Home คลิปฟุตบอล 10 แชมป์ล่าสุดของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

10 แชมป์ล่าสุดของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

10 แชมป์ล่าสุดของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

เรียกได้ว่ายากเย็นซะเหลือเกิน กับการคว้าแชมป์แต่ละครั้งของลิเวอร์พูล เพราะขนาดนำในลีกถึง 25 แต้มในขณะที่เหลือไม่ถึง 10 นัด แต่จากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน ยังทำให้แชมป์พรีเมียร์ลีกที่ทางหงส์แดงรอคอยยังลูกผีลูกคน และนี่คือ 10 แชมป์ล่าสุดที่ทางยอดทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์คว้ามาครองได้

  1. UEFA Super Cup 2001
    ทางลิเวอร์พูลไปแข่งในฐานะแชมป์ยูฟ่าคัพ ปี 2001 โดยเอาชนะ “เสือใต้บาเยิร์น มิวนิค ไป 3-2 ซึ่งมีแอบเสียวในช่วงท้าย เพราะแม้ขึ้นนำไปก่อน 3-0 แต่ก็เจอไล่มา 3-2 ในช่วงท้าย ยังดีที่ประคองตัวจบไปได้แบบสวัสดิภาพ คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ได้แบบใจหายใจคว่ำ
ลิเวอร์พูล เกือบเอาตัวไม่รอดในการพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ถึงแม้จะออกนำไปก่อนถึง 3-0 ในรายการยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ปี 2001

  1. League Cup 2003
    หรือที่แฟนบอลไทยเรียกติดปากกันในช่วงนั้นว่า มิกกี้เม้าส์ คัพ โดยในรอบชิงปีนั้น ทางหงส์แดง เอาชนะคู่รักคู่แค้นอย่าง “ปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ 2-0 จากประตูของ 2 ลูกหม้อในทีม ที่คนนึงกลายมาเป็นตำนานของสโมสร อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ส่วนอีกคนกลายเป็นตำนานสโต๊ค อย่าง ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งเป็นแชมป์รายการสุดท้ายของลิเวอร์พูลกับ เชราร์ อุลลิเย่ร์ อีกด้วย
1 ตำนานสโต๊ค อย่างไมเคิ่ล โอเว่น (ซ้าย) ชูถ้วยร่วมกับตำนานลิเวอร์พูลอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด หลังทำคนละประตู ในฟุตบอลลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ ปี 2003

  1. UEFA Champions League 2005
    ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่อยู่ในใจเดอะค็อปตลอดมา เพราะสร้างตำนานเทพนิยาย หรือที่เรียกกันติดปากว่าปาฏิหารย์ที่อิสบูล โดยในรอบชิงโดน “ปีศาจแดงดำเอซี มิลาน นำไปก่อนในครึ่งแรก 3-0 แต่ครึ่งหลังโชว์สปิริตอันแรงกล้า ไล่ตามตีเสมอเป็น 3-3 ก่อนที่จะพลิกเอาชนะคว้าแชมป์ไปได้แบบเหลือเชื่อในช่วงดวลจุดโทษ คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 มาครองได้แบบช็อคไปตามๆกัน หากจำกันได้ในฤดูกาลนั้นมีอีกเกมที่น่าจดจำไม่แพ้กัน นั่นคือนัดที่เปิดบ้านเอาชนะโอลิมเปียกอสในช่วงท้ายเกมไป 3-1 จากลูกยิงไกลผีจับยัดของกัปตันทีมอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด
ลิเวอร์พูลในค่ำคืนที่เหล่าเดอะ ค็อป ไม่มีวันลืม หลังพลิกแซงเอาชนะ เอซี มิลาน ได้ในช่วงดวลจุดโทษชี้ขาด หลังเสมอในเวลา 3-3 ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2005 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของราฟาเอล เบนิเตซ กับลิเวอร์พูล ในฤดูกาลแรกที่เอล ราฟา เข้าคุมทัพหงส์แดง

  1. UEFA Super Cup 2005
    หลังจากได้แชมป์ยูซีแอลมาในฤดุกาลที่แล้ว ในเกมยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ปีนี้ก็มาในฐานะแชมป์ถ้วยใหญ่บ้าง โดยเอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก จากรัสเซีย ถึงมาในฐานะแชมป์ยูฟ่าคัพ ไป 3-1 ซึ่งเอาจริงๆเกมนั้นเกือบตาย แต่มาตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมจาก ณิบริล ซิสเซ่ ก่อนที่จะแซงเอาชนะได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษจากประตูของ ณิบริล ซิสเซ่ กับ หลุยส์ การ์เซีย
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ได้อีกหนในปี 2005 หลังเอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก 3-1 โดยเกมนั้นทาง เจมี่ คาร์ราเกอร์ รับบทกัปตัน หลังสตีเว่น เจอร์ราร์ดพลาดลงช่วยทีมในเกมนั้น

  1. FA Cup 2006
    ลิเวอร์พูลต่อยอดความสำเร็จในฤดูกาลที่แล้วได้อย่างยอดเยี่ยม โดยในรอบชิงเอาชนะ “ขุนค้อนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในการดวลลูกโทษที่จุดโทษ หลังจากเสมอกันในเวลามา 3-3 ซึ่งได้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิงตามตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปลุกหงส์แดงฟื้นจากนรกกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิงไกลผีจับยัดในช่วงท้ายเกมถึงสองครั้งสองครา พาลิเวอร์พูลเข้าไปดวลจุดโทษชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพมาครองได้สำเร็จครั้งแรกในรอบ 5 ปี

  1. FA Community Shield 2006
    ในครั้งนี้ก็มาในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ เช่นเคย แต่ต้องมาเจอกับ “สิงโตน้ำเงินครามเชลซี ในยุคที่เรียกได้ว่าเป็นโคตรทีมอย่างแท้จริง ซึ่งในเกมนั้นทางลิเวอร์พูลหักปากกาเซียน พลิกเอาชนะไปได้ 2-1 จากประตูของ ยอห์น อาร์เน รีเซ่ และ ปีเตอร์ เคร้าช์ คว้าแชมป์ที่ 4 ในรอบ 2 ปี และเป็นแชมป์ถ้วยสุดท้ายภายใต้กุนซืออย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ อีกด้วย
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปี 2006 หลังเอาชนะทีมสุดแกร่งอย่างเชลซี 2-1 ซึ่งเป็นแชมป์รายการสุดท้ายภายใต้การคุมทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ

  1. League Cup 2012
    ก่อนที่จะมาได้แชมป์อีกครั้งในปี 2012 ด้วยฝีมือของคิง เคนนี่ ในรายการลีก คัพ โดยรอบชิงชนะเลิศ ดวลจุดโทษเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพในขณะนั้น ซึ่งเสมอกันในเวลา 90 นาที 1-1 ก่อนที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษจะยิงได้ฝั่งละ 1 ประตู ในการดวลจุดโทษ 2 ลูกพี่ลูกน้องตระกูล เจอร์ราร์ด ยิงไม่เข้าด้วยกันทั้งคู่ โดยทาง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ประเดิมเป็นคนแรกของทางลิเวอร์พูล ส่วนแอนโทนี เจอร์ราร์ด ยิงปิดท้ายออกข้างไปแบบหมดลุ้น ทำให้หงส์แดงคว้าแชมป์แรกในรอบ 6 ปี
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีก คัพ 2012 หลังดวลจุดโทษเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งเป็นแชมป์สุดท้ายของสองตำนานอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เจมี่ คาร์ราเกอร์

  1. UEFA Champions League 2019
    หลังจากนั้นทางลิเวอร์พูลก็ว่างเว้นการคว้าถ้วยรางวัลถึง 6 ปีเต็มๆ ก่อนที่ฤดูกาลก่อนจะยกระดับทีมตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ จนสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งที่ 6 ของสโมสรได้อย่างยิ่งใหญ่ โดยในรอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ “ไก่เดือยทองท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 จากประตูนำตั้งแต่ไก่โห่จาก โม ซาลาห์ ก่อนที่จะอัญเชิญมหาเทพ โอริกี้ ลงมาปิดเกมในช่วงท้าย ทำให้เหล่าเดอะ ค็อป หยุดการรอคอยถ้วยรางวัลมาอย่างยาวนานลงได้ ซึ่งน่าจะเป็นนัดชิงเกมแรกที่ไม่ต้องลุ้นจนใจหายใจคว่ำในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ในฤดูกาลนั้น เกมที่น่าจดจำที่สุด คงหนีไม่พ้นเกมที่เปิดบ้านพลิกนรก เอาชนะบาร์เซโลน่าได้ 4-0 เข้ารอบได้ผลรวม 4-3
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พิสูจน์ตัวเอง ด้วยการเป็นกัปตันทีม พาหงส์แดงกลับมาคว้าแชมป์แรกในรอบ 6 ปี และเป็นการประเดิมแชมป์ของกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ด้วยถ้วยใบใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เรียกได้ว่าเป็นการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของทาง ลิเวอร์พูล

  1. UEFA Super Cup 2019
    ดังนั้นในช่วงเปิดฤดูกาลที่ผ่านมา จึงได้กลับไปเตะรายการยูฟ่า ซูเปอร์คัพ อีกครั้ง ครั้งนี้ต้องมาเจอกับเพื่อนร่วมลีกอย่าง เชลซี ที่มาในฐานะแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก โดยใน 90 นาทีเสมอกัน 1-1 จากประตูของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วนในช่วงต่อเวลาลิเวอร์พูลได้ มาเน่ คนเดิมมายิงแซงนำ แต่ก็โดน จอร์จินโญ่ ยิงตีเสมอจากลูกโทษ ทำให้ต้องดวลกันถึงฎีกา และเป็นทาง อาเดรียน ผู้รักษาประตูที่หงส์แดงเพิ่งเซ็นมาหมาดๆ กลายเป็นฮีโร่เซฟลูกยิงของ แทมมี่ อับราฮัม ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไปแบบสะใจ เพราะมีประเด็นเรื่องลูกจุดโทษในเวลาก่อนหน้า แทมมี่ อัมบราฮัม เหมือนจะพุ่งล้มใส่ อาเดรียน มาหมาดๆ
อาเดรียน กับสัปดาห์มหัศจรรย์ จากผู้เล่นไร้สังกัด สู่ฮีโร่ พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2019 โดยเอาชนะเชลซีได้ในช่วงยิงจุดโทษตัดสิน หลังเสมอในเวลา 120 นาที 2-2

  1. FIFA Club World Cup 2019
    ส่วนแชมป์ล่าสุดเป็นรายการฟีฟ่า คลับ เวิร์ล คัพ ที่ทางลิเวอร์พูลเพิ่งคว้ามาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ต้องเดินทางไปเตะกันถึงกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยในรอบชิงนั้นเอาชนะ ฟลาเมงโก้ จากบราซิล ที่มาในฐานะแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ไป 1-0 จากประตูชัยของ โรแบร์โต้ ฟิมีร์โน่ ในช่วงต่อพิเศษ พาหงส์แดงคว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิร์ล คัพ เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ลิเวอร์พูล ยังคงเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จไม่หยุดย่อน ในรายการ ฟีฟ่า คลับ เวิร์ล คัพ 2019 โดยเอาชนะ ฟลาเมงโก้ จากอเมริกาใต้ในช่วงต่อเวลา 1-0

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้