วิเคราะห์บอล ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย กลุ่มเอ นัดสุดท้าย คู่ระหว่าง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอิรัก โดยฟุตบอลนัดนี้จะลงเตะกันในคืนวันอังคารที่ 14 มกราคม เวลา 20.15 ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
เจ้าบ้าน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย คุมทีมโดย อากิระ นิชิโนะ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่น ลงเล่นในรายการนี้ไปแล้ว 2 นัด ทำผลงานได้อย่างมีลุ้นด้วยการชนะ 1 นัด จากการเปิดบ้านถล่ม ทีมชาติบาห์เรน ไปขาดลอย 5-0 และแพ้ 1 นัด จากการโดน “ซอคเกอร์รูส์” ทีมชาติออสเตรเลีย แซงเอาชนะ 1-2 ปัจจุบันมี 3 แต้ม ยิงได้ 6 ประตู เสีย 2 ประตู รั้งอันดับสองของกลุ่ม สำหรับความพร้อมในเกมนี้ยังต้องรอเช็คความฟิตของสองผู้เล่นหลักในแนวรุกอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ได้รับบาดเจ็บในการลงสนามนัดล่าสุด แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดทั้งสองคนน่าจะถูกเข็นลงสนามได้ โดยความหวังของตัวหลักที่พร้อมลงสนามแน่ๆ ในเกมนี้ต้องฝากไว้ที่ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ที่เพิ่งยิงประตูได้ในนัดล่าสุด
ทีมเยือน ทีมชาติอิรัก คุมทีมโดยโค้ชในบ้านเกิดอย่าง อับดุล–กานี่ ชาฮัด ลงสนามในรายนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 2 นัด เสมอทั้งสองนัด ซึ่งเกมแรกเสมอกับ “ซอคเกอร์รูส์” ทีมชาติออสเตรเลีย 1-1 และนัดล่าสุดเสมอกับ ทีมชาติบาห์เรน ไปสุดสนุก 2-2 ปัจจุบันมี 2 คะแนน ยิงได้ 3 ประตู เสีย 3 ประตู อยู่ในอันดับสามของกลุ่ม สำหรับความพร้อมในเกมนี้ไม่มีตัวเจ็บหรือติดโทษแบนนำทัพมาโดย โมฮัมเหม็ด กาซิม ที่ยิงไปแล้ว 2 ประตู จากการลงเล่นทั้งสองนัดที่ผ่านมา
วิเคราะห์ก่อนเกม ฟุตบอลในนัดนี้เป็นเกมนี้ชะตาของทั้งสองทีม โดยต่างฝ่ายต่างมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันในการเข้ารอบ โดยเจ้าบ้าน ทีมชาติไทย นั้นขอแค่ไม่แพ้ในนัดนี้ก็เพียงพอต่อการเข้ารอบต่อไปทันที ส่วนทีมเยือน ทีมชาติอิรัก นั้นมาแบบบอลหน้าเดียว คือ ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นจึงจะผ่านเข้ารอบต่อไปทันทีเช่นกัน ซึ่งเมื่อมองกันตามความเป็นจริงแล้ว ทีมชาติไทย ได้เปรียบในการเล่นเป็นเจ้าบ้าน แถมได้รับกำลังใจจากเสียงเชียร์ในสนามเป็นการปลุกเร้าตลอดทั้งเกม และจากที่สังเกตุในสองนัดที่ผ่านมาการเล่นดูเป็นระบบมากขึ้น มีแนวทางชัดเจน เล่นบอลเท้าสู่เท้าได้แบบเข้าขารู้ใจ แต่มีข้อเสียใหญ่ๆ เลยก็คือความฟิตของนักเตะที่หมดแรงไวไม่สามารถทำเกมเพรสซิ่งอันเป็นจุดเด่นได้ตลอด 90 นาที ยิ่งไปกว่านั้นตัวสำรองยังไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้ดีพอ ส่วน ทีมชาติอิรัก นั้นจุดอ่อนอยู่ที่เกมรับที่พร้อมเสียประตูได้ตลอดจากการลงเล่นสองนัดที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อเทียบองค์ประกอบต่างๆ แล้วเชื่อว่า ทีมชาติไทย คงมีดีพอในการเก็บอย่างน้อยหนึ่งแต้มในเกมนี้ เนื่องจากแท็กติกของ อากิระ นิชิโนะ นั้นมักจะใช้ได้ผลกับชาติอาหรับทั้งหลาย พร้อมกับการผ่านไปเล่นรอบต่อไป
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ทีมชาติไทย (4-2-3-1) : กรพัฒน์ นารีจันทร์ (GK) – มีโชค มหาศรานุกูล, ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรมสุภะ, ทิตาธร อักษรศรี – กฤษดา กาแมน, สรวิทย์ พานทอง – อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, สุภโชค สารชาติ, ศุภนัฏฐ์ เหมือนตา – ศุภชัย ใจเด็ด
ทีมชาติอิรัก (4-4-1-1) : อาลี คาดิม ฮาดี อัล อาดาวี (GK) – มุสตาฟา โมฮัมหมัด จาเบอร์, นาจม์ ชวาน, มุนตาเดอร์ ซาตตาร์, ฮาซาน ราเอด มาทรุค – ฮุสเซน แจบบาร์, อับดุลอับบาส อายาด, โมฮัมหมัด มาซาร์, โอมาร์ อาสซี่ – โมฮัมเหม็ด เรดา จาลีล – โมฮัมเหม็ด กาซิม
ผลที่คาด ทีมชาติไทย 1 – 1 ทีมชาติอิรัก