วิเคราะห์บอล ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2019/2020 รอบรองชนะเลิศ เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง “เดอะ เร้ดบูลส์” แอร์เบ ไลป์ซิก ม้ามืดสุดแกร่งประจำรายการจากลีกบุนเดสลีกา เยอรมัน พบกับ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์ทุกสถาบันของฝั่งลีกเอิง ฝรั่งเศส โดยเกมนัดนี้จะลงดวลแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันอังคารที่ 18 สิงหาคม เวลา 02.00 หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพุธที่ 19 สิงหาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม อิชตาดีอูดาลุช กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
“เดอะ เร้ดบูลส์” แอร์เบ ไลป์ซิก ของเทรนเนอร์หนุ่ม ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบที่แล้วแม้จะไม่มีหัวหอกตังเก่งอย่าง ติโม แวร์เนอร์ แต่ก็ใช้อาศัยระบบการเล่นที่เข้าขาพาทีมผ่านด่านสุดเขี้ยวอย่าง “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด มาได้ด้วยการเฉือนเอาชนะได้ในช่วงท้ายเกม 2-1 ทำให้ผลงานที่ลงสนาม 5 เกมหลังสุดในทุกรายการสามารถเก็บชัยได้ 3 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 1 เกม ซึ่งจากชัยชนะเกมล่าสุดทำให้พลพรรคกระทิงแดง สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับทีมด้วยการผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศ รายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ทั้งๆ ที่เพิ่งจะก่อตั้งสโมสรมาแค่ปี 2009 สำหรับความพร้อมล่าสุดของยอดทีมจากบุนเดสลีกา เกมนี้จะขาด อิบราฮิม่า โกนาเต้ เซนเตอร์แบ็คชาวฝรั่งเศส ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณสะโพกเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น
“เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หนึ่งในตัวเต็งที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้ครอบครองถ้วยใบนี้ ภายใต้การบัญชาการทัพของ โธมัส ทูเคิ่ล ผลงานในลีกของพวกเขายังคงครองความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ฤดูกาลนี้สามารถกวาดทริปเบิ้ลแชมป์ในประเทศได้อย่างง่ายดาย ไล่ตั้งแต่แชมป์ลีก รวมถึงสองบอลถ้วยอย่าง เฟร้นซ์ คัพ และ เฟร้นซ์ ลีก คัพ มาครองเอาไว้ได้อยู่ในขณะนี้ ส่วนในรายการยุโรปที่พวกเขาหวังเอาไว้มากที่สุด ก็เดินหน้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ หลังรอบที่ผ่านมาโชว์การคัมแบ็คพลิกนรกกลับมาเอาชนะ “เทพธิดา” อตาลันตา ทีมแกร่งจากกัลโช่ เซเรีย อา ได้แบบสุดมันส์ 2-1 ทำให้สถิติการลงสนามเกมอย่างเป็นทางการของ เปแอสเช 5 เกมหลังสุดพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด มาที่ความพร้อมล่าสุดของทีมดังจากฝรั่งเศสเกมนี้จะขาดนักเตะ 2 รายคือ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศสที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขา และ มาร์โก แวร์รัตติ มิดฟิดล์ตัวเก่งที่ยังไม่สามารถเรียกความฟิตกลับมาได้แบบร้อยเปอร์เซ็น อย่างไรก็ตามเปแอสเชก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างเมื่อ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงตัวเก่งของทีมกลับมาฟิตพร้อมลงสนามเป็น 11 ตัวจริงให้กับทีม
วิเคราะห์ก่อนเกม แอร์เบ ไลป์ซิก พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าที่พวกเขาทะลุเข้ามาถึงรอบนี้ได้ไม่ได้เป็นเรื่องฟลุ๊คแต่อย่างใด แม้ในทีมจะไม่ได้มีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ แต่พวกเขาโชว์ให้เห็นว่าหัวใจสำคัญของฟุตบอลคือการเล่นกันเป็นทีม 11 คน บุคคลที่เป็นตัวชูโรงของทัพเดอะ เร้ดบูลส์ ไม่ได้อยู่ที่นักเตะ แต่กลับเป็นกุนซือหนุ่มวัยเพียง 33 ปีอย่าง ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ ด้วยแท็กติกหลัง 3 รวมถึงแดนกลางและแดนหน้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ ทำให้ทีมมีความยืดหยุ่นสูงสามารถชนได้กับทุกทีม แต่จุดอ่อนของพวกเขายังคงเป็นตำแหน่งศูนย์หน้าที่ก่อนหน้านี้ฝากไว้กับความหวังไว้กับ ติโม แวร์เนอร์ ช่วยจบสกอร์เป็นส่วนใหญ่ จากเกมที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า ยุสซุฟ โพลเซ่น ยังทำหน้าที่ทดแทนได้ไม่ดีพอ หากไม่ได้ลูกยิงแฉลบในช่วงท้ายเกม ก็ไม่รู้ว่าผลในเกมล่าสุดนั้นจะออกมาเป็นยังไง ส่วนทางฝั่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แน่นอนว่าพวกเขามีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์อยู่หลายคน โดยเฉพาะในแนวรุกที่หากลงเล่นกันพร้อมหน้าคงหาทีมหยุดยากเหลือเกิน ด้วยศักยภาพในแดนหน้าฝั่งทีมจากฝรั่งเศสยังเหนือกว่าแบบไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่หน้าเป็นห่วงคือแดนกลางที่จะขาดตัวคุมจังหวะของทีมอย่าง มาร์โก แวร์รัตติ ทำให้พวกเขาต้องทุลักทุเลสุดๆ กว่าจะผ่านเข้ามาเล่นในรอบนี้ได้ เกมนี้ทั้งคู่มีดีอยู่คนละแบบเรื่องทีมเวิร์คต้องยกให้ ไลป์ซิก แต่เรื่องคุณภาพของผู้เล่นต้องไปทางฝั่งเปแอสเช ทำให้คิดว่ารูปเกมจะออกมาค่อนข้างสูสีกัน แต่ยังเชื่อว่าทีมที่จะได้เข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศจะเป็นฝั่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากปัจจัยที่เรียกว่า ประสบการณ์ ที่เหนือกว่า จะเห็นได้ว่านักเตะของปารีสหลายๆ คนมีประสบการณ์ในเกมที่กดดันระดับสูงแบบนี้อยู่หลายคน ผิดกับฝั่ง ไลป์ซิก ที่หาแทบไม่เจอแม้แต่คนเดียว แม้แต่ตัวกุนซือเองก็ตาม และนัดนี้ยังเป็นการโคจรมาเจอกันของ โธมัส ทูเคิ่ล คนที่หยิบยื่นโอกาสการคุมทีมครั้งแรกให้กับ ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ อีกด้วย ฉนั้น ทูเคิ่ล จะสั่งสอนบทเรียนสุดท้ายให้ นาเกิลส์มันน์ ว่า “เป็นแค่ศิษย์อย่าริคิดมาล้างครู”
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แอร์เบ ไลป์ซิก (3-3-3-1) ปีเตอร์ กูลัคซี่ (GK) – ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, มาร์เซล ฮัลส์เตนแบร์ก, ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ – อันเจลิโน่, เควิน คัมเพิล, คอนราด ไลเมอร์ – มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ดานี่ โอลโม่, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู – ยุสซุฟ โพลเซ่น
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (4-3-3) : เคย์เลอร์ นาบาส (GK) – ธิโล่ เคห์เรอร์, ติอาโก้ ซิลวา, เพรสแนล คิมเพมเบ้, ฆวน เบร์นาต – อันเดร เอร์เรร่า, มาควินญอส, อิดริสซ่า เกย์ – เนย์มาร์, เมาโร อิคาร์ดี้, คีเลียน เอ็มบัปเป้
ผลสกอร์ที่คาด : แอร์เบ ไลป์ซิก 1 – 2 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง