ในวัย 13 ปี ยูสซูฟา มูโกโก้ กองหน้าดาวรุ่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดส ลีกา เยอรมัน เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “เป้าหมายของผมคือ การเป็นนักเตะอาชีพกับ ดอร์ทมุนด์ คว้าถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กับสโมสร และคว้าบัลลงดอร์”
จากคำสัมภาษณ์ดังกล่าวของ มูโกโก้ หลายคนมองว่า อาจเป็นคำพูดที่ไร้สาระของเด็กน้อย หรืออาจจะเป็นความมั่นใจเกินเหตุ แต่ตอนนี้ ในวัยเพียง 16 ปี มูโกโก้ แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ความฝันของเขาอาจจะเป็นจริงในอนาคต
มูโกโก้ ที่เพิ่งอายุครบ 16 ปี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น สร้างความฮืฮฮาให้กับวงการฟุตบอลยุโรปมานานแล้ว หลังจากทำผลงานระเบิดสกอร์ไปถึง 144 ประตู จาก 88 เกมรวมทุกรายการให้กับ ดอร์ทมุนด์ ชุดเยาวชนนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจใส่ชื่อ มูโกโก้ เข้าร่วมทีมชุดใหญ่ของสโมสรอย่างเป็นทางการ ทั้งที่รู้ว่า ต้องรอเวลาอีกหลายเดือนกว่าเขาจะมีสิทธิลงสนามในศึกบุนเดสลีกาได้ เนื่องจากลีกสูงสุดเยอรมันระบุไว้ว่า นักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามได้คือ 16 ปี
ในที่สุด เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเกมลีกที่ ดอร์ทมุนด์ บุกไปเอาชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 5-2 นั้น มูโกโก้ ก็ได้ลงสนามอย่างเป็นทางการหลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าชาวนอร์เวย์ ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย พร้อมกับได้รับบันทึกสถิติว่า เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นบุนเดสลีกา
ยูสซูฟา มูโกโก้ คือใคร ?
มูโกโก้ เกิดที่เมืองยาอุนเด ประเทศแคเมอรูน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 2004 เขาเติบโตมากับครอบครัวที่รักกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ และในวัย 10 ขบ เขาก็ย้ายมาอยู่ในเยอรมันกับคุณพ่อ พร้อมกับเข้าร่วมทีมเยาวชนของ ซังค์ เปาลี ในระดับดิวิชั่น 2
มูโกโก้ เข้าร่วมการฝึกซ้อมครั้งแรกด้วยรองเท้าวิ่ง เนื่องจากเขาไม่คุ้นเคยกับการใส่รองเท้าสตั๊ดเหมือนกับคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคในการแสดงพรสวรรค์ของเขาออกมา
กุยโด สเตริชส์เบียร์ โค้ชทีมชาติเยอรมันชุดอายุต่ำกว่า 20 ปี เริ่มเล่าว่า “เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ และตัดสินใจในจังหวะสำคัญได้อย่างน่าประทับใจ ผมเชื่อว่า ยูซูฟา มีไอคิวฟุตบอลในการหาช่องว่างยอดเยี่ยมมาก เขาหลีกเลี่ยงการปะทะกับกองหลังที่มีประสบการณ์มากกว่า ซึ่งมันสำคัญมากๆ เขามักจะหาพื้นที่ในการเล่นเพื่อไม่ต้องเผชิญกับการต่อสู้ทางกายภาพ”
ลูเซียน ฟาร์ฟ เทรนเนอร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ของ ดอร์ทมุนด์ กล่าวเสริมว่า “คุณไม่รู้เลยว่า เขาถนัดเท้าไหนกันปน่ เขาเล่นได้ดีทั้งเท้าซ้าย และขวา เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพมาก”
โด่งดังตั้งแต่เด็ก
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทชุดกีฬา “ไนกี้” ได้เซ็นสัญญากับ มูโกโก้ ในข้อตกลงระยะยาว ซึ่งทำให้หลายคนจับตามองเขาอย่างใกล้ชิด จึงทำให้ทาง ดอร์ทมุนด์ และสมาคมฟุตบอลของเยอรมันเลือกที่จะค่อยๆพัฒนาเขาเพื่อไม่ให้เผชิญความกดดันมากจนเกินไป
ไมเคิล ชอนวิตช์ กุนซือทีมชาติเยอรมันชุดเยาวชน อธิบายว่า “หลังจากเกมระดับนานาชาติครั้งแรกของ ยูสซูฟา กับทีมชุดอายุต่ำกว่า 16 ปี เมื่อปี 2017 เขาได้รับติดต่อจากบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการโฆษณา เราจึงปรึกษากับ ดอร์ทมุนด์ เพื่อทำให้เขาค่อยๆก้าวไปทีละขั้น”
ขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลของเยอรมันไม่ได้เลือกใช้งาน มูโกโก้ กับทีมชุดอายุต่ำกว่า 16 ปี อีกต่อไปแล้ว พร้อมกับดันให้เขาขึ้นสู่ทีมชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี แทน โดย สเตฟาน คุนต์ซ กุนซือทีมชาติเยอรมันชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี กล่าวว่า “การโฆษณาไม่ได้สร้างความพึงพอใจให้กับใครทั้งนั้น มันเป็นเรื่องยุ่งยากเสมอ”
ได้รับประสบการณ์โดยตรง
มูโกโก้ ได้รับประสบการณ์มากมายกับผู้คนรอบตัวเขา และหนึ่งในที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของ มูโกโก้ ที่ ดอร์มุนด์ คือ อ็อตโต้ แอดโด้ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ในอดีตเคยได้รับการยกย่องว่า เป็นกองกลางมากพรสวรรค์ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และต้นยุค 2000 ของ “เสือเหลือง” แต่กลับมีเส้นทางอาชีพที่ไม่สวยงามนัก เนื่องจากได้รับบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า
นอกจากนี้ ยังมี ลาร์ส ริกเค่น หัวหน้าสถาบันเยาวชนของ ดอร์ทมุนด์ ที่เคยเป็นอดีตมิดฟิลด์ดาวรุ่งมากพรสวรรค์ของสโมสร และได้รับการคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นแข้งระดับท็อป แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนัก เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ
ริกเค่น กล่าวถึง มูโกโก้ ว่า “เราไม่จำเป็นต้องยัดเยียดความกดดันให้เขามากไปกว่านี้” ส่วน นูริ ซาฮิน อดีตกองกลาง ดอร์ทมุนด์ ซึ่งเคยทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับสโมสร กล่าวว่า “มูโกโก้ มีเส้นทางที่สดใสรออยู่”
รับมือกับความกดดัน
มูโกโก้ เริ่มเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ ชุดอายุต่ำกว่า 16 ปี เมื่อเขาอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น และเจ้าตัวก็แสดงให้เห็นว่า มีฝีเท้ายอดเยี่ยมเพียงใดแม้จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่มีอายุมากกว่าก็ตาม ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนเริ่มตั้งคำถามว่า เขาอายุ 12 ปีจริงหรือไม่
พ่อของ มูโกโก้ ต้องแสดงสูติบัตรที่ออกโดยสถานกงสุลเยอรมันในเมืองยาอุนเด ประเทศแคเมอรูน แต่ยังคงมีข้อสงสัยตามมา โดย มูโกโก้ อธิบายว่า “มันยากที่จะจัดการกับเรื่องราวทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ความผิดของผมเลยที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี”
ไมเคิล ไฟเทนไบเนอร์ อดีตโค้ชทีมชาติเยอรมันชุดต่ำกว่า 16 ปี กล่าวว่า “เขาถูกท้าทายทางจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆ ความโกรธแค้นเกี่ยวกับตัวเขานั้นรุนแรงมาก และการคาดเดาของสาธารณชนเกี่ยวกับอายุของเขามักจะผลักดันให้ไม่เห็นคุณค่าศักยภาพที่แท้จริงของเขาในสนาม”
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มูโกโก้ ระเบิดฟอร์มซัดแฮตทริคในเกมดาร์บี้ แมตช์ ดอร์ทมุนด์ กับ ชาลเก้อายุต่ำกว่า 19 ปี โดยแฟนบอล ชาลเก้ บางส่วนที่เข้าไปดูในสนามต่างตะโกนด้วยความหวาดกลัวว่า “ระวัง มูโกโก้ จะหักกระดูกนาย” และ “มูโกโก้ จะทำให้นายบาดเจ็บ”
คลิปดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วบนโลกออนไลน์ แต่ มูโกโก้ ก็รับมือโดยระบุบนอินสตาแกรมว่า “ผมจะทำแบบนี้ต่อไป นั่นคือความหลงใหลของผม นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข พวกคุณเกลียด และใส่ร้ายผมได้ แต่คุณไม่มีทางฉุดรั้งผมไว้ได้”
เก่งกว่า ฮาแลนด์ ในวัยเดียวกัน
ริกเค่น กล่าวต่อว่า “เขาเป็นนักเตะที่มีสมาธิมาก ผมแทบไม่เคยเห็นนักเตะดาวรุ่งมุ่งมั่นในการฝึกซ้อม และทุ่มเทในการแข่งขันเท่าเขาอีกแล้ว”
สตาฟฟ์โค้ช ดอร์ทมุนด์ เชื่อว่า การที่ มูโกโก้ ได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่นั้น ไม่เพียงเพราะความสามารถของเขา แต่มันยังเป็นเรื่องทัศนคติในการทำงานหนัก และความตั้งใจในสนามซ้อมของเขาด้วยเช่นกัน
ฮาแลนด์ ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของ มูโกโก้ กล่าวว่า “มูโกโก้ เก่งกว่าผมมากตอนอายุเท่ากัน ผมไม่เคยเห็นเด็กอายุ 16 ปีที่เก่งแบบนี้มาก่อนเลย”
ดอร์ทมุนด์ รู้ดีว่า พวกเขามีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือแล้ว และกระแสของ มูโกโก้ จะเริ่มแรงขึ้นหลังได้ลงประเดิมสนามในวัยเพียง 16 ปี อย่างไรก็ตาม มูโกโก้ พิสูจน์แล้วว่า เขาสามารถรับมือกับแรงกดดันจากภายนอกได้ และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เขารักมากที่สุดนั่นคือ การเล่นฟุตบอล และการทำประตู