รวม 10 นักเตะขายออกแพงสุดของสโมสร เบนฟิก้า

เบนฟิก้า เป็นสโมสรระดับท็อปของวงการฟุตบอลประเทศโปรตุเกส นอกจากความเก่งกาจในสนามแล้ว “เหยี่ยวลิสบอน” ยังเป็นแหล่งผลิตผู้เล่นส่งออกไปให้กับทีมชั้นนำทั่วยุโรปอีกด้วย รูเบน ดิอาส, อังเคล ดิ มาเรีย, ชูเอา เฟลิกซ์ และยาน โอบลัค เป็นตัวอย่างของนักเตะที่มาจากสโมสรแห่งนี้ โดยในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาพวกเขาทำเงินรายได้จากการขายผู้เล่นทะลุ 1 พันล้านยูโร การขายตัวผู้เล่นราคามหาศาลคนล่าสุดคือ ดาร์วิน นูเญซ กองหน้าชาวอุรุกวัย ที่ขายไปให้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา วันนี้ทาง 168kick จึงรวบรวมรายชื่อ 10 ผู้เล่นที่มีราคาขายแพงที่สุดของสโมสรแห่งนี้มาฝากเพื่อนๆ

อังเคล ดิ มาเรีย (Angel Di Maria)

  • ค่าตัว : 33 ล้านยุโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : เรอัล มาดริด
  • ปีที่ย้าย : 2010

ดิ มาเรีย เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งที่ประเทศบ้านเกิดอย่าง อาร์เจนติน่า กับสโมสร โรซาริโอ เซ็นทรัล แต่ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้แมวมองทั่วยุโรปจับตามองเป็นช่วง 3 ปีที่เล่นให้กับสโมสร “เหยียวลิสบอน” เมื่อปี 2007 ถึง 2010

หลังปีกซ้ายชาวอาเจนไตน์ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในโปรตุเกส โดยเฉพาะในฤดูกาล 2009-10 ที่ลงสนามช่วยทีมไปถึง 45 นัดรวมทุกรายการ ทำไป 10 ประตู พร้อมพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ พรีเมียร์ร่า ลีกา และ โปรตุกีส ลีกคัพ ได้สำเร็จ

นอกจากนี้ในปี 2010 เขายังเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดลุยทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งทัพฟ้าขาวผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย จึงไม่น่าแปลกใจที่ในเวลานั้น “ราชันชุดขาว” ยอดทีมแห่งแดนกระทิงดุจะให้ความสนใจ และทุ่มเงินดึง อังเคล ดิ มาเรีย เข้ามาร่วมทัพในที่สุด

เรนาโต้ ซานเชส (Renato Sanches)

  • ค่าตัว : 35 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : บาเยิร์น มิวนิค
  • ปีที่ย้าย : 2016

เรนาโต้ ซานเชส เป็นผลผลิดจากอคาเดมี่ของ เบนฟิก้า โดยเขาได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2015-16 แต่ว่าผลงานเพียง 1 ฤดูกาล ก็เพียงพอให้กองกลางอนาคตไกลรายนี้โดนทาบทามจากทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

ผลงานที่สร้างชื่อให้เขาเป็นอย่างมากคงหนีไม่พ้น ศึกยูโร 2016 ที่ดาวรุ่งรายนี้เล่นได้อย่างโดดเด่น จนพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยของทวีปยุโรปได้สำเร็จ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน ซานเชซ ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่น “โกลเด้น บอย” แห่งปี เวลานั้นมีหลายสโมสรต่างอยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม หนึ่งนั้นคือทีมดังจากเกาะอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมแห่งบุนเดสลีกา เยอรมัน

อย่างไรก็ตามการออกไปเล่นกับทีมระดับท็อปของยุโรปครั้งแรก เขากลับโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวหลักของทัพ “เสือใต้” ได้ ตลอด 3 ฤดูกาลที่อยู่กับทีมได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 35 นัด ยิงได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น

ปัจจุบัน เรนาโต้ ซานเชส เล่นอยู่ในลีกเอิง ฝรั่งเศสกับ ลีลล์ ผลงานของเขาค่อยๆยกระดับกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องมารอดูว่าในอนาคตอดีตกองกลางโกลเด้นบอยจะได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรระดับท็อปอีกครั้งหรือไม่

วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ (Victor Lindelof)

  • ค่าตัว : 35 ล้านยุโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  • ปีที่ย้าย : 2017

ลินเดอเลิฟ โดนเบนฟิก้าดึงตัวมาร่วมทัพเมื่อช่วงตลาดฤดูร้อนปี 2012 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 17 ปี หลังจากย้ายเข้ามาร่วมทัพกับทีมดังแห่งโปรตุเกส กองหลังชาวสวีเดนก็ลงเล่นให้กับทีมสำรอง เบนฟิก้า บี อยู่ประมาณ 3 ฤดูกาลครึ่ง ก่อนที่จะถูกผลักดันให้ขึ้นไปเป็นปราการหลังตัวหลักของทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2015-16

ผลงานสร้างชื่อให้กับกองหลังฉายา “ดิ ไอซ์แมน” มาจากฤดูกาล 2016-17 ที่เขาลงเล่นให้กับ “เหยียวลิสบอน” ไปทั้งหมด 47 เกมรวมทุกรายการ ช่วงนั้นกองหลังชาวสวีเดนตกเป็นเป้าหมายของหลายๆสโมสร สุดท้ายเป็น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะศึกแย่งชิงตัวได้สำเร็จ

เนลสัน เซเมโด้ (Nelson Semedo)

  • ค่าตัว : 35.7 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : บาร์เซโลน่า
  • ปีที่ย้าย : 2017

เซเมโด้ เป็นอีกหนึ่งนักเตะชาวโปรตุเกสที่สร้างชื่อตัวเองกับ เบนฟิก้า เขาเติบโตมากับสโมรในบ้านเกิด จนกระทั่งฤดูกาล 2016-17 แบ็กขวารายนี้ด้าวขึ้นมายึกตำแหน่งตัวจริงของทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ

ด้วยสไตล์การเล่นที่เติมเกมรุกได้อย่างสุดมันส์ที่แสดงให้เห็น ดึงดูดให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรมากมายในยุโรป จนกระทั่งเมื่อช่วงตลอดฤดูร้อนปี 2017 บาร์เซโล่า ก็ทุ่มเงินคว้าตัวแบ็กขวาชาวโปรตุเกสมาช่วยเติมเต็มเกมทางด้านข้างได้สำเร็จ เซเมโด้ ใช้เวลาค้าแข้งอยู่ที่ถิ่น “คัมป์ นู” 3 ฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อปี 2020

ราอูล ฆิเมเนซ (Raul Jimenez)

  • ค่าตัว : 38 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส
  • ปีที่ย้าย : 2017

กองหน้าชาวเม็กซิโก เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับ คลับ อเมริกา ทีมในบ้านเกิด ก่อนจะโดน แอตเลติโก้ มาดริด ทีมดังจากสเปน ดึงตัวไปร่วมทัพเมื่อปี 2014 ทว่าเขากลับไม่ประสบความสำเร็จกับทีม “ตราหมี” ฤดูกาล 2014-15 ช่วยทีมยิงได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น

หลังจากดูแล้วว่าไปไม่รุ่งในสเปน กองหน้ารายนี้จึงโดนขายไปให้กับ เบนฟิก้า เมื่อปี 2015 ผลงาน 31 ประตูจาก 120 นัด ในช่วง 3 ฤดูกาลที่โปรตุเกส ทำให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ขอยิมตัว ฆิเมเนซ มาใช้งาน พร้อมกับพ่วงออปชั่นซื้อขาด 38 ล้านยูโร

ดาวยิงชาวเม็กซิโก เริ่มต้นฤดูกาลแรกของเขาในเวทีพรีเมียร์ลีกได้เหมือนฝัน ลงสนามให้ทีม “หมาป่า” ทั้ง 38 เกม ยิงไป 13 ประตู ซึ่งผลงานดังกล่าวเพียงพอให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ตัดสินใจใช้ออปชั่นซื้อตัวเข้ามาอยู่กับสโมสรถาวรในช่วงตลาดฤดูร้อนปี 2019

อักเซล วิตเซล (Axel Witsel)

  • ค่าตัว : 40 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
  • ปีที่ย้าย : 2012

กองกลังตัวรุกชาวเบลเยี่ยม ย้ายจากสโมสร สตองดาร์ด ลีแอช มาร่วมทัพ เบนฟิก้า เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2011 เซ็นสัญากันยาว 5 ปี พร้อมเงื่อนไขค่าฉีกสัญญา 40 ล้านยูโร โดยปีแรกที่ย้ายมาเขาก็กลายมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมได้ทันที ลงเล่นไปทั้งหมด 49 เกมรวมทุกรายการ ทำไป 5 ประตู

แม้จะเซ็นสัญญาระยะยาวกับทีม แต่กองกลางรายนี้ได้แค้แข้งอยู่ในโปรตุเกสเพียงฤดูกาลเดียว เนื่องจากปีต่อมา เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ยื่นเงินตามจำนวนเงื่อนไขค่าฉีกสัญญา ทีมจึงจำใจต้องปล่อยตัวนักเตะให้ไปเล่นที่รัสเซีย

เขาย้ายไปเล่นอยู่ที่รัสเซียนานถึง 5 ฤดูกาล ก่อนที่จะออกไปโกยเงินหยวนที่ ไชนีส ซูเปอร์ลีก กับ เทียนจิน ฉวนเจียน 2 ฤดูกาล ก่อนที่จะกลับมาค้าแข้งในเวทียุโรปกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จนถึงปัจจุบัน

เอแดร์ซอน (Ederson)

  • ค่าตัว : 40 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • ปีที่ย้าย : 2017

ไม่ใช่เรื่องปกตินักที่สโมสนจะทุ่มเงินระดับ 40 ล้านยูโรให้กับตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำมันในช่วงตลาดฤดูร้อนปี 2017 ช่วงนั้นกุนซือชาวสเปนเพิ้งเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่ของทัพ “เรือใบสีฟ้า” ได้ไม่นาน เขาต้องการที่จะสร้างทีมในสไตล์ครองบอลที่ถนัด ดังนั้นงานแรกๆที่ทำคือการหาผู้รักษาประตูที่เล่นบอลกับเท้าได้ดี จึงทุ่มเงินดึงตัวนายทวารชาวบราซิลมาเฝ้าเสา

เอแดร์ซอน เพิ่งขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า แบบเต็มฤดูกาลครั้งแรกเมื่อปี 2016-17 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเองเขาสามารถคว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาครองได้สำเร็จ และยังได้รับให้เป็นผู้นักษาประตูแห่งปีของลีกโปรตุเกส

รูเบน ดิอาส (Ruben Dias)

  • ค่าตัว : 68 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  • ปีที่ย้าย : 2020

ดิอาส เป็นผลผลิตมาจากอคาเดมี่ของสโมสร เบนฟิก้า โดยเขาลงประเดิมสนามทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2017 และใช้เวลาเพียงไม่นานก็กลายมาเป็นปราการหลังตัวหลักของทัพ “เหยี่ยวลิสบอน” นอกจากนี้เข้ายังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแนวรับของทีมชาติฝรั่งเศสในยุคใหม่ด้วย จึงไม่น่าแปลใจที่กองหลังรายนี้จะกลายเป็นที่หมายปองของสโมสรระดับบิ๊กหลายๆทีม

แต่สุดท้ายอย่างที่รู้กัน ซิตี้ ทุ่มเงินก้อนโต 68 ล้านยูโร นำตัว ดิอาส มายืมประจำการแนวรับในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ม ได้สำเร็จ ทำให้นักเตะรายนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดของโลก ณ ปัจจุบัน

ดาร์วิน นูเญซ (Darwin Nunez)

  • ค่าตัว : 75 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : ลิเวอร์พูล
  • ปีที่ย้าย : 2022

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพิ่งออกมาประกาศว่าพวกเขาได้เซ็นสัญญากับหนึ่งในกองหน้าที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดของยุโรป ดาร์วิน นูเญซ มาร่วทัพด้วยค่าตัวอย่างน้อย 75 ล้านยูโร ยังไม่นับรวมโบนัสต่างๆ

ดาวยิงชาวอุรุกวัย ย้ายมาเข้าร่วมทีมเบนฟิก้าเมื่อปี 2020 โดยฤดูกาลแรกฟอร์มยังไม่เปรี้ยงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามหลังจากเขาปรับตัวเข้ากับทีมได้ นูเญซ ฉายแววให้เห็นถึงความเป็นยอดดาวยิง เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา(2021-22) เขาจัดการสังหารไปถึง 34 ประตูจากการลงสนาม 41 เกม แน่นอนว่าชื่อของเขาไปอยู่ในลิสการล่าตัวของสโมสรดังทั่วยุโรป สุดท้ายเป็น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ชนะการประมูลคว้าตัวกองหน้าอนาคตไกลรายนี้มาร่วมทัพ

ชูเอา เฟลิกซ์ (Joao Felix)

  • ค่าตัว : 127 ล้านยูโร
  • สโมสรที่ย้ายเข้า : แอตเลติโก มาดริด
  • ปีที่ย้าย : 2019

อีกหนึ่งในผลผลิตจากอคาเดมี่ของเบนฟิก้า โดยเขาสร้างชื่อตั้งแต่ฤดูกาลแรก(2018-19)ที่ขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของทีม ด้วยการยิงคนเดียว 20 ประตู ซึ่งในตอนนั้น เฟลิกซ์ อายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น จากพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มที่ฉายแววยอดแข้งออกมา บวกกับที่ทีม “ตราหมี” ต้องการกองหน้ามาทดแทน อองตวน กรีซมันน์ ที่เพิ่งย้ายไป บาร์ซ่า ดีลแห่งประวัติศาสตร์นี้จึงเกิดขึ้นมาได้

ค่าตัว 127 ล้านยูโร ส่งผลให้ ชูเอา เฟลิกซ์ กลายเป็นนักเตะที่ขายออกแพงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเบนฟิก้า และตัวเลขดังกล่างยังทำให้ตัวรุกชาวโปรตุเกสกลายเป็นนักฟุตบอลที่แพงที่สุดอันดับ 4 ตลอดกาล รองมาจาก เนย์มาร์, คิเลี่ยน เอ็มปัปเป้ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top