ประธาน “เบรสชา” ลั่นไม่ขาย “โตนาลี่” ต่อให้ได้ 250 ล้านปอนด์

เดลี่เมล์ สื่อชื่อดังจากประเทศอังกฤษ รายงานว่า มัสซิโม่ เซลลิโนj ไม่สนใจที่จะขาย ซานโดร โตนาลี่ กองกลางเนื้อหอมทีมชาติอิตาลีตัวเก่งออกจากทีม แม้ว่าจะได้ข้อเสนอมหาศาลระดับ 250 ล้านปอนด์ก็ตาม ท่ามกลางข่าวลือว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจับตามองมิดฟิลด์รายนี้อยู่อย่างตาเป็นมันก็ตาม

มัสซิโม เซลลิโน่ ประธานสโมสร เบรสชา

โตนาลี่ ให้สัมภาษณ์กับ ไรสปอร์ต สื่อในอิตาลีว่า “ผมไม่ได้รู้สึกกลัวกับคำพูดของประธานสโมสรเกี่ยวกับเรื่องค่าตัวราวมหาศาลที่เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่จะทุ่มเพื่อซื้อตัวผม แล้ว เซลลิโน่ จะเมินเฉยใส่ข้อเสนอดังกล่าว ผมรักและเคารพประธานสโมสร รวมถึงพร้อมที่จะร่วมหัวจมท้ายกับ เบรสชา เพราะว่า เซลลิโน่ เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ หลังจากเกมกับ ฟิออเรนติน่า จบลงเขาเข้ามาคุยกับผมว่า ต่อให้เขาได้เงินมากถึง 300 ล้านปอนด์ก็จะไม่มีทางที่จะขายผมออกไป ตอนนี้ผมมั่นใจกับผลงานของทีมในซีซั่นนี้ และคิดถึงแต่เรื่องที่จะช่วยให้ทีมรอดตกชั้นเท่านั้น และไม่ได้คิดถึงเรื่องตลาดซื้อขายนักเตะเลยในหัวเลยแม้แต่น้อย”

ซานโดร โตนาลี่ ถูกนำการเล่นไปเปรียบเทียบกับตำนานทีมชาติอิตาลีอย่าง อันเดรีย ปิร์โล่

โตนาลี่ เพิ่งจะได้ลงสนามเป็นตัวสำรองในนามทีมชาติอิตาลี ขณะที่ทีมออกนำ ลิกเตนสไตน์ 5-0 ในศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา และดาวเตะรายนี้กำลังตั้งตารอที่จะเป็นตัวเลือกลงสนามในเกมกับ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวีนา มีหลายคนนำสไตล์การเล่นของเขาที่เด่นในเรื่องการตัดบอลอย่างมีคลาสไปเทียบกับ อันเดรีย ปิร์โล่ และ เจนนาโร กัตตูโซ่ โดยมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 19 ปี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “การที่ผมถูกนำเอาไปเทียบกับ ปิร์โล่ นั้นไม่ได้ทำให้ผลกังวลใจแต่อย่างใด แต่ผมคิดว่าพวกเราเล่นแตกต่างกันมากนะ ปิร์โล่ นั้นมีเทคนิคและคุณภาพการเล่นที่น่าเหลือเชื่อที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ สำหรับตัวผมเองน่าจะคล้าย กัตตูโซ่ แต่เล่นในแบบที่มีเทคนิคมากกว่า เขาเปรียบเสมือนต้นแบบในการเล่นของผม”

มัสซิโม เซลลิโน่ อดีตประธานสโมสร ลีดส์ ยูไนเต็ด

เมื่อเดือนก่อน เซลลิโน่ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเจ้าดังในอิตาลีอย่าง “ลา กัซเซตตา เดลโล สปอร์ต” ว่า เอเยนต์ และพ่อแม่ของเขา บอกว่า โตนาลี่ มีค่า 50 ล้านยูโร แต่ผมตอบไปว่า สำหรับผมเขามีค่า 300 ล้านยูโร นั่นแปลว่าผมไม่อยากขายเขาออกไปยังไงล่ะ…ผมมีความฝันที่จะทุ่มเงินก้อนโต เพื่อต่อสัญญากับเขา แต่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวนักเตะเองนั่นแหละว่า อยากจะอยู่เล่นแบบมีความสุขที่นี่ต่อไป หรือเสี่ยงย้ายไปทีมยักษ์ใหญ่ที่อาจจะโดนจับไว้ที่ม้านั่งสำรอง”

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top