แนะนำท็อป 10 สุดยอดอะคาเดมี่ฟุตบอลในปัจจุบัน…(ตอนที่ 2)

ต่อจากพาร์ทที่สองหลังความเดิมตอนที่แล้วแนะนำ Academy ชั้นนำของโลกไปแล้ว 5 แห่ง ซึ่งบทความนี้ไม่ได้มุ่งเน้นในการจัดอันดับว่าที่ไหนดีกว่ากัน เพียงแต่จุดประสงค์ที่แท้จริงนั้นต้องการแนะนำให้รู้จักว่า ศูนย์ฝึกฟุตบอล ที่ได้รับการยอมรับ และสร้างนักเตะที่เราคุ้นหูคุ้นตากันในวงการลูกหนังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง? และแต่ละที่มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างไร? ดังนั้นอยากขออนุญาตไม่อารัมภบทมากมายแล้วเข้าเรื่องแบบต่เนื่องเลยละกันนะครับ…

Academia Sporting – สปอร์ติ้ง ลิสบอน

ศูนย์ฝึกแห่งนี้ใช้งบประมาณลงทุนไปสูงมากเพื่อความเพียบพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องของสนาม, ยิม, การแพทย์ และ สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งเป็นอะคาเดมี่แห่งแรกในทวีปยุโรปที่ได้รับมาตรฐาน ISO9001/2008 ตั้งอยู่ชายเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลายสโมสรในยุโรปเคยใช้ที่นี่ในการเตรียมความพร้อมของทีมในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล หลังจากทำการปรับปรุงจนทันสมัยแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน…โดยอะคาเดมี่แห่งนี้ได้สร้างนักเตะชื่อก้องโลกเป็นตำนานของทีมแดนฝอยทองอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ และ เปาโล ฟูเตร้ พร้อมส่งออกดาวเตะคุณภาพออกมาอย่างไม่ขาดสายแบบรุ่นสู่รุ่น แน่นอนว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกยุคนี้ที่เป็นเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 5 สมัย ก็เป็นผลผลิตจากศูนย์ฝึกแห่งนี้…ส่วนผลิตผลชื่อดังที่ยังคงค้าแข้งอยู่ตอนนี้ และเป็นนักเตะที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม ประกอบไปด้วย วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ กองกลางตัวรับจาก เรอัล เบติส, เอริค ไดเออร์ กองกลางตัวรับของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ชูเอา มูตินโญ่ มิดฟิลด์เชิงสูงของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส รับประกันได้เลยว่าดาวเตะที่ผ่านการฝึกสอนจากที่นี่จะโดดเด่นในเรื่องของ เบสิคฟุตบอล, ทักษะการควบคุมบอล และ จินตนาการในการเล่น ที่ยอดเยี่ยม…สำหรับยอดดาวรุ่งคนต่อไปที่น่าจับตามองหนีไม่พ้น โจเอลสัน เฟอร์นันเดส วัย 16 ปีที่ตกเป็นเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า อยู่ในตอนนี้


FC Bayern Munich Junior Team – บาเยิร์น มิวนิค

เสือใต้ เป็นหนึ่งสโมสรใหญ่บนโลกที่ทุ่มงบประมาณในการสร้างทีมเยาวชนที่แข็งแกร่งมากที่สุดทีมหนึ่ง เนื่องจากเจียดงบสูงถึงปีละ 2.5 ล้านปอนด์ให้กับศูนย์ฝึกเยาวชน…โดยจัดการซื้อพื้นที่ใกล้เคียงกับสนาม อลิอันซ์ อารีน่า เพื่อสร้างอาคารที่ทันสมัยที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมในเรื่อง การแพทย์, การเรียนรู้, สันทนาการ, ห้องประชุม, อพาร์ทเมนท์ที่พัก และอื่นๆ ภายใต้งบประมาณ 70 ล้านยูโรในการปรับปรุงครั้งล่าสุดในปี 2006 ซึ่งมีสตาฟฟ์ที่ทำงานเต็มเวลากว่า 40 คน ดูแลนักเตะเยาวชนกว่า 180 ชีวิต ที่ต้องผ่านการคัดเลือกก่อนเข้ามาฝึก แล้วตลอดการเป็นนักเตะฝึกหัดนั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น…ทุกคนจะมีโค้ชดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อฝึกตำแหน่งการเล่นที่ถนัดภายใต้ระบบการเล่น 4-3-3 ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายในการสร้างนักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมให้สามารถก้าวขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิค เพื่อครองความยิ่งใหญ่ในยุคต่อๆ ไปทั้งในประเทศ และระดับทวีป…สำหรับนักเตะระดับตำนานที่เป็นผลผลิตของที่นี่ก็มี ฟร้านซ์ เบ็คเค่นเบาเออร์, เซ็ปป์ ไมเออร์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ ฟิลิปป์ ลาห์ม สี่ตำนานดาวเตะทีมชาติเยอรมันที่ก้าวไปถึงดีกรีแชมป์โลกที่แขวนเกือกไปเรียบร้อยแล้ว…ส่วนดาวเตะชื่อดังฝีเท้าเอกอุที่ยังคงค้าแข้งอยู่ในปัจจุบัน ประกอบไปด้วย ดาวิด อลาบา แบ็คซ้ายที่ถูกขยับเข้าไปเป็นเซนเตอร์แบ็คจาก บาเยิร์น มิวนิค, โทนี่ โครส กองกลางเชิงสูงชุดแชมป์โลกปี 2014 จาก เรอัล มาดริด และ โธมัส มุลเลอร์ ตัวรุกสาระพัดประโยชน์จาก บาเยิร์น มิวนิค…นอกจากนี้ อันเจโล่ สติลเลอร์ กองกลางตัวรับดาวรุ่งวัย 19 ปีก็พร้อมที่จะทะลุขึ้นมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในเร็ววันนี้ หลังจากตกเป็นเป้าหมายของ อาร์เซน่อล ที่ต้องการดึงตัวไปร่วมทีม


Sportpark De Toekomst – อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม

ศูนย์ฝึกแห่งนี้ “ยืนหนึ่ง” ในเรื่องของการปั้นนักเตะเยาวชนก้าวขึ้นไปเป็นดาวเตะชั้นนำให้กับทีมชาติฮอลแลนด์มาตลอดหลายยุคหลายสมัย ใช้แนวทางที่มีชื่อว่า TIPS Model ที่ย่อมาจาก Technique, Insight, Personality และ Speed ภายใต้ระบบการเล่น 4-3-3 อันเป็นที่โด่งดัง และ นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคนี้…ซึ่งดาวเตะวัยเยาว์จะถูกเน้นในการฝึก 8 ทักษะหลักๆ คือ การฝึกสอนแบบรวมกลุ่ม, การเตะ การยิง การทุ่มบอล, การเคลื่อนที่เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้, การโหม่ง, การทำประตู, ตำแหน่งการเล่น, การคุมพื้นที่, และ การแบ่งข้างเล่นแบบสนามเล็ก ทุกการฝึกที่ถูกกล่าวมานั้นมาจาก Total Football อันเป็นศาสตร์ที่สโมสรคิดค้นแนวทางขึ้นมานั่นเอง โดยการคัดเลือกนักเตะที่จะเข้ามาฝึกนั้นมาจาก เปิดรับสมัครคัดตัว และ รายชื่อจากแมวมองชองสโมสร หลังจากนั้นก็จะถูกแบ่งตามอายุ และฝึกด้วยโค้ชที่ส่วนมากจะเป็นนักเตะชื่อดังในยุคก่อนของทีมที่มีจำนวนราว 13 คนด้วยกัน…สำหรับนักเตะระดับตำนานที่เป็นลูกหม้อจากที่นี่นั้นก็มี โยฮัน ครัฟฟ์, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด และ มาร์โก ฟาน บาสเท่น ที่ล้วนต่างเป็นยอดนักเตะของขุนพลอัศวินสีส้ม…แต่กลุ่มนักเตะเยาวชนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคงไม่พ้น เอ็ดก้าร์ ดาวิดส์, เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ และ พาทริค ไคลเวิร์ต ที่เป็นตัวหลักในฤดูกาล 1994-1995 พาทีมคว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย และ คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมปเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างเต็มภาคภูมิ…ด้านนักเตะชื่อดังที่ยังเล่นอยู่ในปัจจุบัน และเป็นผลงานจากอะคาเดมี่แห่งนี้ก็มี มัทไธส์ เดอ ลิกท์ กองหลังเจ้าของรางวัล Golden Boy สองสมัยจาก ยูเวนตุส, แฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางจอมขยันของ บาร์เซโลน่า และ ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค เพลย์เมคเกอร์เนื้อหอมจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม…นอกจากนี้ ไรอัน กราเวนเบิร์ช กองกลางเจ้าของสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่ก็กำลังถูกจับตามองจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโปร ซึ่งมีคนนำสไตล์การเล่นของเขาไปเปรียบเทียบกับ ปอล ป็อกบา เลยทีเดียว

Manchester United F.C. Reserves and Academy – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ศูนย์ฝึกแห่งนี้เป็นอะคาเดมี่ที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในเกาะอังกฤษ สามารถครองแชมป์ FA Youth Cup ได้มากที่สุดถึง 10 สมัย จากการเข้าชิง 14 ครั้ง…ซึ่งปรากฏการณ์ที่สำคัญที่สุดของศูนย์ฝึกแห่งนี้ คือ The Class of ’92 หรืออีกนามหนึ่งว่า Fergie’s Fledgling (เหล่าลูกนกของเฟอร์กูสัน) ที่เป็นกลุ่มเด็กปั้นของสโมสรที่สามารถคว้าแชมป์ FA Youth Cup 1992 แล้วก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมชุดใหญ่ ประกอบไปด้วย ไรอัน กิ๊กส์, นิคกี้ บัตต์, แกรี่ เนวิลล์, เดวิด เบ็คแฮม และ พอล สโคลส์ ที่สามารถต่อยอดความสำเร็จด้วยการเป็นขุนพลตัวหลักในการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในยุค 90s โดยสามารถตอกหน้า อลัน แฮนเซ่น นักวิจารณ์ชื่อดังที่เป็นอดีตนักเตะเก่าของ ลิเวอร์พูล ที่พ่นวลีว่า You Can’t win anything with kids. ได้อย่างอยู่หมัดด้วยการคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 1995-1996 ได้อย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งในแต่ละปีจะมีการดันผู้เล่นลูกหม้อขึ้นไปสัมผัสเกมในทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง…สำหรับนักเตะระดับตำนานที่ก้าวมาจากศูนย์ฝึกแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้น จอร์จ เบสต์ ปีกเพลย์บอยลีลาเร้าใจ และ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ดาวเตะชุมแชมป์โลกครั้งแรกของทีมชาติอังกฤษ…ส่วนว่าที่ซูเปอร์สตาร์คนต่อไปต้องยกให้ เมสัน กรีนวู้ด ดาวยิงวัยแค่ 18 ปีที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับทีมชุดใหญ่ในปีนี้ และอาจนับรวมไปถึง ดีน เฮนเดอร์สัน นายประตูที่ถูกเสนอชื่อเป็นมือหนึ่งของทีมชาติอังกฤษอยู่ในตอนนี้


La Masia de Can Planes – บาร์เซโลน่า

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ลา มาเซีย เป็นศูนย์ฝึกเยาวชนที่โด่งดังที่สุดในปัจจุบัน ด้วยการลงทุนแบบมหาศาลถึง 5 ล้านปอนด์ต่อปีเพื่อเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพิ่งจะมีการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ทั้งหมดในปี 2011…โดยศูนย์ฝึกแห่งนี้เปิดให้เยาวชนเข้าทดสอบคัดเลือกตั้งแต่ 6-8 ขวบในแต่ละปี และคัดเอาเพียงแค่ 200 คนที่มีแววดีที่สุดเท่านั้นที่ได้ไปต่อ โดยที่โค้ชที่จะผ่านการคัดเลือกเข้ามาทำหน้าที่ในศูนย์ฝึกแห่งนี้ได้ต้องผ่านการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาแล้วทุกคน หลังจากนั้นก็จะมีการนำโปรแกรมฝึกที่หลายสื่ออ้างว่าเป็นแนวทางเดียวกับ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่ถูกปรับปรุงให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นมาใช้พัฒนาเยาวชนนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมามีนักเตะจากที่นี่ราว 40 รายขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่า อย่างเป็นทางการแล้ว…อย่างไรก็ตามแต่ละขั้นตอนกว่าจะขึ้นชั้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้นั้นส่วนมากต้องผ่านทีมในระดับเยาวชนหลายขั้นจนมาถึง บาร์เซโลน่า เบ ที่อยู่ในศึก เซกุนด้า สเปน และทำผลงานได้น่าจับตามองก่อนเป็นอันดับแรก…โดยที่ผลผลิตที่น่าทึ่งของศูนย์ฝึกแห่งนี้ คือ ชาบี้, อันเดรส อินิเอสต้า และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่สร้างประวัติศาสตร์มีชื่อเข้าชิงรางวัล บัลลงดอร์ พร้อมกันทั้งสามคน…ทางด้านเทรนเนอร์ระดับท็อปของโลกในปัจจุบันอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็เป็นลูกหม้อของที่นี่เช่นกัน แถมทีมชาติสเปนชุดครองความยิ่งใหญ่ที่ได้แชมป์ ยูโร 2008 กับ 2012 และ แชมป์โลกปี 2010 ก็มีนักเตะลูกหม้อจาก ลา มาเซีย เป็นแกนหลักหลายคน อาทิ เช่น การ์เลส ปูโยล, เกราร์ด ปิเก้, จอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี้ เอร์นานเดซ, อันเดรส อินิเอสต้า และ เปโดร ซึ่งเกือบครึ่งจากรายชื่อที่กล่าวมาก็สามารถคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อีกด้วย…สำหรับนักเตะที่สร้างชื่อเสียงให้กับศูนย์ฝึกแห่งนี้มากที่สุดคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวเตะชาวอาร์เจนติน่าที่เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกการันตีด้วยรางวัล บัลลงดอร์ 6 สมัย…ด้านวันเดอร์คิดคนต่อไปที่น่าจับตามอง และ น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ในอนาคตคงจะเป็น อันซู ฟาติ แนวรุกวัยแค่ 17 ปีที่ก้าวขึ้นมาเล่นให้กับบาร์เซโลน่า ชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.givemesport.com

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top