คู่นี้จะเตะกันในวันเสาร์เวลา 00.00 น. หรือเช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาประเทศไทย จะทำการแข่งขันกันในสนามซานติอาโก้ เบอร์นาบิว รังเหย้าของราชันชุดขาวเรอัล มาดริด ทั้งสองทีมเอาชนะมาได้ในนัดแรกด้วยกันทั้งคู่
ทางด้านเจ้าบ้านอย่างเรอัล มาดริดนำเข้าสตาร์หลายต่อหลายคนในช่วงตลาดการซื้อขาย อาทิเช่น เอแดร์ มิลิเตา, เอเด็น อาซาร์, ลูก้า โยวิช, เฟอร์ลองด์ เมนดีรวมถึงดาวรุ่งที่เซ็นล่วงหน้ามาอย่าง โรดริโก้ ในส่วนของผู้รักษาประตูในนัดแรกยังคงใช้บริการของธิโบต์ กูร์ตัวส์ ส่วนตำแหน่งอื่นๆยังเป็นผู้เล่นตัวหลักๆจากฤดูกาลก่อนๆเช่นเดิม ส่วนผู้เล่นตัวที่เซ็นมาใหม่หลายคนยังนั่งเป็นสำรองรวมถึงเจออาการบาดเจ็บ แต่ในนัดนี้จะไม่มีลูก้า โมดริชที่โดนใบแดงไล่ออกในนัดก่อน ส่วนเอเด็น อาซาร์มีลุ้นหายเจ็บจากข่าวตอนแรกที่ออกมาว่าอาจจะต้องพักร่วมเดือน
ส่วนเรอัล บายาโดลิดที่เกือบตกชั้นในฤดูกาลก่อน ในปีนี้ไม่ได้มีการเสริมทีมเท่าไหร่นัก รวมถึงต้องเสียเฟร์นานโด กาเลโร่กองหลังตัวหลักไปให้กับเอสปันญ่อล ทำให้ฤดูกาลนี้ถือว่าทีมมีคุณภาพลดลงจากฤดูกาลที่แล้ว ถึงจะได้ชนะชัยในนัดแรกก็จริงแต่ส่วนนึงก็เพราะทางด้านคู่แข่งอย่างเรอัล เบติสเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 8 แล้วกว่าที่จะยิงประตูชัยได้ ก็ต้องรอถึงนาทีที่ 89 เลยทีเดียว
ถึงแม้เรอัล มาดริดจะยังไม่ฟูลทีมเท่าที่ควร แต่ด้วยศักยภาพบวกกับการได้เล่นในซานติอาโก้ เบอร์นาบิวบ้านของตัวเอง ทำให้โอกาสที่เรอัล บายาโดลิดจะได้คะแนนกลับออกไปนั้นดูริบหรี่เหลือเกิน ในแนวรุกของเรอัล มาดริดหากเอเด็น อาซาร์หายเจ็บไม่ทัน แต่ก็ยังมีวินิซิอุส จูเนียร์รวมทั้งแกเร็ธ เบลที่มีข่าวเรื่องย้ายทีมตลอดการเปิดตลาดการซื้อขาย แต่ยังสามารถลงไปทำผลงานได้เป็นอย่างดีในการแข่งขันในนัดแรก เชื่อว่านัดนี้ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่ราชันชุดขาวจะเก็บ 3 คะแนนได้