บทวิเคราะห์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมเลกที่สอง โปรแกรมคู่สุดท้ายของรอบนี้ซึ่งจะเป็นการกลับมาดวลแข้งตัดสินกันระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ครั้งนี้จะได้เปิดสนามเหย้า สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของทีมสุดเขี้ยวจาก สเปน “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด โดยทั้งสองทีมจะลงสนามกันในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 17 มีนาคม เวลา 03.00 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เริ้มที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ภายใต้การนำทัพของ โธมัส ทูเคิ่ล ที่เข้ามายกระดับการเล่นของทีมได้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาที่เห็นได้ชัดว่านายใหญ่ชาวเยอรมันแก้ไม่ตกคือเรื่องการจบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายซึ่งระบบของทีมยังสามารถป้อนโอกาสให้บรรดากองหน้าได้ยิงอยู่บ้าง แต่ปัญหาอยู่ที่ความมั่นใจของตัวผู้เล่นเอง หากเป็นแบบนี้ต่อไปช่วงซัมเมอร์นี้อาจจะมีการเบิกงบอีกก้อนเพื่อนตามหาคนที่ใช่มาเติมเต็มแทน อย่างไรก็ตามทีมสิงห์บลูส์ยุคใหม่ก็ยังมีดีที่ความแน่นอน และความเหนียวแน่นของแนวรับทำให้ตลอดการคุมทีมอย่างเป็นทางการของ ทูเคิ่ล 11 นัดทีมดังจากลอนดอนยังไม่พลาดท่าแพ้ให้กับคู่แข่งเลยแม้แต่เกมเดียว ด้านฟอร์มการเล่นเกมล่าสุดในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเดิดอาการกระสุนหมดบุกไปเสมอกับ “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 ทว่าทีมก็ยังไม่หลุดจากเป้าหมายคงยึดอันดับ 4 ของตารางคะแนนเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นไม่ขยับไปไหน แต่อาจจะต้องเสียวเล็กน้อยจากหลายทีมที่ตามหลังเข้าใกล้มาเรื่อยๆ ไปดูที่เรื่องสภาพความพร้อมของทีมเจ้าถิ่นในเกมนี้จะขาดขุนพลคนสำคัญในแดนกลาง 2 รายด้วยกันคือ เมสัน เมาท์ และ จอร์จินโญ่ ซึ่งทั้งคู่ต่างติดโทษแบนจากโควต้าใบเหลืองที่สะสมครบกำนนดพอดีทำให้จะพลาดการลงสนามช่วยทีมอย่างแน่นอน ส่วนบรรดาแข้งตัวหลักคนอื่นๆที่เหลือยังอยู่กันอย่างครบถ้วนทั้งหมด
มาที่ฝั่งผู้มาเยือน “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด กันบ้าง ลูกทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เริ่มจะออกอาการเก็บทรงไม่อยู่ ทำแต้มหล้นเรี่ยราดในลีกช่วง 6 เกมหลังสามารถเก็บชัยชนะมาครองได้เพียง 2 เกมเท่านั้น ส่วนที่เหลือสะดุดเสมอไปถึง 3 เกมและแพ้อีก 1 เกม ทำให้โดนสองมหาอำนาจของลีก เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ย่นระยะห่างเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แบบไม่สนกฎโซเชียลดิสแทนซิ่ง จากที่โอกาสคว้าถ้วยแชมป์ลีกสดใสเริ่มไม่แน่ไม่นอนเสียแล้ว หากยังกดดันตัวเองจนเล่นไม่ออกแบบตอนนี้ก็มีสิทธิ์สูงที่จะโดนสอยลงจากบัลลังก์จ่าฝูงได้ทุกเมื่อ ซึ่งฟอร์มการเล่นนักล่าสุดเห็นชัดเจนเลยถึงอาการเมาหมัดเมื่อพวกเขาเจาะ เกตาเฟ่ ทีมฟอร์มตกที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนไม่เข้าส่งผลให้ต้องเจ๊าแบ่งคะแนนกันไปแบบจืดๆ 0-0 โดยเกมนี้ทีมเยือนมีข่าวดีกว่าเกมในเลกแรกเมื่อบรรดาแข้งตัวเก่งของทีมทั้งหมดกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ทันเวลาพอดี ซึ่งจะทำให้ “เอล โชโล่” ได้เลือกสรรค์ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามสู้ศึกครั้งนี้อย่างแน่นอน
วิเคราะห์ก่อนเกม ไปดูที่ผลงานเกมเลกแรกที่เจอกันเป็นฝ่าย เชลซี ที่บุกไปเก็บชัยมาได้แบบหวุดหวิด 1-0 จากลูกยิงระดับส่งเข้าประกวดปุสกัส อวอร์ด ของ โอลิเวียร์ ชิรูด์ ทำให้เชื่อว่ารูปเกมนัดนี้จะเปิดแลกกันมากกว่าเกมที่ผ่านมาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามด้วยสไตล์การเล่นของทั้งสองทีมที่เน้นไปที่ความรัดกุมเหมือนกัน ก็จะทำให้โอกาสที่จะได้เข้าไปส่องแบบเน้นๆมีน้อยมาก แม้ทีมตราหมีจะเตรียมพร้อมมาบุกก็จริง แต่หากเวลายังไม่จวนตัวจริงๆ ก็คงจะอาศัยเล่นแบบชิงจังหวะกันไปก่อน ทางเจ้าบ้านเกมนี้มองว่าผู้เล่นในแดนกลางจะมีปัญหาเล็กน้อยการขาดหายไปของ เมสัน เมาท์ ที่กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มทำให้เรื่องการจบสกอร์น่าห่วงเพิ่มขึ้นไปอีก จะเห็นได้ว่าหลายๆ ครั้งที่ทีมอึดอัดยิงประตูออกนำไม่ได้มักจจะเป็นกองกลางชาวอังกฤษรายนี้ที่เป็นคนเบิกความหวังให้กับทีมตลอด ส่วน จอร์จินโญ่ ก็เป็นแข้งที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในยุคของ ทูเคิ่ล ที่เน้นเรื่องการครองบอลเป็นหลักด้วย แต่บรรดาแข้งอื่นๆ ที่เหลือของทีมก็ยังมีคุณภาพระดับสูง ดังนั้นความแกร่งของทีมอาจจะหล่นลงมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนทางทีมเยือนทรงบอลที่ต้องบุกเข้าใส่คู่แข่งเพื่อเอาประตูให้ได้อย่างเดียวไม่ใช่แนวทางที่ถนัดของทีมเท่าไหร่นัก แต่หากฉวยโอกาสออกนำเร็วไม่ได้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด ซึ่งความหวังของหมู่บ้านคงต้องฝากไว้ให้ดาวยิงสุดอันตรายอย่าง ซัวเรซ ให้ระเบิดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ด้วยคุณภาพของทีมรวมไปถึงระบบทีมที่ดีด้วยกันของทั้งสองฝ่ายทำให้ยังคาดเดาผลที่จะออกมาได้ยากมาก อยู่ที่จังหวะจริงๆ ว่าฝ่ายไหนจะฉกฉวยความผิดพลาดได้ก่อนกัน แต่สิ่งที่แน่นอนเลยคือแท็คติกการเล่นสุดเขี้ยวของทั้งสองทีมที่จะห่ำหั่นใส่กันจะทำให้ออกมาเป็นเกมการแข่งขันที่คุณภาพสูงมากที่สุดอีกคู่หนึ่งคอบอลทุกคนจึงไม่ควรพลาด และหากให้เลือกทีมที่จะได้ไปต่อยังคิดว่า เชลซี ที่ได้ลงเล่นในรังเหย้า บวกกับความมั่นใจของทีมช่วงหลังยังสูงกว่าผู้มาเยือนมากน่าจะมีโอกาสดีกว่าที่จะได้เดินทางเข้าสู่รอบต่อไป
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ด เมนดี้ (GK) – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – รีส เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ – คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์ – ติโม แวร์เนอร์
แอตเลติโก มาดริด (3-5-2) : ยาน โอบลัค (GK) – เฟลิเป้, สเตฟาน ซาวิช, มาริโอ เอร์โมโซ่ – ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, โธมัส เลอมาร์, มาร์กอส ยอเรนเต้, โกเก้, ซาอูล ญีเกซ – หลุยส์ ซัวเรซ, ชูเอา เฟลิกซ์
ผลสกอร์ที่คาด : เชลซี 1 – 1 แอตเลติโก มาดริด