เข้าสู่ตอนปิดท้ายกันแล้วสำหรับซีรี่ส์ ทำนายความเป็นไปได้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากการวิเคราะห์ของสื่ออย่าง กิฟมี สปอร์ต ซึ่งเป็นเว็บไซต์น้องใหม่มาแรง ที่ช่วงหลังทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจออกมามากมาย มีความหลากหลายแตกต่างจากสื่อในกระแสหลัก ก่อนหน้านี้ผ่านไปแล้วทั้งหมด 15 อันดับ ด้านล่างในตารางลีกแดนผู้ดี ที่เป็นมาจากการคาดการณ์ของพวกเขา บวกกับเหตุผลประกอบ แฟนๆ คงเห็นกันไปแล้วว่า สิ่งที่ทำให้สื่อเจ้านี้แตกต่าง คือ ความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร ไม่สนว่าจะสวนกระแสหรือไม่? มองแค่ความเป็นไปได้ล้วนๆ
สำหรับตำแหน่งพื้นที่โควต้าท็อปไฟว์ของศึก พรีเมียร์ลีก การที่จะพาทีม เข้ามาอยู่ในพื้นที่ตรงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยต่อให้เป็นผู้จัดการทีมมีชื่อ เทรนเนอร์ระดับโลกหลายราย ที่ผ่านงานการคุมทีมในประเทศอังกฤษ มีระดับปรมาจารย์หลายคน ที่เอาชื่อมาทิ้งไว้แล้วจากไปแบบไร้ทรง การแข่งขันที่เข้มข้นแบบยาวๆ เจอกับคู่แข่งที่ศักยภาพทีมแข็งๆ แทบทุกสัปดาห์ ล้วนเป็นงานหนักที่นอกจากจะใช้ฝีมือแล้ว ต้องหวังพึ่งดวงไม่น้อย ต่อให้ขุมกำลังของทีมใดโดดเด้นเกินหน้าเกินตา แต่พอถึงช่วงเวลาตัดสินโค้งสุดท้าย ตัวหลักต่างพาเหรดเจ็บกันหมด ใช่ว่าตัวสำรองจะแทนที่ได้แบบไร้รอยต่อ
บทความนี้ จะเป็นการทำนายที่เข้มข้นที่สุด ตั้งแต่เปิดคอนเทนต์ตัวนี้มา เพราะเข้าสู่ตำแหน่งตัวท็อปของลีกทั้งสิ้น อันดับต่ำสุดยังมีโอกาสไปเล่นบอลยุโรปถ้วยเล็ก ส่วนสี่อันดับแดนบนตำแหน่ง ท็อปโฟร์ ล้วนได้โควต้าไปโชว์ศักยภาพบนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นถัดไปทั้งหมด นั่นหมายถึงเงินรางวัลอันมหาศาล ที่รอพวกเขาอยู่ในฤดูกาลหน้า ส่งผลต่อการเสริมทัพ ล่อใจให้สตาร์หลายราย ตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมได้มากขึ้น มาลุ้นไปพร้อมๆ กันเลยว่า ทุกอันดับที่เก็งไว้จะตรงใจแฟนๆ หรือไม่? เหตุผลประกอบในแต่ละอันดับน่าเชื่อถือมากแค่ไหน?
เปิดหัวกันที่อันดับที่ 5 ซึ่งคงจะไม่ถูกใจแฟนบอล เดอะ กันเนอร์ส เท่าไหร่นัก เพราะทาง กิฟมีสปอร์ต เลือกที่จะคาดเดาว่า อาร์เซน่อล จะหลุดพื้นที่บอยุโรปถ้วยใหญ่อีกปี แม้ว่าจะเปิดตัวได้อย่างร้อนแรงในช่วงปรีซีซั่น แถมประเดิมเกมนัดเปิดสนามได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพรวมมีแต่ทิศทางไปในสิ่งดีๆ แทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามการฝากความหวังไว้กับ ดาวยิงตัวเป้าที่น่าเชื่อถือคนเดียวแบบ กาเบรียล เฆซุส ดูจะเป็นภาระที่หนักเกินไป แถมฝีมือของ มิเกล อาร์เตต้า ก็ยังไม่เก๋าเกมมากพอ ที่จะจัดการผลงานทุกถ้วยให้ประสบความสำเร็จตามเป้า ตำแหน่งแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก แฟนบอลก็หวังไว้ไม่น้อย แล้วยังต้องมาเบียดแย่งท็อปโฟร์กับกลุ่มทีมหัวตารางเขี้ยวๆ สุดท้ายแล้วแต้มอาจดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่อันดับน่าจะไม่ต่างไปจากเดิม
ต่อกันที่อันดับที่ 4 แฟนบอล เร้ด เดวิลส์ ต่างตั้งความหวังเอาไว้อย่างสูงสุดว่า เอริก เทน ฮาก คงจะเป็นคนที่ใช่สักที ในการพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ แต่มันคงเร็วเกินไปถ้าจะหวังถึงการเป็นแชมป์ ดังนั้นเป้าหมายแรกในการติดท็อปโฟร์ คงไม่น่าเป็นเรื่องยากเกินไป หากในอนาคตบอร์ดมองถึงเรื่องที่ใหญ่กว่านี้ ตามวัฏจักรโลกฟุตบอลแล้ว สโมสรใดลงสู่จุดต่ำสุด มักจะมีช่วงที่ผงาดขึ้นมาเสมอ สื่อเจ้านี้เชื่อว่า ยูไนเต็ด นั้นเข้าข่าย ด้วยขุมกำลังที่ยังเหลือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่การันตีประตู 15 ลูกต่อปีสบายๆ เจดอน ซานโช่ ที่กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่นับรวม มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ฟอร์มกำลังกลับมาเข้าที่เข้าทาง ทุกองค์ประกอบน่าจะส่งให้พวกเขาจบที่ 4 ได้แบบนิ่มๆ
ถัดมาที่อันดับที่ 3 คงเป็นเรื่องราวที่เปรียบเสมือนภัยพิบัติของเหล่าแฟนบอล เดอะ ค็อปส์ ที่สื่อเจ้านี้ทำนายว่า ลิเวอร์พูล จะจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งนี้ ทั้งที่ยังมีกุนซือย่าง เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ กุมบังเหียนทีมอยู่ อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์ทุกบริบทรวมๆ หงส์แดง น่าจะทำผลงานไล่ตามแชมป์เก่าได้ยาก เมื่อพวกเขาต้องเสีย ซาดิโอ มาเน่ หนึ่งในแนวรุกคนสำคัญออกไป แล้วต้องใช้เวลารอให้ ดาร์วิน นูนเญซ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนได้แบบไร้รอยต่อ อย่างไรก็ตามแม้อันดับจะต่ำลง แต่แต้มน่าจะห่างจากแชมป์ไม่เกิน 6 แต้ม แล้วในอนาคต เร้ด แมชชีน จะกลับมาดีกว่าเก่าได้ในไม่ช้าไม่นาน
เข้าสู่ตำแหน่งรองแชมป์กันที่สโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สื่อเจ้านี้เลือกแทงสวนกระแสแบบบ้าเลือด เหมือนคอลัมนิสต์ที่ดูไร้สติสตังในการเสนองาน ตั้งแต่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดทำการ ไก่เดือยทอง ตามหาส่วนผสมค็อกเทลที่ทั้งอร่อยและรุนแรงมาได้อย่างลงตัว โดยฝีมือของบาร์เทนเดอร์อย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่ว่าจะเป็น ริชาร์ลิซอน, เจด สเปนซ์, อิวาน เปริซิช และ อีฟส์ บิสซูม่า ประหนึ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าพวกเขาเอาจริง เมื่อรวมกับอาวุธเดิมที่มีอยู่ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ถ้าเกิดพวกเขาล้มเหลวตกรอบไวในบอลยุโรป แล้วหันหน้ามามุ่งเป้าที่การหวังแชมป์ลีกแบบเป็นจริงเป็นจัง ลองคิดดดูดีๆ คุณภาพทีมระดับนี้ จะมีใครมองข้ามได้บ้าง
ปิดท้ายกันที่ตำแหน่งแชมป์ที่อาจทำให้แฟนบอลรู้สึกเอียน เลี่ยน และ เบื่อ กับภาพความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะทำให้บอลลีกอังกฤษ กลายเป็นมีแชมป์แบบผูกขาด ถ้าเป็นตามคำทำนายนี้จริง เรือใบสีฟ้า จะได้แชมป์ 5 จาก 6 ปีหลังสุด แต่ระดับฝีมือกุนซือแบบ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เคยทำแต้มได้ระดับ 90 คะแนนมาก่อนหน้านี้ ใช่ว่าพวกเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้อีก ขนาดปีก่อนขาดผู้เล่นสำคัญในตำแหน่งหน้าเป้า ยังแก้ไขสถานการณ์แล้วประสบความสำเร็จได้ พอในปีนี้ได้จิ๊กซอว์สำคัญมาเติมเต็ม แล้วดันเป็นผู้เล่นชื่อดังอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่มีโอกาสก้าวไปคว้ารางวัล บัลลงก์ ดอร์ ในอนาคตอันใกล้ซะอีก ศักยภาพของพวกเขาที่มีมาตรฐานสูง คงหาทีมที่มาล้มบัลลังก์ได้ยาก แต่ทีมงานของ กิฟมีสปอร์ต ก็หวังไว้ว่า การวิเคราะห์ของพวกเขาจะผิดพลาด เพื่อให้ลีกที่ได้รับความนิยมสูงนี้กลับมาน่าติดตามอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนหน้าทีมแชมป์สักที