เก่งหลังเกม : เน่เบิ้ลยิง โน่เบิ้ลจ่าย ลิเวอร์พูล ชนะ นิว 3-1 นำโด่งฝูง by แฟนบอลโปรไลเซนส์

ในเกมนี้ลิเวอร์พูลปรับผู้เล่นสองตำแหน่ง โดยส่งอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กับดิว็อค โอริกี้ แทนจอร์แดน เฮนเดอร์สันกับโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่

เริ่มเกมมา เป็นทางฝ่ายเจ้าบ้านครองบอลเข้าใส่ตามปกติ โดยเน้นขึ้นบอลทางกราบซ้ายโดยใช้โรเบิร์ตสันเล่นร่วมกับไวจ์นัลดุมคอยเติมสูง แต่การหาจังหวะจบยังไม่มี การส่งอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงเล่นในแดนกลาง ทำให้เพิ่มมิติการบุกจากการลากเลื้อยเลี้ยงกินด้วยได้อยู่หลายจังหวะ แต่ก็กลายเป็นดาบสองคมเพราะการเล่นเกมรับของอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังทำได้ไม่ดีพอ จนในนาทีที่ 7 นิวคาสเซิ่ลออกนำไปก่อน จากเจโทร วิลเลมส์โชว์ล็อคเข้าขวาแล้วยิงเต็มข้อเข้าประตูไป อาโนลด์ที่ยืนห่างเกินไปเข้าบล็อคไม่ทัน และจากภาพช้า อาเดรียนยืนตำแหน่งไม่ดีเลยพุ่งไปปัดไม่ถึง

ลิเวอร์พูลพยายามหาจังหวะทำประตูตีเสมอหลายครั้ง และมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 28 จากจังหวะตะลุยขึ้นไปของโรเบิร์ตสัน เอมิล คราฟธ์แบ็คขวาของนิวคาสเซิ่ลเข้าพรวด ทำให้ฟาเบียน ชาร์ ต้องหลุดจากตำแหน่งเพื่อมาซ้อน ทำให้ซาดิโอ มาเน่ยืนอยู่โล่งๆได้ปั่นด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม เจ้าถิ่นตีเสมอได้เร็ว

นาทีที่ 37 ดิว็อค โอริกี้ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก JK เลยส่งโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ลงมาเล่นรวมกันเป็นสามประสานเหมือนอย่างเคย และสามารถแผลงฤทธิ์ได้ทันทีในนาทีที่ 40 ซึ่งเฟอร์มิโน่จ่ายทะลุให้มาเน่ แบอลแรงไปเข้ามาร์ติน ดูบราฟก้าแต่รับกะฉอก บอลไปเข้าเท้ามาเน่ที่ยืนอยู่โล่งๆหน้าประตู แปเบาๆเข้าประตูไป เจ้าถิ่นแซงนำ 2-1 เวลาที่เหลือในครึ่งแรก ไม่มีใครทำอะไรกันเพิ่มได้ ลิเวอร์พูลขึ้นนำนิวคาสเซิ่ลในครึ่งแรก 2-1

ครึ่งหลัง ยังเป็นฝ่ายเจ้าบ้านครองเกมบุกเข้าใส่ สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้หลายครั้ง ส่วนทีมเยือนทำได้เพียงแค่หาจังหวะสวนกลับเป็นระยะๆ แต่ตลอดเวลาในครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ลไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์ตรงกรอบได้อีกเลย นับจากได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 7

ลิเวอร์พูลมาบวกประตูเพิ่มได้ในนาทีที่ 72 จากลูกไขว้ของเฟอร์มิโน่ให้กับซาลาห์ได้เลี้ยงทะลวงเข้าไปยิงด้วยซ้ายนิ่มๆ ลิเวอร์พูล นำห่างเป็น 3-0 แล้ว หลังจากนั้นก็ยังเป็นฝ่ายลิเวอร์พูลที่สามารถครองเกมไว้ได้ทั้งหมด รวมถึงมีโอกาสเพื่อเอาประตูเพิ่มอยู่เป็นระยะๆ มีการโรเทชั่นเพื่อพักนักเตะที่ผ่านเกมทีมชาติมา เพื่อรอเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์กับนาโปลี

เวลาที่เหลือไม่มีใครสามารถทำประตูเพิ่มได้ ลิเวอร์พูลเอาชนะนิวคาสเซิ่ลไป 3-1 นำโด่งเป็นจ่าฝูง แข่ง 5 นัดมี 15 คะแนนเต็ม ทิ้งแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เตะช้ากว่าไป 5 คะแนนแล้ว

สิ่งนึงที่เป็นจุดอ่อนของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้คือลูกทะลุช่อง ซึ่งได้เห็นกันมาหลายครั้งว่าสามารถเอาชนะแนวรับลิเวอร์พูลได้ หากหาจังหวะดีๆ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คเองก็เช็คล้ำหน้าพลาดหลายหน แต่ยังดีที่ยังตามไปเคลียร์ทิ้งได้ แต่ในนัดนี้โดนลงโทษเร็ว ยังดีที่มีเวลาที่จะทำประตูคืน ส่วนในเกมรุกต้องบอกว่าลิเวอร์พูลต้องเตรียมการแก้ปัญหาเวลาที่ไม่มีเฟอร์มิโน่ เห็นได้ชัดว่าแนวรุกต่อกันไม่ติดยามไม่มีเฟอร์มิโน่อยู่ในสนาม อย่างในเกมนี้ ความน่ากลัวของพื้นที่สุดท้ายเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยพอเปลี่ยนเฟอร์มิโน่ลงมา ในโอกาสบางทีมันก็มีวิกฤติซ่อนอยู่ ส่วนทีมเยือนหลังจากได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 7 หลังจากนั้นไม่สามารถหาโอกาสยิงเหมาะเจาะได้อีกเลย จบเกมไปด้วยสถิติยิงตรงกรอบครั้งเดียว ต้องบอกว่าฤดูกาลนี้จะเป็นอีกฤดูกาลที่แฟนบอลนิวคาสเซิ่ลต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top