Home บทความฟุตบอล สรุปผลงาน ฟุตบอลโลก 2022 Part.2

สรุปผลงาน ฟุตบอลโลก 2022 Part.2

สรุปผลงาน ฟุตบอลโลก 2022 Part.2

เริ่มจาก เม็กซิโก ที่เป็นขาประจำ ในรอบน็อคเอ้าท์อยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้ผลงานถือว่าน่าเสียดายสุดๆ โดยพวกเขาเริ่มจากเสมอกับ โปแลนด์ แบบไม่มีสกอร์ ในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่เกมนัดต่อมาจะพ่ายต่อ อาร์เจนติน่า 0-2 ทำให้สถานการณ์เกมสุดท้ายของพวกเขา ต้องชนะสถานเดียว แถมยังไม่พอต้องลุ้นให้ผลของอีกคู่เป็นใจอีกด้วย ซึ่งพวกเขาก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้สำเร็จ หลังสามารถเอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-1 แต่ผลของอีกคู่ อาร์เจนติน่า สามารถเอาชนะ โปแลนด์ ไปได้ ทำให้ทาง จังโก้ ตกรอบแรกทันที

เนเธอร์แลนด์ ปีนี้พวกเขามาดีจริงๆ แม้ในฟุตบอลโลกครั้งก่อนจะไม่ได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้าย โดยพวกเขาเปิดหัวด้วยการเอาชนะ เซเนกัล 2-0 ก่อนที่เกมนัดถัดมาจะเสมอกับ เอกวาดอร์ 1-1 ทำให้แม้จะยังไม่การันตีการเข้ารอบ แต่สถานการณ์ของพวกเขาค่อนข้างดี ซึ่งเกมสุดท้ายในการเจอกับเจ้าบ้านอย่าง กาตาร์ ที่ตกรอบไปแล้ว พวกเขาเลยเอาชนะไปได้แบบไม่ยาก 2-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์ของกลุ่ม A ซึ่งเกมนัดถัดมา พวกเขาก็ยังสามารถเอาชนะ สหรัฐอเมริกา ไปได้แบบไม่ยากเย็น 3-1 อย่างไรก็ตาม ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พวกเขาต้องหยุดเส้นทางไว้แค่นี้ หลังพ่ายต่อ อาร์เจนติน่า ในการดวลจุดโทษ 3-4 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 2-2

เดนมาร์ก เป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง แม้พวกเขาจะโชว์ฟอร์มในดีในฟุตบอลยูโร เมื่อกลางปีก่อน รวมถึงเกมรอบคัดเลือก ก็เป็นชาติแรกๆ ที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้าย ซึ่งพวกเขาเริ่มต้นไม่ดีนักด้วยการเสมอกับ ตูนิเซีย 0-0 ก่อนที่เกมนัดถัดมาจะพ่ายต่อ ฝรั่งเศส 1-2 ทำให้ต้องชนะในเกมสุดท้ายเท่านั้น แต่ในท้ายที่สุด พวกเขากลับพ่ายต่อ ออสเตรเลีย แบบค่อนข้างช็อคพอสมควร ทำให้พวกเขา จอดป้ายเพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น

เยอรมัน น่าจะเป็นทีมที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หลังเป็นชาติแรกที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเล่นรอบสุดท้าย ต่อจาก กาตาร์ ชาติเจ้าภาพที่ได้เข้ามาเล่นโดยอัตโนมัติ แต่ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก พวกเขาก็เปิดหัวด้วยการพ่ายต่อ ญี่ปุ่น แบบช็อคโลก 1-2 ก่อนที่เกมนัดถัดมา จะตามตีเสมอ สเปน ได้ในช่วงท้ายเกม 1-1 และแม้เกมนัดสุดท้าย พวกเขาจะสามารถเอาชนะ คอสตาริกา 4-2 ก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังต้องตกรอบ หลังผลของอีกคู่ไม่เป็นใจเพราะ ญี่ปุ่น ดันสามารถเอาชนะ สเปน ได้ 2-1 ทำให้สองทีมในอีกคู่นั้น จูงมือกันเข้ารอบต่อไป

อุรุกวัย ในครั้งนี้ก็จบเส้นทางเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น หลังทำผลงานได้ไม่ดีเลย แม้จะมีผู้เล่นดีๆ มากมาย โดยในเกมแรกพวกเขาเสมอกับ เกาหลีใต้ 0-0 ก่อนที่เกมนัดถัดมาจะพ่ายต่อ โปรตุเกส 0-2 ทำให้เกมสุดท้ายพวกเขาต้องชนะสถานเดียว แถมยังต้องลุ้นให้ทัพ ฝอยทอง ไม่แพ้ต่อ โสมขาว ในเวลาเดียวกัน ซึ่งตัวพวกเขาเองก็ทำได้ และกำลังจะเข้ารอบหลังนำ กาน่า 2-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ในช่วงทดเจ็บของอีกคู่ เกาหลีใต้ ดันมายิงประตูชัยคว้าสามแต้มเหนือ โปรตุเกส ไปได้สำเร็จ ทำให้ทาง จอมโหด ต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม หลังมีคะแนน และผลประตูได้เสียเท่ากับ เกาหลีใต้ แต่พวกเขาเองยิงประตูได้น้อยกว่า

สวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในม้ามืดของรายการ ที่มักจะทำผลงานได้อย่างดีในรายการใหญ่ๆ ปีนี้แม้จะจับมาเจอกับกลุ่มยาก แต่พวกเขาก็เอาตัวรอดมาได้ โดยเริ่มจากการเอาชนะ แคเมอรูน 1-0 ก่อนที่เกมนัดต่อมาจะพ่ายต่อ บราซิล แบบหวุดหวิด 0-1 โดยมาโดนพังประตูชัยในช่วงท้ายเกม ก่อนที่เกมสุดท้ายจะปิดจ็อบด้วยการเบียดเอาชนะ เซอร์เบีย คู่แค้นเก่า 3-2 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งพวกเขาดันไปพ่ายต่อ โปรตุเกส แบบยับเยิน 1-6 จบเส้นทางกันไป

สหรัฐอเมริกา ที่ปีนี้มีเด็กหนุ่มเป็นแกนหลักของทีม แม้จะประเดิมเกมแรกด้วยการเสมอกับ เวลส์ แบบน่าเสียดาย 1-1 หลังมาเสียจุดโทษเอาในช่วงท้ายเกม แต่เกมต่อมาก็ทำผลงานได้ดี โดยเสมอกับ อังกฤษ 0-0 ทำให้เกมสุดท้าย พวกเขาขอแค่ชนะ อิหร่าน ก็ผ่านเข้ารอบสบายๆ โดยไม่ต้องลุ้นผลอีกคู่ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ ด้วยการเฉือนเอาชนะไป 1-0 น่าเสียดายที่ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย จับมาเจอกับของแข็งอย่าง เนเธอร์แลนด์ ก่อนจะแพ้ไป 1-3 ตกรอบไปอีกทีม

โครเอเชีย รองแชมป์เมื่อครั้งที่แล้ว ปีนี้ใช้แกนหลักชุดเดิมบวกกับดาวรุ่งดวงใหม่บางราย ในรอบแบ่งกลุ่มต้องบอกว่าเกือบเอาตัวไม่รอด หลังเกมแรกเสมอกับ โมร็อกโก แบบไม่มีสกอร์ ก่อนที่เกมนัดต่อมาจะสามารถเอาชนะ แคนาดา 4-1 ทำให้เกมนัดสุดท้ายพวกเขาต้องตัดสินกับทีมแกร่งอย่าง เบลเยี่ยม โดยมีข้อแม้ว่าห้ามแพ้เด็ดขาด หลังจากเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาอยู่นาน ในที่สุดพวกเขาก็ยันเสมอไว้ได้ เสมอกันไป 0-0 ส่งผลให้ ตราหมากรุก ผ่านเข้ารอบไปเจอกับ ญี่ปุ่น ซึ่งทัพ ซามูไรบลูส์ ก็เล่นเอาพวกเขาเกือบแย่ เสมอกันในเวลา 1-1 ก่อนจะต้องดวลจุดโทษชี้ขาด โดยในจุดนี้พวกเขาทำได้ดีกว่าเยอะ เอาชนะไปได้ 3-1 ก่อนที่รอบก่อนรองชนะเลิศ จะดวลจุดโทษต่อเนื่องกับ บราซิล หลังทั้งคู่เสมอกันใน 90 นาที 0-0 ก่อนจะยิงกันคนละลูกในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทำให้เสมอกันไป 1-1 แต่ช่วงดวลเป้าก็ต้องบอกว่าพวกเขาทำได้ดีกว่าเต็งหนึ่งของรายการอย่างมาก เอาชนะไปได้ 4-2 ก่อนที่จะไปพ่าย อาร์เจนติน่า ในรอบรองชนะเลิศ แบบหมดรูป 0-3 ส่วนในนัดชิงที่สาม พวกเขาสามารถเอาชนะ โมร็อกโก 2-1 คว้าอันดับสามของรายการไปครอง