อัลล็อง แซงต์ มักซิแม็ง ปีกจอมเลื้อยแห่งทัพ “สาลิกาดง”

อัลลัน แซงต์ มักซิแม็ง ปีกชาวฝรั่งเศส ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังมีความสุขอย่างมากกับชีวิตในถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ค หลังย้ายมาจาก นีซ ในลีกเอิง ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะช่วย “สาลิกาดง” ทำศึกในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ หลังจากที่สถานกาณ์ไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่ลาย และฟุตบอลกลับมาเตะกันอีกครั้ง

มักซิแม็ง เริ่มอธิบายว่า “ผมเริ่มเล่นฟุตบอลคนเดียวในบ้านของผม นั่นคือเหตุการณ์ที่ พ่อ-แม่ของผมรู้เลยว่า ผมรักฟุตบอลมาก ผมเอาลูกบอลไปด้วยทุกที่ และผมก็เลี้ยงลูกบอลไปทุกๆที่ แม้กระทั่งตอนที่ผมไปโบสถ์เองก็ตาม ผมก็จะไปกับลูกบอลของผม ในตอนนั้นมันมีแต่ผมกับลูกบอลจริงๆ”

ในเวลานี้ เชื่อได้ว่า แฟนบอล นิวคาสเซิล คงไม่ประหลาดใจนักกับสไตล์การเล่นของ มักซิแม็ง หากมองจากคำสัมภาษณ์เกี่ยวกับความทรงจำในวัยเด็กของเขาที่มีลูกฟุตบอลติดตัวไปด้วยทุกที่ โดยดาวเตะวัย 23 ปี มักถูกพูดถึงในฐานะนักฟุตบอลชายเดี่ยวที่ชอบเลี้ยงบอลไว้กับตัวเอง

Photo : skysports.com

มักซิแม็ง  ถือเป็นนักฟุตบอลที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างมากในสนาม และในอดีตนั้น นิวคาสเซิล ก็มีผู้เล่นชาวฝรั่งเศสมากพรสวรรค์แวะเวียนเข้ามาสร้างความสุขให้กับพวกเขาอย่างไม่ขาดสายไล่ตั้งแต่ ดาวิด ชิโนล่า, โลรองต์ โรแบร์ มาจนถึง ฮาเต็ม เบน อาร์ก ฟา

ขณะเดียวกัน มันเป็นโอกาสดีของ นิวคาสเซิล ที่จะกลายเป็นทีมระดับท็อปหากกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบียสามารถเทคโอเวอร์สโมสรได้สำเร็จ แต่ความสุขที่แท้จริงสำหรับ มักซิแม็ง คือ สิ่งที่อยู่ภายในใจหลังจากที่เขาเคยมอบเสื้อให้แฟนบอลตัวน้อยรายหนึ่งของ “สาลิกาดง” และสาวกรายนั้น ก็ใส่เสื้อของเขามานั่งเชียร์ที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค

มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า “เด็กคนนั้นร้องไห้ด้วยความดีใจ นั่นคือ เหตุผลที่ผมรู้สึกว่า ผมหลงรัก นิวคาสเซิล ไปแล้ว เพราะแฟน ๆ ชื่นชอบการเล่นของผม นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม คุณรู้ได้ว่า มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมสนุกกับการเล่นฟุตบอลที่นี่ และผมรู้ว่าผมสามารถโชว์ฟอร์มให้ดีขึ้นได้เช่นกัน”

แน่นอนว่า จะมีเสียงเชียร์ดังกึกก้องไปทั่วสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค เมื่อ มักซิแม็ง มีบอลอยู่ที่เท้าของเขา และกำลังลากบอลไปเผชิญหน้ากับคู่แข่ง ซึ่งมิดฟิลด์เฟรนช์แมน สามรถสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอล “เดอะ แม็กพายส์” ได้อยู่เสมอ

มักซิแม็ง กล่าวว่า “พูดตามตรงมันยอดเยี่ยมจริง ๆ สำหรับผม เพราะแฟน ๆ มีความสำคัญต่อเรามาก คุณรู้ไหมว่า เราชนะในบ้านได้หลายเกมเลย และทุกคนรู้ว่า เมื่อคุณเล่นที่บ้านมันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างออกไป แต่ตอนนี้มันเริ่มยากมากขึ้นแล้ว แต่ผมชอบเล่นในสไตล์แบบนี้มากกว่าที่จะไม่ได้เล่นอะไรเลย”

Photo : theguardian.com

ขณะเดียวกัน สไตล์การเล่นของ มักซิแม็ง ก็อาจสร้างความไม่พอใจกับแฟนบอลจำนวนหนึ่งที่ต้องการให้เขาเล่นเป็นทีมเวิร์คด้วยการส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นมากกว่านี้ แต่การเลี้ยงบอลมันเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาไปแล้ว

มักซิแม็ง เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้สำเร็จถึง 5.66 ครั้ง ต่อเกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยเป็นรองแค่ อดาม่า ตราโอเล่ ปีกชาวสเปนของ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งมีสถิติอยู่ที่ 6.25 ครั้งต่อเกม

เสียงวิพาก์วิจารณ์ที่มักจะตามมาจากสไตล์การเล่นของ แม็กซิแม็ง ก็คือ การตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่ดีพอ แต่ตอนนี้ มิดฟิลด์เฟรนช์แมน กำลังปรับปรุงตัวเองด้วยการใช้ประสบการณ์ที่เคยค้าแข้งกับ 4 ทีมในลีกเอิง อย่าง แซงต์ เอเตียน, โมนาโก, บาสเตีย, นีซ รวมถึงการโยกไปเล่นในบุนเดสลีกา เยอรมัน กับ ฮันโนเวอร์ 96

มักซิแม็ง เล่าต่อว่า “ผมต้องอยู่ไกลจากครอบครัว และเพื่อน ๆ ของผมในปารีส แต่นั่นก็ดีกว่าสำหรับการเล่นฟุตบอลของผม”

มักซิแม็ง เริ่มต้นค้าแข้งกับ แซงต์ เอเตียน ในปี 2013 ก่อนจะย้ายไปยัง โมนาโก เมื่อปี 2015 แต่เขามีปัญหาเล็กน้อยกับเทรนเนอร์ ลูเซียง ฟาฟร์ จึงทำให้ถูกส่งให้กับ ฮันโนเวอร์ และ บาสเตีย ยืมตัวไปใช้งานตามลำดับ จากนั้น ในปี 2018 ปาทริค วิเอร่า กุนซือ นีซ จึงคว้าตัวเขามาร่วมทีม  

Photo : newsbreak.com

อย่างไรก็ตาม กับ นิวคาสเซิล มันแตกต่างออกไป ซึ่งทักษะการบริหารจัดการทีมของ สตีฟ บรูซ กุนซือ “สาลิกาดง” สามารถช่วยกระตุ้นบางสิ่งบางอย่างจาก มักซิแม็ง ได้ และตอนนี้ แข้งชาวฝรั่งเศส เตะที่เริ่มทำได้ดีขึ้นในจังหวะต่างๆ

ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ อดีตปีก นีซ เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้สำเร็จไปแล้ว 80 ครั้ง แต่เขายิงประตูได้เพียง 3 ลูก และทำไปเพียง 1 แอสซิสต์เท่านั้น ซึ่งสำหรับ มักซิแม็ง มันกลายเป็นคำถามที่คุ้นเคย แต่เขาก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อไป

“ผมต้องการทำประตู และทำแอสซิสต์ แต่บางครั้งคุณสามารถผ่านบอลธรรมดาๆก่อนถึงจะทำแอสซิสต์ได้ ซึ่งการผ่านบอลโดยปกติก็สำคัญมากสำหรับการทำประตู ผมคิดแบบนี้เสมอ ผมสามารถเลี้ยงบอลโดยคู่แข่ง 4 คน จะเข้ามารุมผมแล้วผมจะปล่อยบอลออกไป และมันง่ายกว่าสำหรับเพื่อนร่วมทีมของผมที่จะทำประตู ผมมีความสุขมากเมื่อทำแบบนั้นได้” มักซิแม็งกล่าว

แน่นอนว่า มักซิแม็ง พูดถูก ประตูชัยที่ แมตตี้ ลองสต๊าฟฟ์ กองกลางดาวรุ่ง ซัดให้ นิวคาสเซิล เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ในเกมลีกเมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมานั้น ก็เริ่มต้นจาก มักซิแม็ง ที่เลี้ยงบอลฝ่ากลุ่มนักเตะ “ปีศาจแดง” ก่อนจะผ่านบอลให้ เจโทร วิลเลี่ยมส์ แบ็คซ้ายชาวดัตช์ แอสซิสต์ให้กับ ลองสต๊าฟฟ์ ยิงเสียบเสาไกลจากนอกกรอบเขตโทษ

มักซิแม็ง ต้องการโชว์ฟอร์มให้ดีขึ้นกว่าเดิม เขาอยากยิงประตูให้มากขึ้น แอสซิสต์ให้มากขึ้น แต่เขาก็รู้ดีว่า พรีเมียร์ลีกเป็นการแข่งขันที่ยาก และสไตล์การเล่นปัจจุบันของ นิวคาสเซิล ก็ไม่ได้เป็นทีมที่เปิดเกรุกเต็มสูบที่จะมีโอกาสลุ้นสกอร์อยู่บ่อยๆ แต่เขาก็จะพยายามอย่างเต็มที่

Photo : sportsloveme.com

ตัวรุก “สาลิกาดง” กล่าวว่า “แน่นอนผมต้องการปรับปรุงการจบสกอร์ของผมให้ดีขึ้น แต่ผมคิดว่าทุกคนรู้ดีว่าบางครั้งเมื่อคุณไม่มีโอกาสมากมายนักในเกมมันก็เป็นเรื่องยาก ยกตัวอย่างในเกมเอฟเอ คัพ กับ อ๊อกฟอร์ด ถ้าพวกคุณจำได้ ผมมีโอกาส 6-7 ครั้ง ซึ่งมันง่ายกว่าการเจอทีมในพรีเมียร์ลีก”

“แต่บางครั้งในเกมพรีเมียร์ลีกผมจะมีโอกาสเพียง 1-2 ครั้ง ซึ่งมันยากมากๆ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องทำงานต่อไป และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะแต่ละเกมนั้นยากมาก บางครั้งเราเล่นได้ดีมาก แต่มีเกมอื่น ๆ ที่เราเล่นไม่ดีพอ และเมื่อคุณเล่นได้แย่ คุณก็แทบไม่มีโอกาสทำประตู”

“ คุณต้องวิ่งให้มากขึ้น และทำงานหนัก แต่มันก็ยากสำหรับทุกคนแม้แต่ มิเคล อัลมิร่อน และ  โจเอลลิงตัน เองก็ตาม มันยากสำหรับพวกเขาเช่นกัน นั่นคือ เหตุผลที่ผมพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมของผม ผมจะมีความสุขมากเมื่อช่วยให้พวกเขาทำแอสซิสต์ หรือทำประตู เพราะนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม”

“ผมรู้ว่ามันสำคัญมากที่ต้องทำประตู นั่นคือ เหตุผลหลักที่ผมต้องปรับปรุงตัวเอง และยิงประตูให้ได้เพื่อตัวผมเอง และเพื่อทีม แต่ผมไม่ได้หมกมุ่นมากกับมันมากจนเกินไป ซึ่งความต้องการของผมคือ ผมไม่ต้องยิงประตู แต่เราชนะ 1-0 มากกว่าที่ผมยิงประตูแต่เราแพ้ 1-3 ผมแค่ต้องการช่วยเพื่อนร่วมทีมของผม และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ชัยชนะ”

“เราต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ แม้เราจะมี 38 คะแนนแล้ว แต่เรายังสามารถเก็บแต้มได้มากกว่านี้อีก พรีเมียร์ลีกเป็นลีกดีที่สุดในโลก ดังนั้น คุณต้องปรับปรุง และทำงานหนักต่อไปเพื่อให้สามารถลงเล่นในลีกแห่งนี้ได้ ในตอนนี้ผมรู้สึกดีมาก และรู้สึกว่าผมสามารถแสดงสิ่งที่ตัวเองทำได้ให้ทุกคนได้เห็นแล้ว”

มักซิแม็ง พูดด้วยความหลงใหลในฟุตบอลอย่างแท้จริง นักเตะที่พร้อมทำเพื่อทีม และแฟมิลี่แมนที่อบอุ่นกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวเล็กๆของเขาที่มีภรรยากับลูกอีก 3 คน ในนิวคาสเซิล โดยในช่วงพักเบรกที่ผ่านมา ปีกชาวฝรั่งเศส มีเวลาว่างมากขึ้น และได้กลับไปอยู่กับสิ่งที่เขารักตั้งแต่เด็กนั่นคือ ลูกฟุตบอล

“ผมรู้สึกสบายมากในการกลับมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมอีกครั้ง เพราะผมโชคดีที่ได้มีบ้านที่ดีพร้อมสวนหลังบ้านที่ผมได้เล่น และทำสิ่งต่าง ๆ มากมายกับลูกฟุตบอล” มักซิแม็ง กล่าวทิ้งท้าย

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top