รูปเกมในครึ่งแรก ต้องบอกว่าสูสีเลยทีเดียว ไม่คิดว่าจะได้เห็นสกอตแลนด์เปิดเกมรุกใส่เบลเยี่ยมแบบเต็มอัตรา ส่วนเบลเยี่ยมเน้นสวนอย่างเดียว แต่การสวนขึ้นมาแต่ละครั้งต้องบอกว่าหนักหน่วงจริงๆ เบลเยี่ยมขึ้นนำในนาที 9 จากจังหวะโต้กลับเร็วของเควิน เดอ บรอยน์ ที่กระชากมาถึงกรอบเขตโทษแล้วใจเย็นรอลูกากูเติมขึ้นมา ถึงค่อยถวายพานส่งให้ลูกากูบรรจงแปแบบไม่ต้องจับ เบลเยี่ยมขึ้นนำเร็วจากจังหวะการยิงครั้งแรกของพวกเขาในเกมนี้
นาทีที่ 24 เบลเยี่ยมมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะเตะมุม เดอ บรอยน์เล่นสั้นกับมูนิเยร์ชิ่งกลับมาให้เดอ บรอยน์ ครอสเข้าเขตโทษ บอลเข้าหัวแฟร์มาเล่นโหม่งเข้าประตูไป เบลเยี่ยมมานำห่างออกไปอีก จากลูกเตะมุม เป็นเดอ บรอยน์ คนดีคนเดิม เปิดเข้ามาให้อัลเดอร์ไวเรลด์โหม่งชนคานลูกตกลงมาข้ามเส้น เบลเยี่ยมหนีห่างเป็น 3-0 ในนาทีที่ 32 เบลเยี่ยมยิงเข้ากรอบ 3 ครั้งเป็น 3 ประตู
ด้วยรูปเกมในครึ่งแรกหากมาดูกันที่สกอร์ ถือว่าน่าเจ็บใจสกอตแลนด์มาก แต่ต้องบอกว่าสกอตแลนด์ ถึงแม้จะครองเกมได้มากกว่า และเปิดเกมรุกได้มากกว่าก็จริง แต่โอกาสยิงแทบจะไม่มีเลย ต่างจากเบลเยี่ยมที่หาโอกาสทำประตูได้มากมาย หากตัวจบทำได้ดีกว่านี้ อาจจะมีสกอร์ถึง 4-5 ลูกเลยในครึ่งแรก
ครึ่งหลังมา สกอตแลนด์ก็พยายามบุกเข้าใส่เหมือนเดิม แต่ถ้าเทียบกับครึ่งแรกถือว่าทำได้ดีขึ้น หาจังหวะจบได้เยอะขึ้น แต่จังหวะที่ทำให้ธิโบต์ คูร์ตัวส์ต้องออกแรงเซฟนั้นก็ยังมีไม่มากเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับโอกาสที่มี เบลเยี่ยมเองมาในครึ่งหลังก็ไม่ได้เน้นที่จะเอาประตูเพิ่มซักเท่าไหร่ เล่นเหมือนได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร จังหวะเติมสูงไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะเน้นใช้การวางบอลยาวขึ้นหน้าไปยังที่ว่าง ให้ตัวรุกไปเก็บบอลแล้วเล่นกันเอาเอง
นาทีที่ 82 เบลเยี่ยมมาได้ประตูย้ำชัยชนะจากการโต้กลับ เป็นลูกากูที่หลุดขึ้นมาจ่ายถวายพานให้กับเดอ บรอยน์ที่เติมมาทางซ้าย เอี้ยวตัวแปด้วยขวา บอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม เวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ จบเกมเบลเยี่ยมบุกมาชนะสกอตแลนด์ไป 4-0
เกมนัดนี้สกอตแลนด์เองก็ทำได้ดีในระดับนึงแล้ว การเจอกับทีมระดับเบลเยี่ยมแล้วสามารถครองเกมบุกใส่ตั้งแต่เริ่มเกม ถึงแม้ตอนจบเกมอาจจะดูใกล้เคียงแต่นั่นก็เรียกว่าเหนือความคาดหมายแล้ว หากดูแต่สกอร์มันอาจจะเห็นว่าสกอตแลนด์สู้ไม่ได้เลย แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่ความต่างในการเล่นในพื้นที่สุดท้าย บางครั้งมันคือช่องว่างระหว่างทีมธรรมดากับทีมระดับท๊อป นัดนี้เบลเยี่ยมใช้ประโยชน์จากลูกากูได้คุ้มมาก อาศัยการวางบอลไปยังที่ว่างให้ลูกากูวิ่งไปเล่น ดูเหมาะกับเจ้าตัวมากกว่าให้ยืนปักหลักเป็นกองหน้าตัวเป้าคอยพักบอลให้เพื่อน
สุดท้ายคนที่ไม่มีพูดถึงไม่ได้เลยคือ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์อันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบันตามความเห็นข้าพเจ้า ในนัดนี้ทำไป 3 แอสซิสต์ในครึ่งแรก บวกกับ 1 ประตูในท้ายครึ่งหลัง น้ำหนักบอลที่จ่ายออกไปแต่ละครั้ง เพื่อนเล่นต่อสบายแบบไม่ต้องแต่ง น่าอิจฉาเพื่อนร่วมทีมจริงๆ รวมถึงเกมรับที่คอยวิ่งช่วยบีบ ช่วยตัดบอลอยู่ตลอดเวลา พอทีมได้บอลเพื่อเล่นเกมรุก ก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดี สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้ทำสกอร์หลายต่อหลายครั้ง จนคนอาจจะลืมไปเลยว่าทีมชาติเบลเยี่ยมนัดนี้ไม่มีอาซาร์อยู่ ก็เหมาะสมสำหรับฟีฟ่าแรงค์กิ้งอันดับ 1 แล้วสำหรับเบลเยี่ยม ส่วนสกอตแลนด์เองก็คงต้องพัฒนากันต่อไป หากอยากไปเล่นรายการระดับเมเจอร์ในอนาคต