ในเกมนี้เชลซีปรับมาเล่นในแผน กองหลัง 4 คน จากปกติที่เล่น 3 เซ็นเตอร์มาในพักหลังๆ ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 14 จากลูกฟรีคิกเล่นสั้น ซาลาห์เขี่ยให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงด้วยขวาเต็มเท้าเสียบสามเหลี่ยมบนเข้าไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 แล้ว โดยทางเจ้าถิ่นเชลซี ยังรักษาสถิติเสียประตูทุกนัดที่ลงเล่น
หลังจากเสียประตู เชลซีเปลี่ยนตัวเอามาร์กอส อลอนโซ่ ลงมาแทนเอเมอร์สันที่เจ็บแผลเก่า เชลซีเน้นเจาะทางซ้าย โดยตั้งใจเจาะทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เติมเกมบุกสูงแล้วหลุดตำแหน่งบ่อย อีกอาวุธนึงที่เชลซีพยายามโจมตี คือการแทงทะลุช่องเอาชนะกับดักล้ำหน้าของลิเวอร์พูล ซึ่งได้ผลในหลายๆครั้ง เทคนิคอยู่ที่การยืนตำแหน่งแคบๆ เพื่อล่อให้แนวรับลิเวอร์พูลต้องขึ้นมาประสบสูง ซึ่งบางทีขึ้นมาถึงบริเวณวงกลมกลางสนาม
เชลซีมาส่งลูกไปกองก้นตาข่ายได้จากการยิงของอัซปิลิกวยต้า แต่โดน VAR จับล้ำหน้า เมสัน เมาท์ในจังหวะก่อนหน้า พลาดตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย หนำซ้ำยังมาโดนลิเวอร์พูลหนีไปเป็น 2-0 จากลูกฟรีคิกลูกสูตร(อีกแล้ว) เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เขี่ยให้โรเบิร์ตสันครอสด้วยซ้าย บอลมาเข้าทางเฟอร์มิโน่ ที่ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ เข้าไป ลิเวอร์พูลหนีเป็น 2-0 ในนาทีที่ 30
ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก ต้องบอกว่าสู้กันสนุก ถึงแม้จะไม่มีสกอร์เกิดขึ้น ทั้งสองทีมต่อบอลทำเกมรุกกันอย่างเมามัน แต่ว่ายังหาจังหวะยิงกันได้ไม่เยอะ ซึ่งต้องชมแนวรับของทั้งสองทีมที่ช่วยกันแก้ไขสถานการณ์ได้ดี อย่างฝั่งลิเวอร์พูล จะใช้แผงกองหลังดันสูง เพื่อช่วยตัดจังหวะบอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เสี่ยงเพราะเปิดพื้นที่ด้านหลังค่อนข้างเยอะ ส่วนฝั่งเชลซีไม่ได้เจอกับงานยากมากนัก เนื่องจากต้องรับมือเพียงแค่สามกองหน้า ส่วนมิดฟิลด์ของลิเวอร์พูลไม่ค่อยได้เติมสูงไปช่วยเกมรุกซักเท่าไหร่นัก
เริ่มครึ่งหลังลิเวอร์พูลเล่นแบบระวังมากขึ้น ปล่อยให้เชลซีตั้งเกมแล้วรอวางบอลยาวเพื่อสวนกลับ เชลซีเองแม้จะได้ตั้งเกมบุกอยู่เป็นระยะๆ แต่ก็ยังหาจังหวะให้อาเดรียนออกแรงเซฟไม่ค่อยได้ เริ่มมีการย้ายมาเจาะทางฝั่งโรเบิร์ตสันมากขึ้น เชลซีมาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 71 จากจังหวะเลี้ยงมาเลี้ยงมาของกองเต้ ฟาบินโญ่ตามไม่สุด เจอกองเต้โชว์ทีเด็ด ยิงเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูลก็ยังเสียประตูเกือบทุกนัดเหมือนเคย เชลซีตีตื้นมาเป็น 1-2 แล้ว
หลังจากเสียประตูลิเวอร์พูลเลือกเปลี่ยน เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน ซาดิโอ มาเน่ เพื่ออัดเกมรับตรงกลางและทางซ้ายให้แน่นขึ้น เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมาต้องบอกว่า เกมแดนกลางของเชลซีวันนี้สร้างปัญหาในแนวรับลิเวอร์พูลมากเหลือเกิน โดยเฉพาะพื้นที่ทางด้านซ้ายเวลาที่อัซปิลิกวยต้าเติมขึ้นมา ช่วงเวลาที่เหลือเป็นเชลซีที่เป็นฝ่ายบุกเพื่อเอาประตูคืนซะส่วนใหญ่ ส่วนทางลิเวอร์พูลเหมือนพยายามเน้นเอาชัวร์ ไม่เสี่ยงเติมเกมบุก แต่ก็พยายามบีบประกบสูง เพื่อไม่ให้เชลซีตั้งเกมจากแดนหลังได้ จบเกมไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ ลิเวอร์พูลเฉือนเอาชนะเชลซีแบบหืดขึ้นคอ 2-1 เก็บ 18 แต้มเต็มจาก 6 นัดนำโด่งเป็นจ่าฝูงแบบไม่รอใคร
ชอบเชลซีในมือแลมพาร์ดมากๆ อย่าลืมนะครับ นี่คือทีมที่เพิ่งเปลี่ยนโค้ช เสริมนักเตะไม่ได้ แถมเสียนักเตะที่ดีที่สุดในทีมไป ต้องมาเจอกับทีมที่อย่างน้อยก็เป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรปเมื่อฤดูกาลก่อน ในอดีตเชลซีแทบไม่มีโค้ชที่วางรากฐานให้ทีมเลย มาแล้วก็ไป คนใหม่มาก็ต้องรื้อระบบกันไปเรื่อยๆ บางทีคนที่จะยกระดับเชลซีไปอีกขั้น อาจจะเป็นแลมพาร์ดคนนี้ก็ได้ บางครั้งต้องยอมถอยมาก้าวนึง เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้าได้ไกลขึ้น ดาวรุ่งในทีมยิ่งเล่นยิ่งดี จะขาดแค่ความเด็ดขาดในบางจังหวะเท่านั้น ส่วนลิเวอร์พูลยังสามารถหาอะไรใหม่ๆมาเป็นอาวุธได้เรื่อยๆ อย่างในนัดนี้ก็ได้ประตูจากลูกสูตรทั้ง 2 ครั้ง หากตัดส่วนนี้ไปต้องบอกเลยว่า ยังหาจังหวะที่ชัดเจนพอที่จะเป็นประตูไม่ได้เลย ต้องชมทั้งเชลซีด้วยที่เล่นได้ดีมีอนาคต ส่วนลิเวอร์พูลก็เก็บสามคะแนนอย่างที่หวังตั้งใจไว้ได้ บางทีถึงแม้จะสกอร์จะออกมาเป็น เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล แต่มองกันจริงๆ ในนัดนี้อาจจะเป็นชัยชนะของทั้งสองทีมเลยก็ได้
แฟนบอลโปรไลเซนส์