วิเคราะห์ก่อนเกม ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 13 คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันเสาร์ ในนัดนี้เป็นการพบกันระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตื้ ทีมแชมป์เก่า เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มร้อนแรง โดยจะลงสนามฟาดแข้งกันในคืนวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น. หรือเช้าวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย ที่สนาม เอติฮัด สเตเดียม เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตื้ ทีมแชมป์เก่า เพิ่งแพ้เกมสำคัญกับทีมจ่าฝูงอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเกมเยือนมา 1-3 ทำให้หล่นมาอยู่อันดับ 4 แข่ง 12 นัด ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 3 มี 25 คะแนน ห่างจากทีมนำเป็น 9 แต้มเข้าไปแล้ว ด้านนักเตะในทีมจะยังขาด เลรอย ซาเน่, อายเมริค ลาป๊อร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ที่ยังไม่หายเจ็บ รวมถึงผู้รักษาประตูมือ 1 เอแดร์ซอน ที่เจ็บในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อตาลันต้า จนพลาดในเกมล่าสุดไป และอาจจะต้องใช้บริการของ เคลาดิโอ บราโว่ อีกนัดหากผู้รักษาประตูชาวบราซิลเลี่ยนหายเจ็บไม่ทัน และมีผู้เล่นติดโทษแบน 1 คนคือ แบร์นาร์โด้ ซิลวา จากเหตุการณ์โพสแซว เบนฌาแม็ง เมนดี้ เพื่อนร่วมสโมสร
ทีมเยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง โดยหลังจากเกมที่แพ้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในบ้านตัวเอง 1-2 ก็สามารถเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีกได้ 6 เกมติดเข้าไปแล้ว โดยเกมล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะ ปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ 2-0 ผลงานลงเล่นในลีก 12 นัด ชนะ 8 เสมอ 2 แพ้ 2 มี 26 คะแนน อยู่ในอันดับ 3 ของตาราง มีแต้มเท่ากับรองจ่าฝูง “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ลูกได้เสียน้อยกว่า ด้านผู้เล่นในทีมจะขาด อันโตนิโอ รูดิเกอร์, รอสส์ บาร์คลี่ย์, มาร์โก ฟาน กิงเคล และ เปโดร แต่จะได้ จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์คนสำคัญพ้นโทษแบน กลับมาช่วยทีมได้แล้ว
ในเกมนี้ยังไงทางเรือใบสีฟ้าเป็นต่ออยู่แล้ว แต่ทางด้านสิงโตน้ำเงินครามเองกำลังอยุ่ในช่วงฟอร์มแรง สามารถชนะได้ทุกทีมเหมือนกัน การขาดหายไปของผู้เล่นสำคัญในทีมแมนซิตี้ เริ่มส่งผลออกมาแล้วโดยเฉพาะในเกมกับลิเวอร์พูล ที่ต้องส่งอิลคาย กุนโดกันยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับคู่กับโรดรี้ ทำให้กองกลางของทีมที่เคยเป็นจุดแข็งที่สุด พ่ายต่อแดนกลางของลิเวอร์พูลแบบชัดเจน ถ้าเกมนี้ได้ดาบิด ซิลบาคืนทีม จะทำให้ความสมดุลของแดนกลางกลับคืนมา ส่วนเชลซีถือว่าในนัดนี้แดนกลางมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น หลังจากที่เกมล่าสุดเอ็นโกโล่ ก็องเต้กลับมาเล่นเป็นตัวจริงได้นัดแรกในรอบเดือน รวมถึงได้จอร์จินโญ่กลับมาจากโทษ แบน ด้านแนวรุกไม่ต้องห่วง หลังปีกซ้ายขวาสลับกันทำผลงานได้ดีกันทุกคน ดังนั้นที่น่าห่วงมีแค่แดนหลังที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะหยุดแนวรุกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก ณ เวลานี้ไหวรึเปล่า หากกองหลังของเชลซีไม่สร้างข้อผิดพลาด อาจมีลุ้นแบ่งแต้มออกมาจากเอติฮัด สเตเดียม รวมถึงหวังถึงชัยชนะได้เลย
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงเล่น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : เคลาดิโอ บราโว่ (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฟร์นันดินโญ่, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา – ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ กุน อเกวโร, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
เชลซี (4-3-2-1) : เคป้า อาร์รีซาบาลาก้า (GK) – เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เคิร์ต ซูม่า, ฟิคาโย่ โทโมรี่, เอเมอร์สัน – จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช – วิลเลี่ยน, เมสัน เมาน์ท – แทมมี่ อับราฮัม
ผลที่คาด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 – 2 เชลซี
พบกับบทความ วิเคราะห์บอล – วิเคราะห์ฟุตบอล – วิเคราะห์บอลวันนี้ ได้ก่อนใครได้ที่ 168kick.com