วิเคราะห์บอล ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดนี้เป็นการโคจรมาเจอกันของสองทีมหัวตารางในพรีเมียร์ลีกอย่าง “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดรังเหย้ารับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี โดยเกมคู่นี้จะลงเล่นกันในช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน เวลา 22.00 น. ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เจ้าบ้าน “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทัพของกุนซือตาหวาน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผลงานในลีกฤดูกาลนี้ยังคงทำได้อย่างยอดเยี่ยม พาทีมเกาะอยู่ตำแหน่งหัวตารางได้ในเวลานี้ แต่ผลงานหลังจากกลับมาลงเตะ 2 เกมที่ผ่านมาฟอร์มดูจะดรอปลงไป เสมอรวดกับบรรดาทีมท้ายตารางอย่าง “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด 1-1 และ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน 0-0 ส่วนผลงานรายการเอฟเอ คัพ รอบที่ผ่านมา พวกเขาเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “ตราลูกโลก” เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมจากศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาได้ด้วยสกอร์ 1-0 สำหรับความพร้อมของพลพรรคจิ้งจอก ก่อนจะลงสนามเกมนี้มีรายงานนักเตะที่จะลงสนามช่วยทีมไม่ได้แน่นอนแล้ว 2 รายคือ ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ็คขวาตัวเก่งชาวโปรตุเกส และ ดาเนียล อมาร์ตีย์ กองหลังชาวกาน่า
ทีมเยือน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่คุมทัพโดยอดีตนักเตะระดับตำนานของทีม แฟรงค์ แลมพาร์ด ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีก และทีมก็โดนแบนการซื้อขาย แต่ก็ยังทำผลงานได้ดีเกินคาดพาทีมรั้งอยู่อันดับที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกในขณะนี้ โดยขณะนี้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงวงคึกคักสุดขีด 2 เกมหลังจากกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง พวกเขาเก็บชัยมาได้ทั้งหมดด้วยการบุกไปพลิดเชือด “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า 2-1 และในเกมนัดล่าสุดจัดการเปิดบ้านจม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ด้านผลงานรายการเอฟเอ คัพ รอบที่ผ่านมาพวกเขาเปิดรังพิชิตทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกป้ายแดงอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 2-0 สำหรับความพร้อมของขุนพลนักเตะทีมเยือนเกมนี้จะยังคงขาด 2 นักเตะหน้าเดิมอย่าง ฟิกาโย โทโมรี เซ็นเตอร์แบ็คชาวอังกฤษ และ มาร์โก ฟาน กิงเคล มิดฟิลด์ชาวฮอลแลนด์ที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมมาหมาดๆ แม้จะไม่มีโอกาสลงเล่นเลยก็ตาม ส่วนแข้งตัวหลักคนอื่นๆที่เหลือยังพร้อมลงสนามกันทุกคน
วิเคราะห์ก่อนเกม ต้องบอกว่าขวัญและกำลังใจของทั้งสองนั้นแตกต่างกันสิ้นเชิง เจ้าบ้านแม้ตุนคะแนนได้มากมายในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่ปัจจุบันต้องบอกว่าอันดับสามของพวกเค้าไม่มั่นคงเอาซะแล้ว 7 เกมหลังในลีกเพิ่งชนะไปเพียงเกมเดียว เรียกได้ว่าขวัญเสียกันทั้งทีมแล้ว ส่วนผลงานในรายการนี้ก็เข้ารอบมาแบบทุกลักทุเลพอสมควร ต่างกับทีมเยือนที่ยิ่งเล่นยิ่งดี ยิ่งระยะหลังชนะสองทีมที่ดีที่สุดในลีกอย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ มา เท่ากับได้ขวัญและกำลังใจพอสมควร แถมปีนี้พวกเค้าแทบจะเหลือเพียงรายการนี้เท่านั้นที่เป็นถ้วยรางวัลที่พวกเขาดูจะยังมีสิทธิ์ชิงชัย ดังนั้นด้วยฝีมือการคุมทัพของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้พาลิเวอร์พูลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ก่อน สตีเว่น เจอร์ราร์ด น่าจะเป็นฝ่ายบุกมามีชัยในนัดนี้ แต่ต้องระวังเพียงเรื่องเดียว คือทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ได้พักมามากกว่าทาง เชลซี ถึงสองวันเต็มๆ
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (GK) – เจมส์ จัสติน, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนคู, เบน ชิลเวลล์ – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, น็อมปาลิย์ส เมนดี้ – เดมาไร เกรย์, เจมส์ แมดดิสัน, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ – เจมี่ วาร์ดี้
เชลซี (4-3-3) : เคป้า อาร์ริซาบาลาก้า (GK) – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, มาร์กอส อลอนโซ่ – มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เมาท์ – วิลเลี่ยน, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, เปรโดร
ผลสกอร์ที่คาด : เลสเตอร์ ซิตี้ 1 – 2 เชลซี