เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสก็อตแลนด์ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อธิบายถึงเป้าหมายในฤดูกาลนี้ของพลพรรค “ขุนค้อน” รวมทั้งแผนการระยะยาวที่สโมสรว่าจะเดินหน้าไปในทิศทางใด
อดีตโค้ช เอฟเวอร์ตัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามากุมบังเหียน เวสต์แฮม เมื่อเดือนธันวาคมปี 2019 หลังจากที่ก่อนหน้าเขาเคยคุม “ขุนค้อน” มาแล้วหนหนึ่งในระหว่างปลายปี 2017 ถึงกลางปี 2018 และตอนนี้เขาก็พาทีมรั้งอันดับ 6 ในตารางคะแนนมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า
เป้าหมายที่วางไว้
มอยส์ เริ่มกล่าวว่า “เราได้ตรวจสอบเป้าหมายที่เราตั้งไว้เมื่อตอนเริ่มต้นฤดูกาลเกี่ยวกับจุดที่เราคิดว่า เราจะไปถึงได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ เราคิดว่าสามารถทำได้ และตอนนี้เรามีทีมที่แตกต่างจากเดิมมาก”
ในฤดูกาลที่แล้ว เวสต์แฮม ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนักก่อนจะจบด้วยอันดับ 16 ในตารางคะแนน แต่ในปีนี้พวกเขาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการเก็บไปแล้ว 39 แต้ม ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับ มอยส์ ที่ปลดล็อกศักยภาพลูกทีมได้
อดีตนายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าผู้เล่นของเรายังไม่ตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ ผมคิดว่า พวกเขายังมีอะไรอีกมากมายที่สามารถแสดงออกมา และด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่เราทำผลงานได้ดีขึ้นอีกครั้ง”
“เราจำเป็นต้องรักษาฟอร์มที่ดีต่อไป และพยายามไม่ให้นักเตะบาดเจ็บ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถขัดขวางความก้าวหน้าของทีม หรือทำให้คุณหลุดฟอร์มได้ และถ้าเราผ่านพ้นจุดนั้นมาได้ ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่ดีจริงๆที่จะไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม”
“โดยปกติ ถ้าพวกคุณบอกให้ทีมของผมจบครึ่งบนของลีกก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ ผมคิดว่า เราทุกคนจะจับมือคุณแล้วพูดว่า ขอบคุณมาก แต่ตอนนี้ เราแค่ต้องดูว่าเ อันดับของเราจะไปจบที่ไหน”
ในฤดูกาลนี้ นอกเหนือจากการพ่ายให้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในนัดเปิดสนามจนถึง ณ เวลานี้ เวสต์แฮม แพ้ไปเพียง 5 เกมเท่านั้น ซึ่งบรรดาสโมสรที่เอาชนะพวกเขาได้ล้วนเป็นทีมใหญ่อาทิ ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ดและ เชลซี นั่นแสดงให้เห็นว่า มอยส์ พาทีมพัฒนาขึ้นมาก
ขุมกำลังที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน การเข้ามาของ เจสซี่ ลินการ์ด ปีกชาวอังกฤษที่ยืมตัวมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด และโชว์ฟอร์มสุดหรูในเกมประเดิมสนามด้วยการซัดไป 2 ลูก ช่วยให้ เวสต์แฮม บุกไปอัด แอสตัน วิลล่า ถึงบ้าน 3-1 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ทำให้ มอยส์ มีอาวุธเด็ดในเกมรุกมากยิ่งขึ้น
ลินการ์ด เข้ามาเล่นร่วมกับบรรดาแนวรุก เวสต์แฮม อย่าง มิคาอิล อันโตนิโอ, ซาอิด เบนราห์ม่า และ โทมัส ซูเช็ค ได้อย่างเข้าขาลงตัว และ มอยส์ ก็มีความสุขอย่างมากที่ยืมตัวอดีตลูกน้องเก่าสมัยคุม “ปีศาจแดง” มาเสริมทัพได้สำเร็จ
มอยส์ กล่าวถึง ลินการ์ด ว่า “เขาเชื่อมเกมกับผู้เล่นคนอื่นๆได้อย่างยอดเยี่ยม เขาควบคุมบอลได้ดีมาก เขาทำให้เรามีความมั่นใจในการครองบอลมากขึ้น ผมคิดว่า เขาช่วยให้ผู้เล่นหลายคนรอบตัวเขาพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกัน นักเตะคนอื่นของเราสามารถหาเขาได้อยู่ตลอดเวลา”
“เขาหาจังหวะยิงให้ตัวเองได้ 2-3 หน และผมคิดว่า ถ้าเราสามารถพาเขาไปอยู่ในตำแหน่งที่ดี เขาจะสามารถทำประตูให้เราได้มากกว่านี้”
ขณะเดียวกัน เวสต์แฮม ยังกลายเป็นทีมที่มีทีเด็ดจากลูกเซตพีซไปแล้วหลังทำประตูได้ถึง 12 ลูก และเสียประตูจากลูกตั้งเตะไปเพียง 2 ลูกเท่านั้น โดย มอยส์ อธิบายว่า “เราต้องการให้แน่ใจเสมอว่าเรามีความสามารถในการป้องกันลูกเซ็ตพีซ”
“เพราะถ้าคุณไม่ทำแบบนั้น คุณจะตกที่นั่งลำบาก แต่มันไม่ใช่เหตุผลในการเซ็นสัญญากับ โทมัส ซูเช็ค เพราะเหตุผลในการเซ็นสัญญากับเขาคือ เขาสามารถทำประตูได้ และเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลางที่ดี และความสูงของเขาด็ช่วยเราได้ด้วย”
“แต่เราก็มีผู้เล่นตัวเล็กที่มีความสามารถเช่นกัน และเราต้องการให้พวกเขาเป็นคนสร้างสรรค์เกม ผมรู้สึกว่า เจสซี่ ลินการ์ด จะมอบสิ่งพิเศษให้กับเราได้ และเรายังคว้าตัว ซาอิด กับ จาร์ร็อด โบเว่น เข้ามา และมีนักเตะอย่าง ปาโบล ฟอร์นัลส์ และ มานูเอล ลันซินี่ อยู่แล้ว พวกเขาทั้งหมดทำงานได้ดีมาก”
“ผมรู้สึกว่าเราจำเป็นต้องเพิ่มคุณภาพในทีมไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องการสิ่งที่แตกต่าง ผมก็สามารถใช้งานพวกเขาได้”
ความยืดหยุ่น
นอกจากนี้ สิ่งที่ เวสต์แฮม แตกต่างไปจากฤดูกาลที่แล้วอย่างชัดเจนคือ แท็คติคที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น มอยส์ สามารถให้ลูกทีมเล่นในระบบกองหลัง 4 คน หรือ 3 คนได้ตามความเหมาะสมในแต่ละเกม และนี่คือข้อพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นว่า “ขุนค้อน” พัฒนาขึ้น
มอยส์ กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่า เราอยู่ในขั้นตอนที่เราสามารถพูดได้ว่า นี่คือทีมที่สมบูรณ์แบบตามที่ผมต้องการ เรายังคงอยู่ระหว่างการเดินทางที่จะต้องเล่นกับทีมที่ดีจริงๆ และพยายามรับมือกับจุดแข็งพวกเขา แต่ความยืดหยุ่นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยม ตอนเริ่มฤดูกาลเราอาจเล่นกองหลัง 4 คน และบางทีเราอาจใช้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คนก็ได้ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์”
“ผมคิดว่าในพรีเมียร์ลีกโดยทั่วไปทุกทีมมีความยืดหยุ่นมากกว่า สำหรับผมเราเปิดกาสให้นักเตะเล่นในตำแหน่งที่เหมาะสมกับพวกเขา และช่วยเหลือพวกเขาในรายละเอียดต่างๆ และพวกเขาก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการจากทีมของคุณเพื่อให้รู้ว่า คุณมีผู้เล่นที่สามารถเข้ามา และทำงานที่แตกต่างกันได้”
แผนการสร้างทีม
ขณะเดียวกัน มอยส์ ยังพูดถึงความทะเยอทะยานของตัวเองในการสร้าง “นิว เวสต์แฮม” ขณะที่สัญญาของเขาจะหมดลงในซัมเมอร์นี้ แต่จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของ “เดอะ แฮมเมอร์ส” ในครึ่งฤดูกาลแรกมันก็ทำให้หลายฝ่ายในสโมสรมองไปถึงอนาคตร่วมกัน
“ช่วงแรกที่ผมอยู่กับ เวสต์แฮม มันคือการคิดเพียงแต่แผนงานระยะสั้น ในเดือนมกราคมปีที่แล้วเรานำนักเตะอย่าง ซูเช็ค กับ โบเว่น เข้ามา และพวกเขาสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับผู้เล่นภายในทีมคนอื่นๆ และสโมสร”
“ผมคิดว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างสำหรับงานระยะสั้นของผู้จัดการทีมทุกคน และทุกช่วงเวลา มันขึ้นอยู่กับว่างานของคุณอยู่ที่ไหน เราเพิ่งได้หลุดพ้นจากวิกฤต เราอยู่ในตำแหน่ที่ดีกว่าเดิม และผมจะไม่พูดถึงการหนีตกชั้น”
“แต่ด้วยความคาดหวังอีกอย่างหนึ่งว่า คุณจะไปได้สูงแค่ไหน คุณจะทำอะไรได้บ้าง เรากำลังอยู่ในจุดที่แตกต่างออกไป เพราะเราต้องการที่จะท้าทายเด็ก ๆ ในการทำให้เรากลายเป็นทีมชั้นนำ แต่เราต้องตระหนักเสมอว่า เราได้ทำก้าวที่ยิ่งใหญ่มาแล้วในหนึ่งปีที่ผ่านมา”
“ถ้าผมสามารถก้าวไปสู่ระดับที่ใกล้เคียงกันได้ในปีหน้า มันคงเรื่องเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะตอนนี้เป้าหมายหลักคือ เราต้องการจะปรับปรุงบางสิ่งเล็กน้อยเพื่อไล่ตามทีมใหญ่ มันยากมากที่คุณจะก้าวกระโดดไปยืนกับพวกเขาในทันที” มอยส์ กล่าว
ขั้นตอนต่อไป
มอยส์ อธิบายเส้นทางสู่การเป็น “นิว เวสต์แฮม” คืออะไร? โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งแรกคือ การสร้างทีมต่อไป เราหวังว่า จะมีการเสริมทัพอีกครั้งในช่วงฤดูร้อนเพื่อพยายามก้าวขึ้นไปอีกขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องรักษาความสม่ำเสมอต่อไป และพยายามเป็นทีมที่มั่นคง ซึ่งมันจะแสดงออกจากวิธีที่เราเล่น”
“เราจะเล่นได้ไม่ดีเสมอไปหรอก แต่เราต้องการที่จะพยายามต่อยอดในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ซึ่งความคิดของผมคือ เลือกผู้เล่น 1-2 คนที่พร้อมจะก้าวไปกับเรา และดูว่าเราสามารถปรับปรุงทีมต่อไปได้อีกหรือไม่”