บทวิเคราะห์ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 เกมนัดกลางสัปดาห์คู่เปิดหัววันอังคาร เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่างทีมอันดับที่ 10 “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดสนาม สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต้อนรับการมาเยือนของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ทีมอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนในขณะนี้ โดยทั้งสองทีมจะลงดวลฝีเท้ากันในช่วงเย็นของวันอังคารที่ 9 มีนาคม เวลา 18.30 น. ณ จังหวัดนครราชสีมา
เจ้าบ้าน “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ลูกทีมของ “โค้ชโจ” ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น สถาปนาตัวเองเป็นบอลเหนียวเคี้ยวยาก เน้นสไตล์ตั้งรับแล้วสวนกลับเอาทุกแต้มไม่ว่าจะหนึ่งหรือลุ้นสาม ปัญหานาทีนี้ที่ต้องเร่งแก้คือแนวรับเริ่มจะมีรูรั่วให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แถมแนวรุกยังออกอาการฝืดบ่อยครั้งในช่วงหลัง ผลงานการลงเล่น 5 นัดหลังสุดในลีกนั้นชนะ 1 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้ 2 นัด คว้าไปเพียง 5 แต้มถือว่าฟอร์มดร็อปลงมาพอสมควร ด้านการลงสนามนัดล่าสุดเป็นเกมลีกนัดสุดสัปดาห์ที่บุกพ่าย “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี แบบน่าเสียดาย 0-1 สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ไร้ที่ติไม่มีตัวเจ็บหรือแบนรบกวนใจแม้แต่รายเดียว เนื่องจากกฏการแบนของไทยลีกไม่นับเหมือนสากลเลยทำให้ผู้เล่นที่โดนไล่ออกในเกมที่แล้วลงสนามได้ปกติ ทุกคนพร้อมลงแก้ตัวล่าชัยในรังเกมนี้ได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย จิดี้ คานยุค เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งที่เป็นหัวใจที่ขาดไม่ได้แล้วในแนวรุกของทีมตอนนี้
ฝั่งทีมเยือน “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เหมือนว่าการมอบงานหินให้โค้ชมือใหม่อย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี้ จะเป็นการเดิมพันที่ถูกของบอร์ดบริหาร เพราะหลังจากเข้ารับตำแหน่งเหมือนมีการปลุกใจให้ผู้เล่นมีคาแรกเตอร์แห่งผู้ชนะ วิ่งสู้ฟัดไม่มีหมดเข้าบอลหนักแน่นทุกการปะทะ แนวรุกบดบี้ขยี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยิงได้ ผลงานการลงสนามในเกมลีก 5 นัดหลังสุดนัันชนะ 3 นัด เสมอ 1 นัดและแพ้ 1 นัด เก็บไปถึง 10 แต้ม ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ ด้านการลงเล่นเกมล่าสุดเป็นบิ๊กแมตช์ที่เปิดรังไล่ตามตีเสมอ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบเต็มไปด้วยเลือดนักสู้ 2-2 สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไร้รายชื่อตัวเจ็บหรือติดโทษแบนให้ต้องตัดออกจากทีมแม้แต่คนเดียว ทุกคนพร้อมบุกแดนอีสานเพื่อลุ้นเก็บชัยได้ทั้งหมด นำทัพมาโดย สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ แบ็คขวาฟอร์มเข้าฝักที่เพิ่งตะบันประตูตีเสมอสุดสวยได้ในเกมที่ผ่านมา
วิเคราะห์ก่อนเกม สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม ปรากฏว่าเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยด้วยผลงานชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้ 1 นัด นับว่าเป็นบอลที่สู้กันได้อย่างสูสีเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเกมนี้เป็นการสู้กันของสองแท็คติกที่ต่างกันแบบสุดขั้ว ทีมเยือนนั้นเน้นการตั้งรับเป็นหลักแล้วรอเล่นงานคู่แข่งจากเกมเคาน์เตอร์แอทแทคที่เป็นไม้เด็ด แนวรุกแดนบนฉวยโอกาสได้เก่งชงเองกินเองได้หมดแบบไม่ต้องมีตัวป้อน แต่น่าเป็นห่วงที่ช่วงหลังแนวรับเริ่มมีช่องให้คู่แข่งเล่นงานกันสนุกเท้า ส่วนผู้มาเยือนเพิ่งจะโกงตายในเกมใหญ่มาสดๆ ร้อนๆ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าพวกเขาเป็นบอลที่เน้นความใจสู้ วิ่งสู้ฟัดไม่มีหมดพร้อมบดบี้ขยี้คู่แข่งด้วยเกมบุกอันดุดันเร้าใจ แต่บางทีการหวังพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นต่างชาติมากเกินไปอาจถูกจับทางได้ง่าย เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์นาทีนี้เชื่อว่าอาคันตุกะนั้นดูเหนือกว่าพอสมควรเพราะฟอร์มสวนทางกันแบบคนละขั้ว ท้ายที่สุดแล้วคงอาศัยประสิทธิภาพในเกมบุกที่กดดันแนวรับเจ้าถิ่นจนตั้งตัวไม่ติดบดเอาชัยไปได้แบบไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (4-4-2) : ธนชัย หนูราช (GK) – เอกณัฏฐ์ คงเกตุ, ณัฐพงษ์ สายริยา, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, ประลอง สาวันดี – ชิดชนก ไชยแสนสุรินธร, นฤพล อารมณ์สวะ, ธัชนนท์ นคราวงศ์, วีรวัฒน์ จิรภัคศิริ – จิดี้ คานยุค, เดนนิส วิลลานูเอวา
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (4-3-3) : สมพร ยศ (GK) – สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, ลูคัส โรช่า, ชาติชาย แสงดาว, วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร – วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ฉัตรมงคล ทองคีรี, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ – วิลเลี่ยน พ็อพพ์, แดร์เลย์, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ
ผลสกอร์ที่คาด : นครราชสีมา มาสด้า 1 – 3 เอสซีจี เมืองทอง