สำหรับแฟนๆของเกมจำลองสถานการณ์การเป็นผู้จัดการทีมในตำนานอย่าง “Football manager” หรือที่เรียกย่อๆว่า FM นั้น ชื่อของอดีตสุดยอดวันเดอร์คิดในเกมอย่าง ยาน่า ซาโนโก้ หัวหอกชาวฝรั่งเศสของ โอแซร์ ทีมดังแห่งลีกเอิงที่แจ้งเกิดเมื่อปี 2009 ต้องเป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน

ในเวลานั้น ซาโนโก้ โด่งดังอย่างมากทั้งในเกม และในชีวิตจริง ซึ่งพรสวรรค์ของเจ้าตัวทำให้ได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ก่อนจะกลายเป็น อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทัพของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยอดกุนซือชาวฝรั่งเศสที่ได้ลายเซ็นเขาไปครอบครองเมื่อปี 2013

อย่างไรก็ตาม อดีตกองหน้า โอแซร์ ต้องเจอเส้นทางอาชีพที่ยากลำบากแบบไม่น่าเชื่อ หลังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนจนแทบไม่ได้โอกาสลงสนามให้กับ อาร์เซน่อล มากนัก และต้องถูกปล่อยไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับหลายสโมสร

ซานาโก้ เคยตกต่ำสุดๆถึงขนาดไร้สังกัดนานหลายเดือน โดยปัจจุบันในวัย 28 ปี เขากำลังพลิกฟื้นเส้นทางอาชีพของตัวเองอีกครั้งกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ สโมสรในศึกแชมป์เปี้ยนชิพ อังกฤษ ภายใต้การกุมบังเหียนของ การ์ลอส กอร์บาราน เทรนเนอร์ชาวสแปนิช

ช่วงเวลากับ “ไอ้ปืนใหญ่”

มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ เวนเกอร์ ที่จะคอยมองหาดาวรุ่งมากพรสวรรค์จากฝรั่งเศสบ้านเกิด และพามาเล่นกับ อาร์เซน่อล ซึ่ง ซานาโก้ ก็คือ หนึ่งในแข้งอนาคตไกลที่ เวนเกอร์ เลือกคว้าตัวมายังถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวัยเพียง 20 ปี

เวนเกอร์ เคยกล่าวถึง ซานาโก้ ว่า “ซานาโก้ เป็นผู้เล่นอายุน้อยฝีเท้าดีที่เราได้ตัวมาร่วมทีม เขาแสดงให้เห็นแล้วว่า มีศักยภาพมากๆ โดยเฉพาะผลงานกับ โอแซร์ และการเล่นกับทีมชาติฝรั่งเศสรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เรารอคอยที่จะได้ร่วมงานกับเขา และพัฒนาเขาในอนาคต”

ซานาโก้ เป็นกองหน้าที่รูปร่างดีโดยมีความสูงถึง 6 ฟุต 3 นิ้ว แถมยังมีสถิติการถล่มประตูที่ยอดเยี่ยมกับ โอแซร์ ด้วยการซัดไปถึง 11 ประตู จาก 24 เกมรวมทุกรายการ และยิงให้กับทีมชาติฝรั่งเศสชุดยู 20 ไปถึง 5 ลูก จาก 8 เกม แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จกับ อาร์เซน่อล

นักข่าวรายหนึ่งที่เคยติดตาม ซาโนโก อธิบายว่า “ที่ อาร์เซน่อล มีความคาดหวังสูงมากในตัว ซาโนโก้ เขาคือผู้เล่นอายุน้อยที่มีพรสวรรค์ และดูเหมือนจะเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่า เพราะเขาเคยได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล  Golden Boy ในปี 2013 และมีสภาพร่างกายที่เหมาะกับการเล่นในพรีเมียร์ลีก”

“เขาถูกเรียกตัวเข้าสู่ทีมชุดแรกทันที และได้ลงประเดิมสนามด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมที่ อาร์เซน่อล เอาชนะ ฟูแล่ม 3-1 แต่แล้วอาการบาดเจ็บก็เกิดขึ้น และมันเริ่มขัดขวางเขา และในท้ายที่สุดอาชีพของเขาที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็ค่อยๆเลือนราง เขาลงเล่นไปเพียง 20 เกมเท่านั้นตลอด 4 ปี”

“เขาได้เป็นตัวจริงในแมตช์ใหญ่บางเกมให้กับ อาร์เซน่อล ยกตัวอย่างในเกมที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ในเอฟเอ คัพ และไม่กี่วันต่อมาเขาก็เป็นตัวจริงในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุกท้ายกับ บาเยิร์น มิวนิค”

“ในปีต่อมาเขาได้เล่นไป 120 นาที ในเกมที่เอฟเอ คัพ รอบรองฯ ที่เอาชนะ วีแกน และลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงต่อเวลาพิเศษรอบชิงฯที่เอาชนะ ฮัลล์ 3-2 ที่สนามเวมบลีย์ ช่วยให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์แรกในรอบ 9 ปี”

“ในตอนนั้นเขายังไม่ได้ยิงประตูแรกให้กับ อาร์เซน่อล เลย แต่ก็ใช้เวลาไม่นานก่อนจะยิง 4 ประตูในเกมเกมกระชับมิตรปรีซีซั่นกับ เบนฟิก้า จากนั้น ก็ได้เป็นตัวจริงในเกมคอมมิวนิตี้ชิลด์ปี 2014 ที่ อาร์เซน่อลเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0”

พเนจรไปเล่นด้วยสัญญายืมตัว

ในเดือนมกราคมปี 2015 เวนเกอร์ ตั้งใจปล่อย ซาโนโก้ ออกไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวเพื่อหาประสบการณ์ และโอกาสลงสนามกับ คริสตัล พาเลซ แต่ดูเหมือนว่า หัวหอกเฟรนช์แมนจะทำผลงานได้ไม่ตามเป้าหลังยิงไม่ได้เลยจาก 10 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก

นักข่าวที่ติดตาม พาเลซ ระบุว่า “มันค่อนข้างแปลก เขามาที่ พาเลซ เพราะไม่มีโอกาสกับ อาร์เซน่อล ทั้งๆที่ได้รับการยกย่องพอสมควร แต่เขาก็ไม่ได้รับโอกาสมากนักที่จะเล่นกับเราด้วยเช่นกัน เขายิงประตูได้ในเกมเอฟเอ คัพ ที่ไปเยือน เซาแธมป์ตัน จากนั้น เขาก็ยิงไม่ได้เลย”

“หลังจากนั้น เขาก็หลุดออกจากทีม และมีเวลาเพียงไม่กี่นาทีจากการลงมาเป็นตัวสำรอง และถ้าผมต้องสรุปเขาด้วยคำเดียวตอนที่เล่นกับ พาเลซ คือ “เงอะงะ” เขาเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย และท้ายที่สุดแล้วเขาอาจจะไม่ดีพอสำหรับพรีเมียร์ลีก”

ฤดูกาล 2015-2016 ซาโนโก้ มองหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมออีกครั้งด้วยการโยกไปเล่นกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในฮอลแลนด์ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปีโดยในช่วงแรกเจ้าตัวซัดแฮตทริคได้อย่างสุดยอดในเกมปรีซีซั่น แต่การลงสนามเป็นทางการ 6 เกมแรก เขากลับยิงให้กับ อาแจ็กซ์ ไม่ได้เลยจนได้รับฉายาว่า “Yaya Sonogoals”

หลังผ่านไปเพียงครึ่งซีซั่นกับ อาแจ็กซ์ ซาโนโก้ ต้องหวนกลับมายัง อาร์เซน่อล อีกครั้ง ก่อนจะถูกปล่อยตัวไปเล่นกับ ชาร์ลตัน แอธิเลติก ในแชมเปี้ยนชิพ ด้วยสัญญายืมตัว โดยซัดไป 3 ลูก จาก 8 เกม ซึ่ง 3 ประตูดังกล่าวมาจากการซัดแฮตทริคในเกมที่พ่าย เรดดิ้ง 3-4 และน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถช่วยให้ “ดาบอัศวิน” รอดตกชั้นสำเร็จ

กลับบ้านเกิดไปเล่นกับ ตูลูส

ในซัมเมอร์ปี 2017 หลังหมดสัญญากับ อาร์เซน่อล ซาโนโก้ ตัดสินใจกลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดกับ ตูลูส ด้วยสัญญา 3 ปี โดยตลอด 3 ปีกับทีมนั้น ดูเหมือนว่า ดาวยิงชาวฝรั่งเศส จะกลับมามีเส้นทางอาชีพที่สดใสอีกครั้งหลังซัดไป 16 ประตู จาก 72 เกม แต่แล้วเขาก็โชคร้ายอีกครั้งหลังโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน

กูรูลูกหนังแดนน้ำหอมรายหนึ่ง กล่าวว่า “ยาย่า ยังคงเป็นที่รู้จักในฝรั่งเศสในฐานะอดีตเยาวชนที่มีพรสวรรค์น่าตื่นเต้น แต่แน่นอนว่าเมื่อถึงเวลาที่เขากลับมาจากอังกฤษเราก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก เราแค่มีความหวังว่า ถ้าเขามีความฟิตพอจะลงเล่นสม่ำเสมอ และปรับตัวที่สโมสรได้ เขาอาจจะแสดงศักยภาพออกมา”

“แม้ไม่ได้เป็นกองหน้าที่น่ากลัวอย่างที่ ตูลูส หวังเอาไว้ แต่เขาก็ฝึกซ้อมอย่างหนัก และได้โอกาสลงสนามมากขึ้น และปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้ แต่เขามีปัญหาเรื่องการตัดสินใจหน้าปากประตู และเช่นเดียวกันกับที่เขาเคยเจอมาตลอดก็คือ อาการบาดเจ็บมันกลับมารบกวนเส้นทางของเขาอีกครั้ง”

“มีช่วงเวลาหนึ่งที่อยู่ในความคิดของผมคือ เขาทำประตูที่ยอดเยี่ยมในเกมกับ โมนาโก เมื่อฤดูกาล 2017/18 ซึ่งช่วยให้ ตูลูส ตีเสมอ 3-3 เขาหมุนตัวยิงผ่านผู้รักษาประตู นั่นเป็นเพียงแวบเดียวที่ผมได้เห็นความสามารถของเขา โชคร้ายที่เราไม่ได้เห็นเขาทำแบบนั้นมากพอ”

“ขณะเดียวกัน การที่ ตูลูส ตกชั้นไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มันทำให้ ยาย่า ต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ดังนั้น ม้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับใครก็ตามไม่ใช่แค่เขาที่จะโดดเด่นในสถานการณ์แบบนั้น แต่เขาก็ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ เพราะเขาเป็นนักเตะที่ซื่อสัตย์ ทำงานหนัก ชอบฝึกซ้อม และแสดงความเป็นมืออาชีพมาตลอด”

กอบกู้อาชีพกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์

เกือบหนึ่งฤดูกาลที่ไม่มีสโมสร อดีตศูนย์หน้า อาร์เซน่อล พาตัวเองกลับมาเล่นในเมืองผู้ดีอีกครั้งกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ หลังเซ็นสัญญาระยะสั้นเพียงจบซีซั่นนี้ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ ซาโนโก้ ต้องดิ้นรนพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

นักข่าวเมืองผู้ดีระบุว่า “ผมคิดว่าเขายังสามารถสร้างความประทับใจในแชมเปี้ยนชิพได้ แต่เขาต้องฟิต และทำงานอย่างหนัก เขาเคลื่อนที่ได้ดี และจบสกอร์ได้ แต่เขาก็มีปัญหาในการเล่นเกมรับ เขาได้ลงสนามเป็นตัวสำรองไป 2 เกมเพื่อเรียกความฟิต และทีมก็ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างหนัก แต่ผมหวังว่า เขาจะสร้างผลกระทบในไม่ช้า”

ซาโนโก้ ยังอายุเพียงแค่ 28 ปี และตอนนี้คงเป็นเรื่องสำหรับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่ได้เห็นกองหน้าที่ได้รับการยกย่องเมื่อ 10 ปีก่อน มาล่าตาข่ายในถิ่น จอห์น สมิธ สเตเดี้ยม ช่วงที่เหลือของฤดูกาลเพื่อช่วยให้พวกเขาอยู่รอด