เริ่มเกม วัตฟอร์ดบุกมาได้ลุ้นกว่าชัดเจน แต่การครองบอลต้องบอกว่าสูสี ดูดีทั้งคู่ วัตฟอร์ดสามารถหาโอกาสจบสกอร์ได้หลายครั้ง แต่ยังไม่ผ่านมือแบรนด์ เลโน่ ส่วนอาร์เซน่อลแทบจะไม่มีโอกาสทำสกอร์เท่าไหร่
แต่ในนาทีที่ 21 อาร์เซน่อลตัดบอลได้กลางสนาม เป็นโคลาซินัคกระชากเข้าเขตโทษจ่ายต่อให้ โอบาเมยอง ยิงด้วยขวาเข้าไป อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงตรงกรอบครั้งแรก นาทีที่ 32 โอซิลจ่ายทะลุช่องให้ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ที่เติมขึ้นมาคัทแบ็คกลับมาให้โอบาเมยอง แปโล่งๆ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 2-0 จากการยิงตรงกรอบครั้งที่สองของเกม ท้ายครึ่งแรก เกือบมีมวย สุดท้ายกรรมการแจกใบเหลืองให้ โฮเซ่ โฮเลบาสกับมัตเตโอ เกนดูซี่ ฝั่งละใบ
จากรูปเกมในครึ่งแรก ถึงแม้อาร์เซน่อลครองบอลได้มากกว่า แต่ความชัดเจนในการเข้าทำต้องบอกว่า วัตฟอร์ดมาดีมากหลังจากเปลี่ยนโค้ช ซึ่งก็ต้องชมแบรนด์ เลโน่ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี ทางอาร์เซน่อลครองเกมได้มากกว่า จังหวะในพื้นที่สุดท้ายยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่มาได้ประตูจากการตัดบอลได้กลางสนาม ส่วนอีกประตูได้จากการเติมมาอย่างสวยงามของ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ถือว่าถึงมีโอกาสน้อย แต่ใช้โอกาสไม่เปลือง
เริ่มครึ่งหลังมา 8 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะแจกโชคของ โซคาติส จ่ายบอลหน้าปากประตูไม่ดี บอลมาเข้าเท้าทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ซัดด้วยขวาเต็มข้อเข้าประตูไป หลังจากเสียประตู อาร์เซน่อลโดนบุกแบบวันเวย์ เนื่องจากไม่มีตัวคอยชะลอเกมรุกของฝ่ายตรงข้าม บอลทะลักมาถึงหน้ากรอบเขตโทษตลอด ชาก้าได้เพียงแค่ยืนมองบอลผ่านมา จนต้องเปลี่ยนตอร์เรร่า ลงมาแทนเกนดูซี่ แต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก วัตฟอร์ดได้สวนกลับจนมีโอกาสได้จบสกอร์อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะเดวโลเฟว ที่ได้ยิงด้วยขวาเฉียดไปเฉียดมาอยู่หลายครั้ง
นาทีที่ 81 วัตฟอร์ดมาได้จุดโทษจากจังหวะโต้กลับเร็ว ผ่านกองกลางอาร์เซน่อลที่เปรียบดั่งกรวย บอลมาถึงเปเรย์ร่ากระชากเข้าเขตโทษ โดนดาวิด ลุยซ์ดักเข่า กรรมการเป่าเป็นจุดโทษ เปเรย์ร่าลุกขึ้นมาสังหารเองไม่มีเหลือ วัตฟอร์ดตีเสมอได้สำเร็จ เวลาที่เหลือก็เป็นวัตฟอร์ดครองเกมไว้ได้อย่างชัดเจน มีโอกาสทำประตูชัยได้หลายครั้งแต่ก็พลาดไป กองกลางอาร์เซน่อลไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้เลย วัตฟอร์ดได้ยิงเกือบทุกครั้งที่ตั้งเกมขึ้นมา โดยที่อาร์เซน่อลได้สวยกลับเป็นบางครั้งบางคราแต่ก็หาจังหวะทำสกอร์ไมได้เลย ช่วงทดเวลาวัตฟอร์ดมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดจากจังหวะโต้กลับเร็ว บอลมาถึงอิสไมล่า ซาร์ จ่ายให้อับดูลาย ดูกูเร่ ได้ยิงในเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัวเลโน่ จบเกมเสมอกันไปอย่างสนุก 2-2
วัตฟอร์ดที่เปลี่ยนโค้ช กลายเป็นคนละทีมกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง สามารถเล่นบอลเท้าสู่เท้าได้อย่างแม่นยำ และสามารถแก้การเพลสซิ่งของอาร์เซน่อลได้อย่างดี ยกเว้นจังหวะเสียประตูแรกเท่านั้น การหาจังหวะเข้าทำก็ต้องบอกว่าชัดเจนกว่าทางอาร์เซน่อลเยอะ ขาดแต่เพียงคนที่สามารถใช้โอกาสได้ไม่เปลือง ที่จะมาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในจังหวะสุดท้าย
ส่วนอาร์เซน่อล ต้องบอกว่าอาการหนักทั้งทีม ยกเว้นเลโน่กับโอบาเมยอง แนวรุกคนอื่นๆนอกจากโอบาเมยอง ไม่สามารถสร้างความอันตรายใดๆได้เลย กองกลางก็กลายเป็นว่าทำได้แค่ต่อบอลเชื่อมกันไปมา ไม่สามารถทั้งสร้างสรรค์เกมได้เท่าไหร่ แต่ที่แย่ที่สุดคือเกมรับที่เหมือนกับกรวยที่ตั้งไว้หน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ไม่สามารถตัดบอล แย่งบอล เบรคเกมสวนกลับ หรืออะไรได้เลย ผลักภาระให้กองหลังจนต้องมาเสียลูกจุดโทษให้ช่วงท้ายเกม ส่วนการเสียประตูลูกแรก ต้องบอกว่าน่าเขกกะโหลกโซคราติสจริงๆ หากอาร์เซน่อลไม่แก้ไขจุดอ่อนในแดนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรานิต ชาก้า ที่เป็นเหมือนกรวยสวิตเซอร์แลนด์ อาร์เซน่อลคงลำบากกับฤดูกาลที่เหลืออย่างแน่นอน ส่วนคู่เซ็นเตอร์คงต้องอดทนรอจนกว่า ร็อบ โฮลดิ้งจะพร้อม แต่จะหวังอะไรมากกับคนที่บาดเจ็บยาวก็ไม่ได้ ทางรอดทางเดียวของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้คือการเสริมมิดฟิลด์ตัวรับ กับ ปราการหลังตัวกลางคนใหม่ ไม่งั้นท่าทางจะได้ไปยูโรป้าต่ออีกปี ถ้าเทียบกับเชลซีที่เปลี่ยนโค้ช เสียผู้เล่นสำคัญที่สุดในทีม แถมยังเสริมผู้เล่นใหม่ไม่ได้ เชลซียังดูมีอนาคตกว่าเยอะ