เข้าสู่ตอนปิดท้ายของคอนเทนต์ อัพเดต 9 ผู้เล่นในศึก ลาลีก้า สเปน ที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งตอนเปิดหัวก่อนหน้านี้ แฟนๆ คงได้เห็นกันไปแล้วว่า มีผู้เล่นหลายคนที่รับค่าเหนื่อยเท่าเทียมกับแบบเกลี่ยๆ ถือเป็นค่าเฉลี่ยกลางๆ สำหรับสตาร์ลีกนี้ แต่พอทางลีกมีกฏเรื่องการควบคุมเพดานค่าจ้าง ทำให้ตอนนี้ทีมยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุ จำเป็นต้องคิดคำนวณกันอย่างถี่ถ้วน กว่าจะจ้างผู้เล่นระดับท็อปของวงการมาร่วมทีมได้ ต้องมีการเคลียร์พื้นที่เพื่อเพิ่มช่องว่างค่าจ้าง ไม่ให้ล้นเพดานแบบพอดิบพอดี

นโยบายการทำทีมทุกวันนี้ ต่อให้เป็นสโมสรทีเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการลูกหนัง ยังต้องเข้าโหมดรัดเข็มขัด ไม่ใช้เงินแบบบ้าคลั่ง หากไม่ใช่ดีลที่พลาดไม่ได้จริงๆ หรือ เป็นการซื้อเพื่ออนาคตข้างหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะฝืดเคืองสุดๆ การทุ่มเงินระดับ 100 ล้านยูโรเพื่อนักเตะคนเดียว ต้องมีความมั่นใจแล้วว่า ดาวเตะรายนั้นต้องมีฝีเท้าคุ้มค่าพอที่จะเสี่ยง เผลอๆ ยอมไปเซ็นต์ของฟรีที่ได้รับการการันตีคุณภาพมาแล้ว ยอมจ่ายเงินค่ากินเปล่า ทุ่มค่าเหนื่อยในระดับกลางๆ อาจเป็นทางที่เหมาะสมมากกว่า

บทความนี้ พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เดิมเป็นตอนต่อเนื่อง เพื่อปิดท้ายซีรีส์นี้อย่างสมบูรณ์ โดยจะพูดถึงตำแหน่งท็อปไฟว์ ที่เป็นผู้เล่นที่รับค่าหนื่อยสูงสุดในลีกแดนกระทิงดุยุคปัจจุบันนี้ มองจากรายชื่อเผินๆ แล้ว มีสตาร์หลายรายที่ค่อนข้างมีชื่อติดเข้ามาแบบเซอร์ไพรส์ จำนวนตัวเลขเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ดูลดลงพอสมควร อาจเป็นเพราะต้นสังกัดของเจรจาลดเปอร์เซ็นต์เงื่อนไขต่างๆ เพื่อช่วยเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันเลยว่า จะมีดาวเตะรายใดติดโผเข้ามาบ้าง? พวกเขาสังกัดทีมไหน รับค่าจ้างเท่าไหร่?

เริ่มต้นกันที่อันดับที่ 5 เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลของทีมตัวเองต่อต้านมากที่สุด เพราะเชื่อกันว่าดาวเตะรายนี้ คือ ตัวการสำคัญที่ทำให้ บาร์เซโลน่า ต้องเสีย ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์เบอร์หนึ่งของทีมออกไปจากทีมเมื่อปีก่อน นั่นก็คือ อ็องตวนน์ กรีซมันน์ ที่ย้ายแบบด่วนช็อคโลก ด้วยสัญญายืมตัว กลับไปเล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด เพื่อเป็นการเคลียร์ค่าจ้างให้กับ บาร์เซโลน่า บางส่วน เนื่องจากแบกรับการจ่ายเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ไหว เฉพาะตอนนี้ กรีซมันน์ รับเงินจาก ตราหมี อยู่ที่ปีละ 20 ล้านยูโร แต่ยังไม่นับส่วนที่ทาง เจ้าบุญทุ่ม ยังคงต้องแบ่งรับส่วนต่างอยู่อีกเล็กน้อยที่ไม่มีการเปิดเผยออกมา ซึ่งแม้การซื้อขายถาวรจะตกลงกันไปได้แล้ว แต่คงต้องรอตลาดรอบหน้าเปิด ถึงจะใช้สัญญาใหม่อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม

ถัดมาที่อันดับที่ 4 เป็นหนึ่งในสามยอดกองกลางแห่งยุคของ เรอัล มาดริด ที่รับบทบาทในการเชื่อมเกม ออกบอลสั้นและบอลยาว รวมไปถึงเติมขึ้นไปยิงไกลจากแถวสอง ตั้งแต่ย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ด้วยราคาสุดคุ้ม โทนี่ โครส มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์โลก ก็ยกระดับฝีเท้าของตัวเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นตัวท็ปในวงการ ชั้นเชิงในการเล่นเบสิคฟุตบอลดูสวยงามเนียนตา แม้ว่าอายุจะเข้าหลักเลขสาม สภาพร่างกายเริ่มเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่รวมๆ แล้วยังหาคนมาเบียดตัวจริงเขาได้ยาก เชื่อเหลือเกินว่าค่าจ้างระดับ 22 ล้านยูโรต่อปี คงมีหลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปกล้าจ่าย แต่ตัวนักเตะเองคงไม่อยากย้ายออกจากต้นสังกัด หากไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ

ต่อกันที่อันดับที่ 3 เป็นยอดกองกลางจากสโมสร บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติสเปน ผ่านการเป็นแชมป์เมเจอร์ครบทุกรายการบนโลกใบนี้ ช่วงเวลาพีคสุดของเขา ไม่มีผู้เล่นคนใดเลยที่สามารถเทียบฝีเท้าในการเล่นเป็นกองกลางตัวรับ ที่คอยตัดบอลด้วยชั้นเชิงหน้าแผงหลังได้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ที่ผ่านมาแล้วราวทศวรรษ เขาก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งนี้ให้กับ เจ้าบุญทุ่ม ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร ไม่เน้นการเข้าปะทะหนักหน่วง ทำให้ยิดอายุการค้าแข้งได้ยาวนาน สภาพความฟิตความเร็วของเขาอาจตกไปตามวัย แต่เรื่องของการอ่านเกมและประสบการณ์นั้นเหลือกินเหลือใช้ ค่าจ้างระดับ 23 ล้านยูโรต่อปี ถือว่าเป็นการตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจจากสโมสร

เข้าสู่ตำแหน่งรองท็อปกันที่เจ้าของรางวัล บัลลงก์ ดอร์ คนล่าสุด ที่ผลงานของเขานั้นสมฉายา เอฟ วัน ที่ตัวเองอุปโลกขึ้นมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก คาริม เบนเซม่า ดาวยิงจากค่าย เรอัล มาดริด คู่แข่งโดยตรงของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในการแย่งชิงความเป็นหนึ่งทั้งในเรื่องของถ้วยแชมป์ รวมไปถึงการเป็นกองหน้าหมายเลข 9 ที่ดีที่สุดในโลก หลังจากที่ คิง คาริม ก้าวออกมาจากร่มเงาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เฉิดฉายไม่มีพัก ยิงกระจายแบกทีมผ่านสถานการณ์ที่ตึงเครียดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ค่าจ้างระดับ 24 ล้านยูโรต่อปี หาคุ้มกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว

ปิดท้ายกันที่อันดับที่หนึ่ง แทบไม่น่าเชื่อว่าดาวเตะรายนี้ คือ คนที่รับค่าเหนื่อยสูงสุดในวงการฟุตบอลประเเทศสเปน เพราะแค่ตำแหน่งตัวจริงยังไม่ได้เป็น นับตั้งแต่วันที่ เอแดน อาซาร์ ย้ายมาจาก เชลซี ด้วยค่าตัวระดับเกินร้อยล้านยูโร แฟนบอล มาดริดนิสต้า ต่างคาดหวังกับผลงานในสนามของเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากดีลนี้เป็นตัวแทนของ โรนัลโด้ ดาวยิงสถิติสโมสรที่ย้ายออกไปอยู่กับ ยูเวนตุส แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรัง บวกกับวินัยการดูแลตัวเองที่ย่ำแย่ ส่งผลให้ อาซาร์ ไม่เคยทำผลงานได้น่าจดจำเลยในสีเสื้อของ ราชันชุดขาว ค่าเหนื่อยต่อปีระดับ 30 ล้านยูโร ว่ากันตามตรงแล้ว ไม่ต่างจากจ้างมากินเบอร์เกอร์ไปวันๆ เท่านั้น