Home บทความฟุตบอล ย้อนรอย 5 นักเตะของ บาร์เซโลน่า ที่ย้ายมาร่วมทีมตลาดเดียวกับ โรนัลดินโญ่

ย้อนรอย 5 นักเตะของ บาร์เซโลน่า ที่ย้ายมาร่วมทีมตลาดเดียวกับ โรนัลดินโญ่

0
ย้อนรอย 5 นักเตะของ บาร์เซโลน่า ที่ย้ายมาร่วมทีมตลาดเดียวกับ โรนัลดินโญ่

ย้อนกลับไปช่วงหลังจบฤดูกาล 2002/03 ของสโมสร บาร์เซโลน่า ผลงานของพวกเขาดำดิ่งถึงขีดสุดในลีก ด้วยการจบอันดับที่ 6 ในตารางศึก ลาลีก้า สเปน เล่นเอาแฟนบอลหวาดหวั่นว่า จะถึงวิกฤติตกต่ำไปแบบยาวๆ ปล่อยให้คู่อริตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด ผงาดขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่แทน ร้อนไปถึงบอร์ดบริหารของทีม ต้องรีบแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน ซึ่งทางเลือกที่เร็วที่สุดแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอด คือ การทุ่มซื้อสตาร์มากอบกู้สถานการณ์

เป้าหมายที่ทาง บาร์เซโลน่า พูดคุยกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาไว้ตอนแรก เป็นซูเปอร์สตาร์อย่าง เดวิด เบ็คแฮม ที่ทาง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แอบเดินดีลลับหลังระหว่างนักเตะไปพักร้อน แต่พอเจ้าตัวรู้เรื่องกลับไปเดินเกมเอง แล้วไปลงเอยอยู่กับ เรอัล มาดริด ที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์มากกว่า กลายเป็นว่าสร้างความแค้นเคืองให้กับ เจ้าบุญทุ่ม ส่งผลให้ไปจีบเป้าหมายอันดับหนึ่งของ ปีศาจแดง อย่าง โรนัลดินโญ่ ให้มาเล่นในถิ่น คัมป์ นู แบบไฮแจ็คช่วงโค้งสุดท้าย

อย่างไรก็ตามตลาดรอบดังกล่าว บาร์ซ่า ไม่ได้คว้าตัวแค่ รอนนี่ มาแบกทีมเพียงแค่รายเดียว แต่ยังดึงนักเตะรายอื่นๆ เข้ามาช่วยด้วย เป็นจำนวนอีก 5 รายด้วยกัน ทั้งมาในบทบาทที่หวังจะให้เป็นตัวจริง ได้ประสานงานกอบกู้สถานการณ์ร่วมกัน และ ตัวแบ็คอัพ

บทความนี้นี้พร้อมย้อนรอยดีลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดรอบดังกล่าวว่า ผู้เล่นหน้าใหม่ในตอนนั้นมีใครกันบ้าง? แล้วผลงานสรุปแล้วออกมาเป็นอย่างไร?

เริ่มต้นกันที่รายแรก เป็นผู้เล่นในตำแหน่งตัวริมเส้น ที่สื่อต่างๆ ยกย่องให้มีความสามารถมากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนอายุเท่ากัน ย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน เหมือนกัน นั่นก็คือ ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ปีกจอมไซด์ก้อย ที่ทาง แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด หวังว่าจะเข้ามาเติมมิติเกมรุกได้วูบวาบมากขึ้น อย่างไรก็ตามทัศนคติของนักเตะและโค้ช เหมือนจะไปกันคนละทิศคนละทาง กวาเรสม่า พยายามปรับสไตล์การเล่นตามที่เทรนเนอร์ชาวฮอลแลนด์ต้องการ แต่ผลลัพธ์ยังย่ำแย่ไม่ต่างจากเดิม สุดท้ายแล้วเขาเลือกที่จะย้ายสลับขั้วกับ เดโก้ ไปเล่นกับ ปอร์โต้ หลังอยู่กับทีมได้ปีเดียว แล้วยิงประตูได้เพียงหนึ่งลูกเท่านั้น

ต่อกันที่รายที่สอง เป็นผู้เล่นในตำแหน่งแนวรับที่เล่นได้อย่างสาระพัดประโยชน์ แล้วค่อนข้างจะถูกประเมินค่าฝีเท้าไว้ต่ำกว่าเกณฑ์เสมอ เมื่อเทียบกับผู้เล่นในยุคเดียวกัน นั่นก็คือ ราฟาเอล มาร์เกวซ สตาร์ของทีมชาติเม็กซิโก ที่ย้ายมาจาก โมนาโก ด้วยค่าตัวสุดถูกแค่ 5 ล้านยูโร มาร์เกวซ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า งานของเขานั้นง่ายเอามากๆ แค่แย่งบอลกลับมา แล้วพยายามส่งให้ตัวรุกด้านบน ไม่ว่าจะเป็น ชาบี, อินิเอสต้า หรือ โรนัลดินโญ่ หากต้องลงไปเล่นกองหลังก็มี การ์เลส ปูโยล คอยรับหน้าที่เป็นด่านแรกให้ ผลงาน 12 แชมป์ของเขา ตลอด 7 ปีที่อยู่กับทีม ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาเทียบสถิติได้ง่ายๆ

รายถัดมาเป้นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่โด่งดังกับทีมชาติตุรกี จากการโชว์ฟอร์มสุดเหนียวให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2002 นั่นก็คือ รุสตูร์ เร็คเบอร์ ที่ปฏิเสธการย้ายไปร่วมทีม อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วเลือกย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่น คัมป์ นู แบบไม่มีค่าตัว อย่างไรก็ตาม เร็คเบอร์ เจอปัญหาใหญ่ที่ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นเป็นมือหนึ่ง แล้วต้องรอโอกาสต่อจากประตูดาวรุ่งอย่าง บิคตอร์ บัลเดส เพราะว่าเขาพูดภาษาสเปนไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โค้ชน่าจะมีเหตุผลอื่นที่ควรบอกเขาตรงๆ มากกว่า เนื่องจากการเล่นฟุตบอลเหมือนภาษาที่ทุกคนรู้และเข้าใจโดยธรรมชาติ เขาได้ลงเล่นให้กับทีมไปเพียง 7 นัดเท่านั้น อยู่กับทีมเพียงแค่ปีเดียว แล้วตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ เฟเนบาห์เช่ ที่เป็นเซฟโซนของตัวเอง

เข้าสู่รายที่สี่กันที่ดาวเตะสาระพัดประโยชน์ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่ตอนแรก บาร์เซโลน่า เลือกที่จะขอยืมตัวมาใช้งานก่อนจากสโมสร อาร์เซน่อล นั่นก็คือ โจวานนี่ ฟาน บรองฮอสท์ ที่เคยเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มาก่อน แล้วถูกปรับแต่งพันธุกันให้กลายเป็นแบ็คซ้ายจอมเหนียว ที่มีผลงานคงเส้นคงวา การประสานงานที่เข้าขารู้ใจของเขากับ โรนัลดินโญ่ ทางริมเส้นฝั่งซ้าย ทำให้เกมรุกของ เจ้าบุญทุ่ม ยุคนั้นไหลลื่นกว่าเดิมเอามากๆ จากผลงาดังกล่าวจึงได้ย้ายมาร่วมทีมแบบถาวรในเวลาต่อมา ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 2 ล้านยูโรเท่านั้น เมื่อมองไปที่แชมป์ลีกสองสมัย, สแปนิช ซูเปอร์คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2006 ที่เอาชนะต้นสังกัดเก่า ไอ้ปืนใหญ่ คงเป็นอะไรที่คุ้มค่าเกินกว่าจะบรรยาย

ปิดท้ายกันที่กองหลังตัวอะไหล่ ที่ทาง บาร์เซโลน่า เลือกดึงตัวมาในรูปแบบการยืมตัวจากสโมสร เรอัล บายาโดลิด หลังจากปล่อยตัว แฟร้งค์ เดอ บัวร์ และ ฟิลิปป์ คริสต็องวัล ออกไปจากทีม นั่นก็คือ มาริโอ อบรันเต้ เซนเตอร์แบ็คตัวรั่ว ที่แฟนบอลแทบจะคุ้นชื่อเขาจากการนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองเท่านั้น การเบียดแย่งตัวจริงของเขา แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะมีทั้ง มาร์เกวซ และ ปูโยล กำแพงอันสูงลิบลิ่วเรื่องฝีเท้าขวางหน้าอยู่ อบรันเต้ ได้ลงสนามในเกมลีกไปเพียงแค่นัดเดียว ซึ่งเล่นเอาแฟนบอลปวดจิตไปเป็นแถบๆ เนื่องจากเกมดังกล่าว บาร์ซ่า โดน มาลาก้า ถล่มไปยับเยิน 5-1