เก่งหลังเกม : สุภโชค ตบปากเกรียนโซเชียล ยิง 2 + เรียกโทษ พาไทยบุกชนะอินโด 3-0 by แฟนบอลโปรไลเซนส์

ในนัดนี้อากิระ นิชิโนะปรับแผนมาใช้ 4-2-3-1 ที่เจ้าตัวเคยใช้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียสมัยยังคุมทีมชาติญี่ปุ่น นัดนี้นิชิโนะเลือกส่ง 3 แนวรุกสุดจี๊ดอย่าง สุภโชค สารชาติ, ชนาธิป สรงกระสินธ์, เอกนิษฐ์ ปัญญา ลงเล่นร่วมกัน โดยมีศุภชัย ใจเด็ดยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางเหลือแค่สองคน เป็นทางด้าน สารัช อยู่เย็นกับพิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ยืนคู่กัน

ในช่วงแรกไทยเน้นขึ้นเกมบุกทางด้านซ้าย โดยใช้ธีราทร บุญมาทัน เติมขึ้นไปเล่นในหลายๆครั้ง ส่วนอินโดนีเซียเน้นตั้งรับรอตัดบอลได้ก็จะเปิดเกมสวน เน้นทางเจาะทางด้านทริสตอง โด แบ็คขวาของทีมชาติไทย โดยใช้สเตฟาโน ลิลิพาลีกับเบโต้เป็นหลัก มีช่องว่าระหว่างทริสตอง โด กับเอกนิษฐ์ ปัญญาในพื้นที่ตรงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสารัช อยู่เย็น คอยมาซ้อนทริสตอง โด ปล่อยให้เอกนิษฐ์ ปัญญา ก้างมุ้งอยู่ด้านหน้าซะเป็นส่วนใหญ่ ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายคุมเกมได้ส่วนใหญ่ในครึ่งแรก แต่อินโดนีเซียสามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้ชัดเจนกว่า แต่จบครึ่งแรกยังไม่มีใครทำประตูได้ เสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังบุกแบบระวังตัว อินโดนีเซียเองมีโอกาสหลายครั้งชัดเจนกว่าในครึ่งแรก ส่วนทีมชาติไทยมีการสลับการเข้าทำทั้ง ซ้ายบ้าง กลางบ้าง ขวาบ้าง แต่ยังไม่ได้มีโอกาสชัดเจนเท่าไหร่นัก จนในนาทีที่ 56 ทีมชาติไทยมาได้ประตูขึ้นนำจากสุภโชค สารชาติ จากทางซ้ายตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาเสียบเสาเป็นลูกเก่งของเจ้าตัวด้วย ไทยนำอินโดนีเซียแล้ว 1-0 ทีมชาติไทยมาได้ลูกจุดโทษในจังหวะเล่นกันสามคนของ สุภโชค ศุภชัย เอกนิษฐ์ ในจังหวะสุดท้ายสุภโชคถูกผู้รักษาประตูอินโดนีเซียทำฟาวล์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ธีราทรรับหน้าที่ ยิงเสียบสามเหลี่ยม ทีมชาติไทยหนีห่างทีมชาติอินโดนีเซีย 2-0 ในนาที่ 64

หลังจากถูกนำ 2 ประตู อินโดนีเซียเริ่มดันสูงมากขึ้นเพื่อเอาประตูคืน กลายเป็นเปิดพื้นที่ในแนวรุกไทยสวนได้สนุก จนมาได้ประตูที่สาม ในนาทีที่ 72 จากจังหวะกระชากมาคนเดียวของพิธิวัต สุขจิตธรรมกุล โดยสุดท้ายเป็นธีราทรคัทแบ็คมาให้สุภโชคยิงเข้าไป ทีมชาติไทยหนีห่างเป็น 3-0 แล้ว ช่วงเวลาที่เหลือทีมชาติไทยมีโอกาสสวนกลับเพื่อทำประตูเพิ่มหลายครั้ง แต่จังหวะจบเราทำได้ไม่เฉียบคมพอ อินโดนีเซียเองก็ไม่สามารถสร้างความลำบากให้แนวรับทีมชาติไทยได้เท่าช่วงแรก เวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ ทีมชาติไทยบุกมาเอาชนะทีมชาติอินโดนีเซียได้ 3-0

เกมนี้สิ่งที่ต่างออกไปจากในเกมของเวียดนามคือ แผนการเล่นที่เน้นเกมรุกมากขึ้น ถอดเอากองกลางออกหลายคนเพื่อเน้นเกมรุกจากริมเส้น จะเห็นได้ว่าหลายครั้ง อินโดนีเซียสามารถคุกคามเราได้บริเวณช่องว่างระหว่างปีกกับวิงแบ็คทั้งโดยเฉพาะฝั่งทริสตอง โด กับเอกนิษฐ์ ปัญญา นั่นคือสิ่งที่ต้องแลกมาหากเราต้องการประสิทธิภาพในการบุกมากขึ้น ถ้าเทียบกับนัดเวียดนามคือต้องเข้าใจว่าเวียดนามรับแน่นแล้วสวนกลับได้ดี หากเราจัดแผนนี้เล่นในเกมแรก อาจจะโดนเวียดนามโจมตีแล้วมีโอกาสถึงแพ้ ส่วนในนัดนี้ เกมสวนกลับของอินโดยังทำได้ไม่ดีพอ แต่เค้าเองก็มีโอกาสทำสกอร์แบบจะแจ้งหลายครั้ง เป็นการบ้านของทีมชาติไทยที่จะต้องปรับจูน หาความสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับกันต่อไป จากนี้ยังมีสิ่งที่ทีมชาติไทยต้องทำอีกเยอะ นัดนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ส่วนแมนออฟเดอะแมตช์ คงหนีไม่พ้นสุภโชค สารชาติ ที่ทำ 2 ประตูรวมถึงเรียกจุดโทษให้กับทีมชาติไทยได้ ผลงานนัดนี้ถือว่าตบปาก เหล่าแฟนบอลเกรียนๆตามโซเชียลที่เข้าไปด่าเจ้าตัวหลังจากเหตุการณ์ท้ายเกมในนัดเจอกับเวียดนาม เด็กคนนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเค้าคือปัจจุบันและอนาคตสำหรับทีมชาติไทย ส่วนอีกคนที่ต้องชมเป็นพิเศษก็คือ มานูเอล ทอม ที่เหมือนอินโดต้องการมาเจาะทางเขาเป็นพิเศษ แต่ในนัดนี้สามารถเข้าสกัด รวมถึงช่วยเคลียร์ในหลายจังหวะ ทำให้ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน งานเบามากในนัดนี้ สำหรับแฟนบอลไทยรอให้กำลังใจทีมชาติไทยในแมตช์ต่อไป ในวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 19.00 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top