เก่งหลังเกม : หงส์กดปืน 3-1 เดอะค็อปชื่นมื่นหัวใจ by แฟนบอลโปรไลเซนส์

เริ่มเกมเป็นฝ่ายเจ้าถิ่นเปิดเกมบุกเข้าใส่เต็มกำลัง ใช้การวิ่งกดดันทางฝั่งของอาร์เซนอลตั้งแต่เริ่มเกม ส่วนทางอาร์เซนอลยังต่อบอลกันยากจากการโดนเพลสซิ่งจากเจ้าถิ่น หงส์แดงใช้การบุกทางซ้ายเป็นส่วนใหญ่ในช่วงต้นเกม มีโอกาสหลายครั้งแต่ยังใส่สกอร์ไม่ได้ ทีมเยือนก็มีโอกาสอยู่บ้างเหมือนกันจากจังหวะโต้กลับ และมาได้โอกาสใกล้เคียงมากๆจากอาเดรียนที่เกือบแจกโชคคู่แข่งอีกครั้ง

สิ่งนึงที่เห็นได้ชัดในเกมนี้ คืออาวุธใหม่ของลิเวอร์พูลนั่นก็คือการยิงไกลของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสันที่มีโอกาสสับไกลหลายครั้ง ซึ่งเจ้าตัวเคยทำประตูได้ตอนเล่นให้กับสกอตแลนด์ในการแข่งขันฟุตบอลยูโรรอบคัดเลือก ทีมเยือนเริ่มเห็นช่องในการโจมตี ใช้บอลยาวจากกรานิต ชาก้าให้นิโคสัส เปเป้ที่ใช้ช่องว่างระหว่างที่แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันเติมเกมบุก เรียกได้ว่าหนามยอกเอาหนามบ่งกันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด เพราะการเพลสซิ่งของลิเวอร์พูลอีกนัยนึงคือการเปิดระยะห่างระหว่างแนวรับกับผู้รักษาประตูเป็นระยะที่ไกลมากกว่า 40 เมตรเลยทีเดียวในบางเวลา แต่การเพลสซิ่งของลิเวอร์พูลทำให้เกือบได้ประตูขึ้นนำจากการกดดันดานี่ เซบายอสเตะขวางหน้าปากประตูตัวเองไปเข้าเท้าซาดิโอ มาเน่ได้ยิงเต็มข้อ แต่ยังดีที่บอลไม่หนีมือแบรดน์ เลโน่

อาร์เซนอลที่ต่อบอลกันไม่ได้เลย อาศัยใช้จังหวะโยนยาวและสวนกลับในการเล่นเกมรุกในครึ่งแรก แล้วมีโอกาสหลุดเดี่ยวของเปเป้ที่เริ่มมาจากการพลาดของจอร์แดน เฮนเดอสันยังดีที่อาเดรียนยังเซฟไว้ได้ เรียกได้ว่าเรื่องเซฟไว้ใจผม แต่เรื่องใช้เท้ากับบอลผมขอบาย ท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 40 จากลูกเตะมุมของเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์เปิดมาให้มาติปโขกเต็มๆ นับว่าเป็นฤดูกาลที่ 7 ติดต่อกันแล้วที่ลิเวอร์พูลยิงอาร์เซนอลได้ในครึ่งแรกที่แอนฟิลด์ หลังจากได้ประตูลิเวอร์พูลยังคงบุกแหลก มีโอกาสทำประตูอีก 2-3 ครั้งแต่จบไม่ลง จบครึ่งแรก หงส์แดง 1 – 0 ปืนใหญ่

โจเอล มาติป กระโดดดีใจ หลังโหม่งทำประตูให้ลิเวอร์พูลเจ้าถิ่นขึ้นนำอาร์เซนอลไปแล้ว 1-0

เปิดครึ่งหลังมายังเป็นหนังม้วนเดิมอาร์เซนอลพยายามต่อบอลจากแดนหลังแต่ก็โดนบีบทำให้ต่อบอลกันลำบาก หนำซ้ำยังมาเสียลูกจุดโทษอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ดาวิด ลุยส์ไปดึงซาลาห์ในเขตโทษ และเป็นอียิปเชี่ยน คิงสังหารเข้าไปด้วยตัวเอง ลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็น 2-0 แล้ว มีข้อสังเกตุเล็กน้อยคือการยิงจุดโทษของซาลาห์ถือว่ายิงได้ดีกว่าที่เคย บอลสูงและเสียบเสาต่อให้ผู้รักษาประตูพุ่งไปถูกทางก็ไม่น่าจะป้องกันได้

หลังจากถูกนำเป็น 2-0 อาร์เซนอลพยายามตั้งเกมบุกมากขึ้น แต่กลายเป็นเพิ่มโอกาสให้ลิเวอร์พูลมีโอกาสสวนกลับหลายต่อหลายจังหวะ จนกระทั่งมาได้ประตูนำเป็น 3-0 ในนาทีที่ 58 จากการเลี้ยงมาจากเส้นกลางสนามของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ลากบอลเข้าเขตโทษแล้วแปด้วยซ้ายบอลเสียบเสาสองอย่างสวยงาม

โมฮาเหม็ด ซาลาห์แปด้วยซ้าย ให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำอาร์เซนอลเป็น 3-0 ซึ่งเป็นลูกที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วยเช่นกัน

หลังจากขึ้นนำ 3-0 ลิเวอร์พูลก็เริ่มผ่อนเกมส์ มีการเปลี่ยน 2 ตัวหลักในแดนหน้าอย่างมาเน่กับเฟอร์มิโน่ไปพัก อาร์เซนอลก็เปลี่ยนตอร์เรร่ากับลากาแซตต์ลงมาแต่ไม่รู้ช้าไปรึเปล่า ในช่วงท้ายเกมอาร์เซนอลมาได้ประตูปลอบใจจากตอร์เรร่าในนาทีที่ 85 ตีไข่แตกเป็น 3-1 ซึ่งในนัดนี้กองหลังกับกองกลางอาร์เซนอลมีข้อผิดพลาดมากมาย เกมรับที่ว่าแย่อยู่แล้วดันไปเซ็น ดาวิด ลุยซ์ที่แย่ในเกมรับอีกเช่นกันมาร่วมทีม ทำให้พัฒนาการด้านเกมรับจากฤดูกาลทีผ่านมาแทบจะไม่ได้เห็นเลย จบเกมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เอาชนะ ปืนใหญ่อาร์เซนอลไป 3-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแข่ง 3 นัดชนะรวดเป็นทีมเดียวในลีกมี 9 คะแนนเต็มแต่เสียประตูทุกนัด ส่วนทางด้านอาร์เซนอลหยุดสถิติชนะรวดไว้เท่านี้

เกมนัดนี้อูไนวางหมากมาดีแล้ว เน้นรับแล้วใช้บอลยาวผสมกับความเร็วของเปเป้เจาะช่องโรเบิร์ตสันที่เติมสูงเป็นอาจิน แต่หลายจังหวะยังทำได้ไม่ดี รวมทั้งจังหวะหลุดเดี่ยวถ้าเปลี่ยนเป็นประตูได้รูปเกมคงเป็นอีกแบบ หลังจากโดน 1-0 มันก็เล่นยากขึ้น หนำซ้ำโดน 2-0 นี่มันก็ต้องบุกแลกจนประทั่งเปิดช่องให้ลิเวอร์พูลสวนกลับ ซึ่งเกมบุกลิเวอร์พูลชอบโอกาสแบบนี้อยู่แล้ว ในอังกฤษหลายปีหลัง เห็นจะมีก็แต่แมนซิตี้กับสเปอร์ ที่เปิดเกมบุกคุมเกมใส่ลิเวอร์พูลได้ ยิ่งแมนซิปีที่แล้วเล่นกับลิเวอร์พูลยังระวังเป็นพิเศษ ไม่เปิดเกมรุกใส่เต็มข้อเหมือนอย่างปีก่อนๆ ในช่วงเปิดตลาดการซื้อขายในครั้งต่อไป ถึงเวลาที่อาร์เซนอลจะต้องใช้เงินแก้ปัญหาเกมรับบ้างแล้ว

ส่วนผลคู่อื่นๆมีดังนี้

Norwich City 2 – 3 Chelsea
Brighton & Hove Albion 0 – 2 Southampton
Manchester United 1 – 2 Crystal Palace
Sheffield United 1 – 2 Leicester City
Watford 1 – 3 West Ham United

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

Scroll to Top