บทวิเคราะห์ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก คู่บิ๊กแมตช์นัดตกค้าง โปรแกรมนัดที่ 5 ของซีซั่น เกมนัดตกค้างที่เป็นการพบกันระหว่าง “กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด น้องใหม่ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตทีมดีกรีแชมป์ไทยลีก 7 สมัย โดยทั้งสองทีมจะลงวัดฝีเท้ากันในช่วงหัวค่ำของวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม เวลา 19.00 น. ที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม จังหวัดปทุมธานี
เจ้าถิ่น “กระต่ายแก้ว” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน เปิดหัวซีซั่นนี้ได้อย่างน่าประทับใจอย่างมากในฐานะน้องใหม่หน้าเก่า เก็บไปได้ถึง 19 แต้ม จากการลงเล่น 7 เกมที่ผ่านมาด้วยผลงานชนะ 6 นัด และเสมอ 1 นัดยังไม่ปราชัยให้กับทีมใดเลยจนถึงตอนนี้ การเสริมทัพในช่วงตลาดรอบที่ผ่านมาถือว่าฮือฮาสุดๆ คว้าตัวดาวเตะระดับชั้นนำมาได้หลายคน อาทิ เช่น สารัช อยู่เย็น, อันเดรส ตูเญซ, มิตซุรุ มารูโอกะ และ เจนรบ สำเภาดี ส่วนขาออกที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เป็น ยูกิ บัมบะ และ สุวรรณภัทร กิ่งแก้ว ที่อำลาทีมไป ด้านการลงสนามนัดล่าสุดนั้นเปิดรังเฉือนชนะ “ม้านิลลำพอง” ระยอง เอฟซี แบบหวุดหวิด 2-1 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้จะสมบูรณ์พร้อมสรรพไร้ตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงเล่นเกมนี้ได้ทั้งหมดนำทัพมาโดย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ จอมทัพคนขยันของทีมที่เป็นหัวใจในการทำเกมแดนกลาง
ฝั่งทีมเยือน “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกตัวในฤดูกาลนี้ได้อย่างน่าผิดหวังตกมาอยู่ครึ่งล่างของตารางอย่างน่าตกใจ เนื่องจากช่วงแรกเทรนเนอร์ของทีมอย่าง โบซิดาร์ บันโดวิช ติดปัญหาส่วนตัวต้องเดินทางกลับประเทศบ่อยครั้งจนต้องให้สตาฟฟ์คนอื่นทำหน้าที่แทน ปัจจุบันเก็บไปเพียง 10 แต้ม จากการลงเล่นทั้งหมด 6 นัดด้วยผลงานชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ไปถึง 2 นัด ตลาดรอบที่ผ่านมาเปลี่ยนหน้าตาผู้เล่นตัวหลักของทีมไปหลายรายโดยเฉพาะตัวต่างชาติมีการปล่อย อันเดรส ตูเญซ, ริคาร์โด้ บูเอโน่, จอง แจ–ยอง และ แบร์นาโด คูเอสต้า ออกไปจากทีมทั้งหมด และดึงตัว เรนาโต้ เคลิช, มาร์โค เชโปวิช, จิดี้ คานยุค และ อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ เข้ามาทดแทน ด้านการลงเล่นนัดล่าสุดนั้นบุกเฉือนชนะแชมป์เก่า “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้เพอร์เฟคสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนแม้แต่รายเดียว ทุกคนพร้อมเป็นตัวเลือกในการลงสนามเกมนี้ได้ทั้งหมดนำทัพมาโดย มาร์โค เชโปวิช ที่พร้อมลงปั่นป่วนแนวรับเจ้าถิ่นด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นทีมเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนด้วยผลงานชนะ 4 นัด และแพ้ 1 นัด อย่างไรก็ตามโฉมหน้าของนักเตะแกนหลักของแต่ละทีมเปลี่ยนไปแบบคนละขั้ว เนื่องจากมีการเสริมทัพชุดใหญ่เพื่อหวังลุ้นแชมป์ แต่ใช่ว่านั่นจะเป็นเรื่องดีเพียงแค่อย่างเดียว อย่าลืมว่าการนำเข้าผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาต้องใช้เวลาปรับจูนเล่นให้เข้าขากันแล้วนั่นเป็นจุดบอดของทั้งคู่ในชั่วโมงนี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เน้นเรื่องความเข้าขารู้ใจของผู้เล่นเป็นอย่างมาก ทุกคนในแต่ละแดนต่างวิ่งช่วยกันแบบใจสู้ พร้อมเผชิญหน้าได้กับทุกทีมด้วยความมุ่งมั่น แต่สิ่งที่ยังน่าเป็นห่วง คือ เรื่องการทำประตูที่ศูนย์หน้ายังคงหาจังหวะจบสกอร์ได้ไม่ดีพอ ส่วนทางผู้มาเยือน ปราสาทสายฟ้า นั้นเริ่มเร่งฟอร์มให้กระเตื้องขึ้นมามากกว่าช่วงแรกพอสมควรแล้ว เกมรับดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาหลังได้ เคลิช มายืนเป็นตัวสั่งการ แนวรุกแน่นอนว่าดีกรีแต่ละคนนั้นบอกได้เลยว่าฝีเท้าจัดจ้านไม่ธรรมดาทั้งสิ้น แต่ส่วนมากจังหวะทีเด็ดที่ขาดในการพังประตูยังคงได้แค่วูบวาบเท่านั้น เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาอย่างเดียวไม่เฉียบคม เชื่อว่าเกมนี้แดนกลางของทั้งคู่จะดวลกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันอย่างแน่นอน เพื่อทำลายเกมไม่ให้คู่แข่งเล่นง่ายๆ และเป็นไปได้สูงที่ผลการแข่งขันจะลงเอยด้วยการเสมอกันไปแบบมีสกอร์ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีไม้เด็ดที่อันตรายไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (3-5-2) : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK) – อิรฟาน ฟานดี้, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, อันเดรส ตูเญซ – สุรชาติ สารีพิมพ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, สหรัฐ ปองสุวรรณ – สุมัญญา ปุริสาย, นอร์ชาห์รูล อิดลัน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, พรรษา เหมวิบูลย์, เรนาโต้ เคลิช, เควิน อินเกรโซ – ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ, รัตนากร ใหม่คามิ, สุภโชค สารชาติ – จักรพันธ์ แก้วพรม – มาร์โค เชโปวิช
ผลสกอร์ที่คาด : บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1 – 1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด