บทวิเคราะห์ฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2020/2021 เกมการแข่งขันคู่นัดปิดท้ายของสัปดาห์ที่ 25 เป็นการปะทะแข้งกันระหว่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ทีมรองจ่าฝูงของตารางคะแนน เปิดรังเหย้าสำรอง เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ต้อนรับการมาเยือนของ “ลา เรอัล” เรอัล โซเซียดาด ทีมอันดับที่ 5 ของตารางในปัจจุบัน โดยทั้งสองทีมจะลงสนามประลองฝีเท้ากันในช่วงดึกสุดของคืนวันจันทร์ที่ 1 มีนาคม เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือเข้าสู้ช่วงเช้ามืดของวันอังคารที่ 2 มีนาคม ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน
“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เจ้าบ้านในเกมนี้ สถานการณ์ปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นเริ่มดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้วเมื่อบรรดาแข้งตัวหลักบางคนมีลุ้นกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ ทำให้ผู้เล่นที่จะหมดโอกาสลงสนามในเกมนี้มีแน่นอนไม่กี่คนเท่านั้นคือ โรดรีโก้, ดาเนียล การ์บาฆัล และ เซร์คิโอ รามอส ส่วนที่เหลือทั้ง คาริม เบนเซม่า, เอแดน ฮาซาร์, มาร์เซโล่, เอแดร์ มิลิเตา, อัลบาโร โอดริโอโซล่า และ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ล้วนมีลุ้นกลับมาลงสนามช่วยทีมได้เพียงแต่ต้องไปเช็คว่าจะผ่านตวามฟิตหรือไม่เท่านั้น ส่วนฟอร์มการเล่นของทีมแม้จะต้องเจอกับปัญหาขาดผู้เล่นตัวหลักแต่กลับเล่นได้อย่างร้อนแรงต่อเนื่องคว้าชัยชนะมาครองได้ 5 เกมติดต่อกันแล้วรวมทุกรายการที่ลงสนาม ล่าสุดลงเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรก เริ่มต้นได้อย่างงดงามด้วยการบุกไปเชือด “เทพธิดา“ อตาลันต้า ทีมสุดแกร่งจากอิตาลี 1-0 โดยที่ต้องบอกว่าโชคช่วยนิดๆ เมื่อคู่แข่งเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกและมาได้ประตูจากลูกยิงแบบผีจับยัดในช่วงท้ายเกม ส่วนสถานการณ์ของทัพราชันในลีกเริ่มมีความหวังที่จะได้ลุ้นป้องกันแชมป์แล้วเมื่อช่วงที่พวกเขาเก็บชัยได้รัวๆ ทีมนำอย่าง แอตเลติโก มาดริด มาหกล้มหัวคะมำทำแต้มหล่นหายไปถึง 3 เกม ทำให้ขณะนี้มีคะแนนตามหลังทีมจ่าฝูงของลีกเพียง 3 คะแนน โดยพวกเขาก็ยังลงเล่นมากกว่า 1 เกมเช่นกัน แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากจากก่อนหน้านี้ที่ตามหลังห่างไกลถึง 10 แต้มเลยทีเดียว
ด้านผู้มาเยือน “ลา เรอัล” เรอัล โซเซียดาด เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างร้อนแรงด้วยการขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงของลีกอยู่หลายสัปดาห์ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับสู่โลกแห่งความจริง ทีมทำผลงานดรอปลงมาเรื่อยๆ ทำให้ ณ เวลานี้หล่นลงมารั้งอยู่อันดับที่ 5 ของลีก ในรายการยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ก็ตกรอบน็อคเอาท์ เมื่อต้านความแกร่งของ “ปีศาจแดง” แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ไหวแพ้ไปด้วยสกอร์รวม 4-0 โดยเกมเลกสองที่เจอหน้ากันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาจบลงด้วยการเจ๊ากัน 0-0 ด้านผลงานในลีกช่วงหลังเริ่มกลับเข้าสู่ฟอร์มเก่งได้อีกครั้งไม่แพ้ใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้วทำผลงานชนะ 3 และเสมอ 2 นัดล่าสุดที่ลงสนามในลีกคือเกมที่เปิดบ้านไล่ยิงถล่มเอาชนะ เดปอร์ติโบ อลาเบส ขาดลอย 4-0 ทำให้โอกาสที่จะได้ไปแก้ตัวในรายการยุโรปใหม่ปีหน้ายังคงเปิดกว้างอยู่ สำหรับสภาพความพร้อมของตัวผู้เล่นล่าสุดมีรายงานู้เล่นลงสนามไม่ได้แน่นอน 4 รายคือ ลูก้า ซานกัลลี่, มิเกล อังเคล โมย่า และ โฆเซบา ซัลดูอา ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ส่วนทาง มิเคล เมริโน่ ต้องชดใช้โทษแบน
วิเคราะห์ก่อนเกม ทั้งสองทีมต่างกำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะในลีกที่ต่างต้องการ 3 คะแนนเพื่อรักษาเป้าหมายของทีมเอาไว้ให้ได้ ทางเจ้าบ้านเกมนี้แม้จะมีผู้เล่นรายคนที่เริ่มกลับมาลงสนามได้แต่ยังมองว่า ซีดาน จะไม่เลือกเสี่ยงมากนักคนไหนที่ยังไม่ชัวร์อาจจะไม่ลงสนามช่วยทีม แต่สิ่งที่น่าเแปลกใจมากเลยคือแนวรับของทีมที่ไม่มีกัปตันรามอสกลับเหนียวแน่นขึ้นมาซะอย่างงั้นเก็บคลีนชีทมาได้ 4 เกมติดต่อกันแล้ว แต่เกมรุกของทีมก็ต้องยอมลดความดุดันลงไปทำให้ไม่ได้ยิงใครแบบถล่มทลายเลยในช่วงหลัง ด้านทีมเยือนเกมที่แพ้ให้กับ แมนยู 0-4 เป็นตำหนิเดียวจริงๆ ของทีมในช่วงหลัง ที่เหลือพวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยหากไปดูที่สถิติการยิงประตูและเกมรับแทบไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย เกมนี้จริงมองว่าทั้งสองทีมจะสู้กันได้อย่างสนุก จากคุณภาพโดยรวมของทีมฝ่ายเจ้าบ้านเหนือกว่าเล็กน้อย แต่ทางผู้มาเยือนก็เป็นทีมที่เล่นได้แบบไม่กลัวใครถือว่าสดพอตัวทำให้ทั้งสองทีมต่างต้องระวัดระวังตัวเป็นพิเศษ โดยแนวทางการเล่นของทั้งคู่ก็คล้ายคลึงกันมากเป็นทีมที่เล่นเกมโต้กลับเร็วได้ดี แต่สิ่งที่ชุดขาวมีเพิ่มขึ้นมาจนส่งผลให้ทีมเก็บชัยมาได้ 5 เกมติดคือความรัดกุมที่มากขึ้น เชื่อว่าการไปอุดรอยรั่วในแนวรับจะเป็นกุญแจสำคัญให้เจ้าบ้านเฉือนชนะในเกมนี้ได้ รวมไปถึงที่ทัพราชันได้ขวัญกำลังใจจากคะแนนที่ไล่ตามจ่าฝูงของลีกได้ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นมองว่าเจ้าบ้านจะไม่ยอมให้สิ่งที่พยายามทำมาทั้งหมดไร้ความหมาย เกมนี้โจทย์เดียวจึงต้องเก็บ 3 คะแนนเต็มมาครองให้ได้เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน มาดริด ยังเป็นทีมที่แข็งแกร่งเสมอยามได้ลงเล่นในถิ่นตัวเองจากสถิติ 30 เกมหลังพวกเขาไม่แพ้ให้ใครถึง 27 เกมเลยทีเดียว(ในลีก) ทำให้แม้เกมนี้จะมีโอกาสออกได้หมดทั้งสามหน้าแต่หากให้เลือกผู้ชนะก็ขอหันไปเชียร์ทางเจ้าถิ่นอย่าง เรอัล มาดริด จะดีกว่า
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) – ลูกัส บาสเกซ, ราฟาเอล วาราน, นาโช่, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส – มาร์โก อเซนซิโอ, มาเรียโน่ ดิอาซ, วินิซิอุส จูเนียร์
เรอัล โซเซียดาด (4-3-3) : อเล็กซ์ เรมิโร่ (GK) – อันโดนี่ โกโรซาเบล, อิกอร์ ซูเบลเดีย, โรแบง เลอ นอร์มังด์, นาโช่ มอนเรอัล – ดาบิด ซิลบา, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, มิเคล เมริโน่ – อั๊ดนาน ยานาไซ, อเล็กซานเดอร์ อิซาค, มิเกล โอยาร์ซาบัล
ผลสกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด 1 – 0 เรอัล โซเซียดาด