วิเคราะห์บอล ฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ เป็นการโคจรมาบรรจบพบกันของ “ห้างขายยา” เลเวอร์คูเซ่น จบฤดูกาลด้วยอันดับ 5 ของตาราง พบกับแชมป์บุนเดสลีกา สมัยล่าสุดและเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค โดยทั้งสองทีมจะลงแข่งขันในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2563 หรือเข้าสู่ช่วงวันใหม่ของวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2563 เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะทำการเตะกันที่สนาม โอลิมเปียสตาดิโอน ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD ทีวีเพื่อคุณ
“ห้างขายยา” เลเวอร์คูเซ่น ผลงานรอบรองชนะเลิศนัดที่ผ่านมาพวกเขาสามารถบุกไปเอาชนะ ซาร์บรู๊คเค่น ทีมจากลีกล่างที่เป็นม้ามืดไปได้ 3-0 ส่วนผลงานในลีกบุนเดสลีกา ทั้ง 34 นัด กุนซือ ปีเตอร์ บอสซ์ ทำทีมจบอันดับ 5 ของตาราง มี 63 คะแนน ได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกฟุตบอลถ้วยยูฟ่า ยูโรป้า ลีกในฤดูกาลหน้า ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าผิดหวัง เนื่องจากสโมสรตั้งเป้าว่าจะต้องจบอันดับ 1-4 ของตารางเพื่อคว้าสิทธิ์ไปเล่นศึกฟุตบอลถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ส่วนทางด้านสภาพความพร้อมของเหล่าบรรดานักเตะในทีมก่อนลงสนามในศึกครั้งใหญ่ในนัดนี้ เรียกได้ว่าฟิตสมบูรณ์เต็มที่ พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มสูบ โดยแข้งที่เตรียมลงสนามเป็นตัวชูโรงของทีมห้างขายยาในนัดนี้ นำโดย ไค ฮาเวิร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวรุกอัจฉริยะที่มีฟอร์มการเล่นอย่างสุดยอดมากในฤดูกาลนี้ และ เควิน โฟลลันด์ ศูนย์หน้าตัวเป้าที่ฟิตพร้อมลงมายิงประตูหวังพาทีมคว้าแชมป์
ต่อกันทีทีมแชมป์รายการ เดเอฟเบ โพคาล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาลล่าสุด “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค และเป็นแชมป์สมัยที่ 8 ติดต่อกันเข้าไปแล้ว แถมยังมีลุ้นคว้าแชมป์อีก 2 รายการด้วยกันในฤดูกาลนี้ ภายใต้การคุมทีมของ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค กุนซือที่เข้ามาคุมทีมแทนที่ของ นิโก้ โควัช ที่ถูกปลดออกไปเมื่อปีกลาย ซึ่งเป็นผลงานที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง มาต่อกันที่สภาพความพร้อมของเหล่าบรรดาขุนพลนักเตะของยอดทีมครองลีกเยอรมันจากแคว้นบาวาเรียก่อนลงโชว์เพลงแข้งในนัดนี้ยังไม่สามารถใช้งาน นิคลาส ซูเล่อ ปราการหลังตัวกลางชาวเยอรมันที่กำลังเรียกความฟิตอย่างหนัก รวมไปถึง ติอาโก้ อัลคันทาร่า มีอาการเจ็บโคนขาหนีบ ยังไม่แน่ใจว่าจะหายทันมาช่วยทีมในนัดนี้ได้หรือไม่และ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ มิดฟิลด์ตัวกลางเลือดเฟร้นช์มีอาการบาดเจ็บข้อเท้า ยังไม่ชัวร์ว่าจะหายทันช่วยทีมในนัดนี้หรือไม่เช่นเดียวกัน แต่นอกเหนือจากรายชื่อที่รายงานไปนั้น ยังคงแข็งแกร่งอยู่เช่นเคย นำโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ศูนย์หน้าดาวซัลโวลีกบุนเดสลีกากับผลงานยิงในลีกไป 31 ประตู รวมถึงผลงานการยิงประตูในบอลถ้วยใบนี้ 4 ประตู จาก 4 นัดด้วยกัน ต่อด้วย โธมัส มุลเลอร์ ยอดแข้งสารพัดตำแหน่งในแนวรุกที่แอสซิสต์ในลีกไปถึง 21 ครั้ง พร้อมลงหวังคว้าชัยในเกมนัดนี้
วิเคราะห์ก่อนเกม สำหรับสถิติการพบกันของทั้งสองทีมทุกรายการใน 6 นัดหลังสุดผลปรากฏว่า ห้างขายยา เป็นรองต่อ เสือใต้ โดยชนะเพียง 1 นัดแต่แพ้ไปถึง 5 นัดด้วยกันและสำหรับรายการนี้ เลเวอร์ เคยได้แชมป์เพียง 1 ครั้งเท่านั้น โดยต้องย้อนไปเมื่อปี 1993 เลยทีเดียวและได้ตำแหน่งรองแชมป์ 2 ครั้งด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม กุนซือของทีมพร้อมสั่งลูกทีมเล่นเต็มที่ในนัดประวัติศาสตร์นัดนี้ให้เล่นแบบถวายหัวเพื่อจะล้มทีมยักษ์ใหญ่จากแคว้นบาวาเรียให้ได้ เพื่อเหล่าบรรดาแฟนบอลของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตามเกมรับของทีมยังมีความรั่วอยู่ให้เห็น รวมถึงความนิ่งของนักเตะที่พอเกมนัดสำคัญมักจะลนลานและไม่มีสมาธิจนทำให้ทีมพลาดไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งถ้าปรับตรงนี้ได้ ไม่แน่ว่าเกมนี้ทางผู้เป็นรอง ก็อาจทำเซอร์ไพรส์ได้เช่นกัน ส่วนอีกฝั่งโคตรทีมยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมัน ผลงานโดยรวมของฤดูกาลนี้หลังเปลี่ยนโค้ชเป็น ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค ก็ไม่มีใครหยุดพวกเขาอยู่เหมือนเคย คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้อย่างยิ่งใหญ่ แถมผลงานในศึกฟุตบอลถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็กำลังทำได้ดีโดยเป็นการบุกไปชนะต่อ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 3-0 ในเลกแรก ดูอย่างไรแล้วเสือใต้เหนือกว่าอย่างมาก ทั้งขุมกำลังและสภาพจิตใจของนักเตะ รวมถึงสถิติที่การพบกันที่ข่มอย่างมาก จุดอ่อนแทบไม่มี เกมรุกสุดสะเด่ายิงกันระเบิดเทิดเทิง มาถึงตรงนี้จึงขอคาดเดาและทำนายผลในเกมนัดนี้ว่า เลเวอร์คูเซ่น ไม่น่าจะสามารถต้านทานความแข็งแกร่งของ บาเยิร์น มิวนิค ได้ ซึ่งผลประตูน่าจะมีกันทั้งสองฝั่ง
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : ลูคัส ราเด็คกี้ (GK) – อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, สเวน เบนเดอร์, โยนาธาน ทาห์, ลาร์ส เบนเดอร์– ยูเลียน เบาม์การ์ทลิงเกอร์, เคเร็ม เดมีร์บาย – มูสซ่า ดิยาบี้, ไค ฮาเวิร์ตซ์, เลออน ไบลี่ย์ – เควิน โฟลลันด์
บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ (GK) – แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวี่ส์ – เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โยชัว คิมมิช – คิงสลี่ย์ โกม็อง, โธมัส มุลเลอร์, เซิร์จ นาบรี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ผลสกอร์ที่คาด : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 1 – 4 บาเยิร์น มิวนิค