วิเคราะห์บอล ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์เกมปิดท้ายของโปรแกรมนัดที่ 37 เป็นการโคจรมาเจอกันระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก เปิด แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมอันดับที่ 3 ของลีก โดยทั้งสองทีมจะลงสนามฟาดแข้งกันในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ 22 กรกฎาคม เวลา 02.15 น. หรือเข้าสู่ช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่น ภารกิจของพวกเขาในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จลุล่วงสมบูรณ์แล้ว หลังพาทีมปลดปลดแอกคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จในรอบ 30 ปี ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมเก็บมาได้ถึง 93 คะแนน จากการลงสนาม 36 เกมที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าช่วงท้ายฤดูกาลหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำมาดีกลับไม่ได้อย่างที่หวัง เมื่อ 2 เกมล่าสุดในลีกไม่สามาถชนะใครได้เลย เปิดบ้านเสมอกับ “เดอะ คลาเรตส์” เบิร์นลีย์ 1-1 หมดสิทธิ์ทำสถิติชนะในบ้านทุกเกมในฤดูกาลนี้แน่นอนแล้ว รวมไปถึงเกมล่าสุดที่บุกไปพ่ายให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล 1-2 ความหวังในการทำลายสถิติคว้าแต้มสูงสุดในลีกก็ได้พังทลายลงเช่นกัน ทำให้ฟอร์มโดยรวม 5 เกมหลัง ดูจะขาดความแน่นอนอย่างมากจากการ ชนะ 2 เสมอ 1 และแพ้ 2 เกม สำหรับในเรื่องความพร้อมล่าสุดของผู้เล่นภายในทีมยังคงขาดนักเตะหน้าเดิมที่ปิดฤดูกาลไปแน่นอนแล้วอย่าง โจเอล มาติป และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เตรียมซอยขาชูถ้วยหลังจบเกมนัดนี้ ส่วนบรรดาแข้งตัวหลักที่เหลือคนอื่นๆ ยังสามารถลงสนามมาช่วยทีมกันได้ทั้งหมด
“สิงห์โตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีมเยือน ฤดูกาลนี้แม้จะโดนแบนเรื่องการซื้อตัวไป และใช้กุนซือหน้าใหม่ของลีกอย่าง แฟร้งก์ แลมพาร์ด มาคุมทัพเป็นปีแรก แต่ผลงานที่ทำเอาไว้ถือว่าทำได้ดีเกินคาดมาก สามารถเก็บมาได้ 63 คะแนนจากการลงสนาม 36 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของลีก ยังมีลุ้นคว้าตั๋วไปเล่นรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ในเวลานี้ ส่วนผลงานในลีกช่วง 5 เกมหลังของพวกเขาก็มีออกอาการสะดุดเห็นอยู่หลายครั้งเช่นกัน จากผลงานชนะ 3 เกม และแพ้ 2 เกม ซึ่งล่าสุดที่ลงเล่นในลีกสามารถเปิดบ้านเอาชนะ “เจ้านกขมิ้นเหลืองอ่อน” นอริช ซิตี้ ทีมบ๊วยของลีกมาได้แบบหวุดหวิด 1-0 ส่วนผลงานการลงสนามเกมล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในรายการเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ โชว์ผลงานหรูด้วยการดับความห้าวหาญของทีมฟอร์มแรงอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงได้ ด้วยการไล่ถลุงไป 3-1 ส่งผลให้พวกเขาได้เข้าไปชิงชนะเลิศกับทีมอริร่วมเมืองอย่าง “ปืนใหญ่“ อาร์เซน่อล ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ด้านสภาพความพร้อมของทัพสิงห์บลูส์ในเกมนี้แทบจะไม่มีรายงานผู้เล่นตัวหลักมีปัญหาเลย จะมีก็แต่ บิลลี่ กิลมัวร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่รายเดียว ส่วนทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่หายหน้าไปช่วง 2-3 เกมที่ผ่านมายังต้องลุ้นความฟิตว่าจะกลับมาลงสนามช่วยทีมได้หรือไม่
วิเคราะห์ก่อนเกม ทาง หงส์แดง ฟอร์มการเล่นช่วงหลังต้องบอกว่าหลุดไปเป็นคนละทีมกับช่วงที่เคยก่อนคว้าแชมป์แบบหน้ามือเป็นหลังมือ บรรดานักเตะตัวหลักเล่นกันแบบไร้แรงจูงใจอย่างมาก ยิ่งการขาดหายไปของ เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมตัวจริง นอกจากจะส่งผลเรื่องรูปเกมแล้ว สภาพจิตใจของนักเตะก็พลอยขาดความกระตือลือล้นไปด้วย อย่างไรก็ตามเกมนี้จะเป็นเกมสุดท้ายในบ้านเพื่อที่จะได้เถลิงถ้วยแชมป์ให้น่าจดจำ เชื่อว่า คล็อปป์ จะปลุกใจให้ลูกทีมเล่นแบบมีไฟมากกว่าในช่วงหลายๆเกมที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ส่วนทาง เชลซี กำลังพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมหลังเขี่ย แมนยู พ้นทางในเกมล่าสุด แต่ปัญหาคือการความแน่นอนของทีมยามออกมาเล่นนอกบ้าน และอีกอย่างที่จะส่งผลแน่นอนไม่มากก็น้อยคือเรืองสภาพร่างกายที่ต้องแข่งติดต่อกันมาหลายนัด อย่างไรก็ตามด้วยแรงจูงใจที่มีความกระหายในการคว้า 3 คะแนน จะทำให้ทางทีมเยือนสู้กับทีมแชมป์อย่างสนุกสุดมัน ทำให้มีโอกาสที่บอลคู่นี้จะออกมาได้หมดทั้งสามหน้า โดยยังคงเชื่อว่ายามเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลยังเป็นทีมที่เขี้ยวได้ยากจำแทบไม่ได้ว่าแพ้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ส่วนทาง เชลซี ที่มาด้วยความมั่นใจ และแรงจูงใจที่สูงกว่า ก็จะไม่ยอมพลาดง่ายๆ ดังนั้นจึงเห็นควรว่าเกมนี้ผลจะออกมาด้วยการแบ่งคะแนนกันไปแบบสนุกสูสี
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน (GK) – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
เชลซี (4-3-3) : เคป้า อาร์ริซาบาลาก้า (GK) – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เคิร์ต ซูม่า, มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เมาท์, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช – วิลเลี่ยน, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คริสเตียน พูลิซิช
ผลสกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล 2 – 2 เชลซี