วิเคราะห์ก่อนเกม ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 7 คู่ประจำวันอาทิตย์ ในนัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยฟุตบอลนัดนี้จะลงทำการแข่งขันกันในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน เวลา 22.30 น. ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

ด้านเจ้าถิ่น “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ ผลงานติดลมบน โดยในเกมลีกนัดล่าสุดสามารถเปิดบ้านเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมระดับท็อปซิกส์ไป 2-1 สถิติลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 6 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้เพียงนัดเดียว มี 11 คะแนน รั้งอันดับสามของตาราง ส่วนในเกมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา บุกไปเอาชนะ ลูตัน ทาวน์ 4-0 ในรายการ คาราบาว คัพ รอบสาม นักเตะตัวหลักๆ ฟิตพร้อมสมบูรณ์ ยกเว้นแค่ในรายของ เจมส์ แมดดิสัน เพลย์เมกเกอร์ฟอร์มฮอตที่ต้องรอเช็คความฟิตถึงนาทีสุดท้าย

ส่วนทีมเยือน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ฟอร์มน่าเป็นห่วง ลงเล่นไปแล้ว 6 นัดในลีก ชนะได้เพียงแค่เกมเดียว เสมอ 2 แพ้ถึง 3 เกม มี 5 คะแนนเท่านั้น โดยเกมล่าสุดทำได้เพียงแค่เปิดบ้านเสมอกับ ไบรท์ตัน ไปแบบไม่มีสกอร์ นิวคาสเซิ่ลไม่มีเกมกลางสัปดาห์ในรายการ คาราบาว คัพ เนื่องจากแพ้ต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ ตกรอบในรอบที่สองเมื่อเดือนที่ผ่านมา ในรายของนักเตะที่บาดเจ็บ จะมีเพียง ฟลอร็องต์ เลอเฌอยูน กับ เดอันเดร เยดลิน เท่านั้น ส่วนคนอื่นๆที่เหลือฟิตพร้อมสมบูรณ์เต็มร้อย

ดูจากฟอร์มการเล่น ณ ปัจจุบัน ทีม “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถทำผลงานได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยที่สามารถสู้กับทีมระดับท็อปซิกส์ได้อย่างสนุกสูสี เกมเดียวที่แพ้ในพรีเมียร์ลีก คือเกมที่บุกไปเยือน “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเสียประตูจากลูกโทษที่จุดโทษ แถมยังได้เปรียบในการเล่นในบ้านของตัวเอง ส่วนทางด้าน “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก ราฟาเอล เบนิเตซ มาเป็น สตีฟ บรู๊ซ ต้องบอกว่าหาทรงบอลไม่เจอ แต่ก็ยังสามารถบุกไปเอาชนะทีม “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ถึงถิ่นเหมือนกัน แสดงว่าทางนิวคาสเซิ่ลเอง มีศักยภาพที่จะบุกมาเอาชนะได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในนัดนี้ ต้องยกให้ทีม “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ มีภาษาดีกว่าที่จะเก็บชัยชนะไป

ผลที่คาด เลสเตอร์ ซิตี้ 2 – 0 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top