต้องจับเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม อาร์เมเนียขึ้นนำอิตาลี 1-0 ไปอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 11

อิตาลีในนัดนี้ถึงแม้จะเน้นการครองเกมกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากการยืนของแผงกองกลางจะใช้รูปแบบระนาบเดียวกันหมด มีเพียงจอร์จินโญ่ ที่อาจจะยืนต่ำกว่าเพื่อนหน่อย เพื่อเชื่อมเกมระหว่างกองหลังกับกองกลาง ดังนั้นการเข้าทำส่วนใหญ่จะมาจากริมเส้น ทั้งปีก 2 ข้างและแบ็คที่เติมสูง แล้วก็มาได้ประตูตีเสมอจากลูกครอสมาที่เสาสองของเอเมอร์สัน มาให้กับเบล็อตติที่ยืนอยู่โล่งๆตั้งหน้าเท้าแปด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ พาอิตาลีตีเสมอได้ในนาที่ 28

รูปเกมส่วนใหญ่ในครึ่งแรกเป็นอิตาลีที่ทำได้ดีกว่า โดยเน้นไปที่โจมตีทางด้านซ้ายด้วยลูกครอสของเอเมอร์สัน รวมถึงการหยอดบอลเข้าเขตโทษของเหล่ากองกลางเท้าชั่งทองทั้งหลาย โดยสามารถส่งลูกเข้าประตูเพิ่มได้แต่โดยกรรมการจับล้ำหน้าซะก่อน แต่ก่อนจะหมดครึ่งแรก อาร์เมเนียมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ คาราเพเทียน ขึ้นโหม่งแย่งบอลกับโบนุชชี่ แต่ไม่รู้กรรมการเห็นอะไรให้ใบเหลืองที่สองกับคาราเพเทียน เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม จบครึ่งแรก อาร์เมเนียเสมอกับอิตาลีอยู่ 1-1

ครึ่งหลังอิตาลีเป็นฝ่ายครองบอลบุกแบบวันเวย์ ด้วยต้องการประตูขึ้นนำบวกกับผู้เล่นอาร์เมเนียเหลือเพียง 10 คน เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย แต่ในจังหวะที่จะเตะกลับเข้ามาให้เอเมอร์สันยิงเข้าไป ลูกออกไปซะก่อน อิตาลีเลยยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ หลังจากนั้นทีมเยือนก็ยังคุมเกมเพื่อหาโอกาสโจมตีอาร์เมเนียอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของอาร์เมเนียไปได้ หนำซ้ำยังถูกอาร์เมเนียโต้กลับจนเกือบได้ประตูหลายครั้ง ยังดีที่อาร์เมเนียจบไม่คมพอ

อิตาลีมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ ในนาทีที่ 78 จากลูกเปิดเข้ามาในเขตโทษของเลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เป็นลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ตัวสำรองวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งให้อิตาลีขึ้นนำ ภาพจับไปที่มันชีนี่แสดงท่าทางโล่งอกหลังจากอึดอัดมานาน หลังจากนั้น 3 นาที อิตาลีมาได้ประตูหนีห่างจากจังหวะที่อันเดรีย เบล็อตติรับบอลจากเซนซี่ในกรอบเขตโทษ พลิกหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยซ้ายบอลเสียบเสาแรก อิตาลีหนีห่างเป็น 3-1 แล้วในนาทีที่ 80 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรกันเพิ่มได้ อิตาลีรอดตาย ได้ประตูช่วงท้ายเกมทำให้ยังคงสถิติชนะรวด 5 นัด มี 15 แต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูงต่อไป

เกมนี้อิตาลีเน้นขึ้นเกมทางริมเส้นเป็นส่วนใหญ่ โดยทางขวาเป็นเฟเดริโก คิเอซ่าที่เล่นเป็นปีกขวา ส่วนทางซ้ายเป็นเอเมอร์สันที่เล่นเป็นแบ็คซ้าย ส่วนกองกลางทำหน้าที่เชื่อมเกมจากหลังไปหน้าและครองเกมให้ความครอบครองบอลอยู่ในฝั่งอิตาลีให้ได้มากที่สุด ต้องชมเบล็อตติด้วยที่ใช้โอกาสที่มีไม่เปลือง ทุกตำแหน่งถือว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี อิตาลียุคใหม่แข็งแกร่งทุกตำแหน่ง ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง มีผู้เล่นตัวเก๋าที่เป็นแกน รวมถึงดาวรุ่งพุ่งแรงที่จะเสริมเขี้ยวเล็บให้กับทีมในด้านต่างๆ รวมถึงมีโค้ชที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคนนึงในโลกฟุตบอลปัจจุบัน อนาคตของอิตาลีชุดนี้จะไปถึงตรงไหน จะเทียบกับชุดฟุตบอลโลก 2006 ได้หรือไม่ แฟนบอลทุกคนโดยเฉพาะแฟนบอลทีมชาติอิตาลีก็ต้องมาคอยดูและเอาใจช่วยกันหละครับ

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top