‘5 สถานีล่าตาข่ายต่อไปของ อิบราฮิโมวิช’

เป็นอันว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะย้ายออกจาก ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ แน่นอนแล้ว หลัง แอลเอ และ อิบราฮิโมวิช ประกาศยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญา และแยกทางกันเมื่อหมดสัญญา หลัง เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา จบฤดูกาล 2019 นี้ พร้อมปิดฉากช่วงเวลา 2 ปีใน เอ็มแอลเอส กับผลงานกระหน่ำ 52 ประตู 17 แอสซิสต์จากการลงเล่น 56 เกม

ซลาตัน อำลา แอลเอ แกแล็กซี่ หลัง 2 ปีในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา

และแม้เข้าสู่วัย 38 ปี แต่จากผลงานการสร้างกับต้นสังกัดที่ผ่านมาของเขาทั้ง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แอลเอ แกแล็กซี่ แต่กลับฟอร์มยังกระหึ่มมาโดยตลอด, ชั้นเชิงลูกหนังพร้อมวาดลวดลายสีสัน และชื่อเสียงทั้งใน และนอกสนามของเขา ทำให้สถานีต่อไปของ อิบรา ยังได้รับความสนใจ และน่าติดตามเสมอ

เอซี มิลาน

อิบรา นำ มิลาน ซิวแชมป์เซเรีย อา ฤดูกาล 2010-11

อิบราฮิโมวิช เคยโชว์ฟอร์มมาสเตอร์พีซกับ มิลาน ตลอดช่วงเวลา 2 ปีของเขาในถิ่น ซาน ซีโร่ ระหว่าง 2010-12 หลังย้ายมาจาก บาร์ซ่า แบบยืมตัว ก่อนซื้อขาดกันในภายหลัง ด้วยผลงานรัว 56 ประตูจากการลงสนาม 85 นัดในทุกรายการ รวมทั้งกด 42 ประตูใน 61 เกม เซเรีย อา พร้อมนำทัพ “ปีศาจแดง-ดำ” กลับมาคว้าโทรฟี่แชมป์ สคูเด็ตโต้ สมัยแรกในรอบ 7 ปี เมื่อฤดูกาล 2010-11 และกลายเป็นแชมป์ เซเรีย อา สมัยล่าสุดของยอดทีมแห่งเมืองมิลานนับจนกระทั่งปัจจุบัน

ทำให้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มิลาน ที่มี เลโอนาร์โด้ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในตอนนั้นเคยพยายามนำตำนานศูนย์หน้าทีมชาติสวีเดนกลับมาล่าตาข่ายกับ “รอสโซเนรี่” เป็นคำรบที่ 2 ในครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2018-19 ที่ผ่านมา และได้ไฟเขียวจาก มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ส่วนตัวของ ซลาตัน แล้วด้วย แต่สุดท้าย เลโอนาร์โด้ ไม่สามารถเจรจาทาบทามกับ แอลเอ แกแล็กซี่ ลุล่วงได้

และตอนนี้กลับวิกฤตของ มิลาน ที่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2019-20 ด้วยผลงานย่ำแย่ เมื่อสามารถคว้าชัยได้เพียง 4 นัดเท่านั้นจากการลงสนาม 12 เกมแรกใน เซเรีย อา ซีซั่นใหม่ และต้องพบกับความพ่ายแพ้มากถึง 7 เกมจาก 12 นัดที่ผ่านมา ทำให้ “รอสโซเนรี่” อาจมองถึงความเป็นไปได้ในการเซ็นสัญญา อิบรา กลับมากู้วิกฤตในปีใหม่ 2020 และด้วยความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมของเขากับสโมสร และแฟนบอล ทำให้ดาวยิงชาวสวีดิชอาจอยากกลับมาค้าแข้งกับ “ปีศาจแดง-ดำ” อีกครั้งในบั้นปลายชีวิตการค้าแข้ง

นาโปลี

อาจหวนกลับมาล่าตาข่ายภายใต้การบัญชาทัพของ อันเชล็อตติ

ทั้ง นาโปลี และ อิบราฮิโมวิช ต่างเคยออกมาชื่นชมกันและกัน รวมทั้งแสดงออกถึงความปราถนาว่าอยากมีโอกาสร่วมงานกันมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยอดีตกองหน้า เปแอสเช และ แมนฯ ยูไนเต็ด เปรยว่าอยากมาหาประสบการณ์กับ นาโปลี เพื่อตามรอย ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่าที่เคยพา นาโปลี ครอบครองแชมป์ เซเรีย อา 2 สมัย ช่วงปลายทศวรรษที่ 80 เมื่อฤดูกาล 1986–87, 1989–90

ส่วน ออเรลิโอ เด เลาเรนติส ประธานสโมสร นาโปลี และ คริสเตียโน่ จานโตลี่ ผู้อำนวยการของ นาโปลี เคยเปิดเผยด้วยตัวเองว่ามีความสนใจนำ อิบราฮิโมวิช มาสู่สตาดิโอ ซาน เปาโล ด้วยเหมือนกัน เช่นเดียวกับ คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ของ นาโปลี ที่เคยร่วมงานกับอดีตดาวซัลโวทีมชาติสวีเดนที่ เปแอสเช มาแล้ว 1 ปี ยอมรับว่ายินดีเป็นอย่างยิ่งถ้าได้ ซลาตัน มาเพิ่มความแข็งแกร่งดุดันในแดนหน้า “อัซซูร์ร่า”

นอกจากนี้ นาโปลี ยังอาจตอบโจทย์เรื่องความสำเร็จให้กับ อิบรา ได้อีกด้วย หากหัวหอกชาวสวีดิชยังต้องการเก็บถ้วยแชมป์เพิ่มในคอลเลคชั่นของตัวเองอีก เพราะยอดทีมแห่งเนเปิ้ลส์มีทั้งปัจจัยแวดล้อมของสโมสร, ขุมกำลัง และโค้ช พร้อมสำหรับท้าทายความสำเร็จ แม้พวกเขาอาจออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ใน เซเรีย อา ด้วยผลงานไม่สู้ดีมากนัก

โบโลญญ่า

มีโอกาสคัมแบ็กเซเรีย อา รอบ 3 กับ โบโลญญ่า

โบโลญญ่า แสดงความชัดเจนมาโดยตลอดว่าต้องการกระชาก อิบราฮิโมวิช มาร่วมชายคาสตาดิโอ เรนาโต้ ดัลลาร่า เมื่อทั้ง วอลเตอร์ ซาบาตินี่ ผู้อำนวยคนดังของ โบโลญญ่า และผู้อำนวยการกีฬา ริคคาร์โด้ บิกอน ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อเซ็นสัญญากับอดีตกองหน้า ยูเวนตุส, อินเตอร์ และ มิลาน ที่เพิ่งกลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ และสามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า จูเซ็ปเป้ โจอี้ ซาปูโต้ ประธานสโมสร โบโลญญ่า พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยการทุ่มค่าเหนื่อยหลัก 8 ล้านยูโรต่อปี ภายใต้สัญญาระยะยาว 18 เดือนให้กับอดีตกัปตันทีมชาติสวีเดน รวมทั้ง อิบรา ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ซินิซ่า มิไฮโลวิช เทรนเนอร์ของ โบโลญญ่า อีกด้วย

เพราะแม้ว่า ซลาตัน จะมีอายุอานามแตะหลัก 38 กระรัตแล้ว แต่ด้วยประสบการณ์ และผลงานค้าแข้งใน เซเรีย อา ยาวนาน 7 ปี พร้อมความสำเร็จเป็นกอบเป็นกำกับแชมป์ สคูเด็ตโต้ 6 สมัย (ฤดูกาล : 2004–05, 2005–06, 2006–07, 2007–08, 2008–09 และ 2010–11) และแชมป์ โคปปา อิตาเลียน่า 3 สมัย ล้วนมีความหมาย และล้ำค่าสำหรับ โบโลญญ่า

อินเตอร์ มิลาน

อิบรา กวาด 3 สคูเด็ตโต้ กับ อินเตอร์

อิบราฮิโมวิช ย้ายข้ามฟากจาก ยูเวนตุส มาร่วมทีม อินเตอร์ เมื่อปี 2006 หลังคดีกัลโช่โปลี พร้อมช่วยทัพ “งูใหญ่” ครอบครองความยิ่งใหญ่บนแผ่นดินประเทศอิตาลีแทน “ม้าลาย” ที่ถูกปรับตกชั้นสู่ เซเรีย บี อิตาลี ด้วยการกวาดแชมป์ เซเรีย อา 3 สมัยซ้อน ซีซั่น 2006–07, 2007–08 และ 2008–09 พร้อมผลงานส่วนตัวหวด 57 ประตูจากการลงสนาม 88 เกม เซเรีย อา ในช่วงเวลา 3 ปีกับ “เนรัซซูร์รี่”

โดย อินเตอร์ กลายเป็นอีกหนึ่งสโมสรในอิตาลี และหนึ่งในทีมเก่าของเขาที่ตกเป็นข่าวต้องการเซ็นสัญญากับตำนานดาวยิงทีมชาติสวีเดน เพราะ อันโตนิโอ คอนเต้ เฮดโค้ชของ อินเตอร์ อาจยังต้องการกองหน้าตัวใหม่มาเสริมทัพอีกหลังพลาดฉก เอดิน เชโก้ ศูนย์หน้าตัวเก๋าของ อาแอส โรม่า เมื่อกลางปีที่ผ่านมา รวมทั้งก่อนหน้านี้เพิ่งเสีย อเล็กซิส ซานเชซ สตาร์ทีมชาติชิลีที่ยืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปจากอาการบาดเจ็บอีก

รวมทั้งก่อนหน้านี้ มัสซิโม โมรัตติ อดีตประธานสโมสร อินเตอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ “เนรัซซูร์รี่” กับการฟาดแชมป์ สคูเด็ตโต้ 5 สมัยติดต่อกัน รวมทั้งการครองบัลลังก์ทริปเปิ้ลแชมป์ทั้ง เซเรีย อา, โคปา อิตาเลีย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2010 ยังออกมาเชียร์ให้ยอดทีมแห่งเมืองมิลานพิจารณาดึง ซลาตัน กลับสู่ชายคา สตาดิโอ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ช่วงเวลาหอมหวานของ ซลาตัน กับ ยูไนเต็ด

อิบราฮิโมวิช ฝากผลงานสุดประทับใจกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในปีแรกของเขากับพลพรรค “ปีศาจแดง” เมื่อฤดูกาล 2016–17 หลังย้ายมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แบบไม่มีค่าตัว เมื่อซูเปอร์สตาร์ชาวสวีดิชสามารถกระทุ้ง 28 ประตูจากการลงสนาม 46 นัดในทุกรายการ พร้อมพา “ยูไนเต็ด” ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีม โชเซ่ มูรินโญ่ เก็บแชมป์ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์, อีเอฟแอล คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

และตอนนี้ในยามที่ “เร้ด เดวิลส์” ไม่มีศูนย์หน้าตัวเป้าธรรมชาติไว้ปักหลักค้ำแดนหน้า และทำหน้าที่จบสกอร์ หลังขาย โรเมลู ลูกากู ออกไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อซัมเมอร์ปี 2019 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์มองพิจารณารับ อิบรา กลับมาล่าตาข่ายในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้งในตลาดซื้อ-ขายนักเตะฤดูหนาว 2020 ที่กำลังจะถึงนี้

แม้ว่า ซลาตัน อาจไม่ใช่กองหน้าตรงตามสเปกที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมองหาในการเสริมทัพแนวรุก เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมต้นปีหน้าเปิดขึ้น รวมทั้ง โซลชา อาจอยากเปิดโอกาสให้กับดาวรุ่งก่อนมากกว่า แต่ถ้าหากทีมของโค้ชชาวนอร์เวย์ยังฟอร์มแกว่งเอาแน่นอนไม่ได้ต่อไปจนจบครึ่งซีซั่นแรกของฤดูกาล 2019-20 นี้ ออปชั่นการรีเทิร์นของดาวยิงวัย 38 ปีกลับมายังโรงละครแห่งความฝันยังพอมีความเป็นไปได้

พบกับบทความ วิเคราะห์บอล – วิเคราะห์ฟุตบอล – วิเคราะห์บอลวันนี้ ได้ก่อนใครได้ที่ 168kick.com

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top